โฆษก สธ.เตือนคนขาย-คนเสพ “ยาบ้า” กลับตัวกลับใจ
หลังครม.เห็นชอบแก้กฎกระทรวง ครอบครองยาบ้าจาก 5 เม็ด เป็น 1 เม็ด เข้าข่ายผู้เสพ-ผู้ขาย
ประเทศไทยต้องปลอดยาเสพติด
วันที่ 12 มิถุนายน 2567 น.ส.ตรีชฎา
ศรีธาดา โฆษกกระทรวงสาธารณสุข ฝ่ายการเมืองเปิดเผยว่า
คณะรัฐมนตรีมีมติในการประชุมเมื่อวันที่ 11 มิถุนายน 2567
เห็นชอบอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดปริมาณยาเสพติดให้โทษและวัตถุออกฤทธิ์ที่ให้สันนิษฐานว่ามีไว้ในครอบครองเพื่อเสพ
โดยแก้ไขจากเดิมที่กำหนดยาบ้า ไม่เกิน 5 เม็ด น้ำหนักสุทธิไม่เกิน 500 มิลลิกรัม
มาเป็นไม่เกิน 1 เม็ด น้ำหนักสุทธิไม่เกิน 100 มิลลิกรัม คือ
ถ้าครอบครองยาบ้าเกินกว่า 1 เม็ดและน้ำหนักสุทธิเกิน 100 มิลลิกรัมให้ถือว่า
มีไว้ครอบครองเพื่อจำหน่าย ซึ่งจะถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย โดยหลังจากนี้
เมื่อนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขลงนามในกฎกระทรวง
นำไปประเทศในราชกิจจานุเบกษาเมื่อใด วันรุ่งขึ้นก็จะมีผลบังคับใช้ทันที
น.ส.ตรีชฎากล่าวว่า
การสันนิษฐานให้ผู้ครอบครองยาบ้าไม่เกิน 1 เม็ดและน้ำหนักสุทธิ์ไม่เกิน 100
มิลลิกรัม เป็นผู้ครอบครองไว้เพื่อเสพ
ส่วนที่เกินจากนี้ให้ถือว่าครอบครองไว้เพื่อจำหน่าย
เป็นการปรับมาตรการทางกฎหมายให้เข้มข้น ซึ่งเป็นข้อสั่งการของนายเศรษฐา ทวีสิน
นายกรัฐมนตรี ให้กระทรวงสาธารณสุขดำเนินการแก้ไขกฎกระทรวง
ต่อมา กระทรวงสาธารณสุขได้ตั้งคณะทำงานขึ้นมาทบทวนกฎกระทรวง
กระทั่ง ครม.มีมติเห็นชอบดังกล่าว
เพื่อให้การแก้ไขปัญหายาเสพติดประเภทยาบ้ามีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
อีกทั้งให้สอดคล้องกับเจตนารมณ์ของกฎหมายและหลักการ “เปลี่ยนผู้เสพ เป็นผู้ป่วย”
โดยผู้เสพจะถูกนำตัวไปบำบัดรักษา ให้หายเป็นปกติกลับไปอยู่กับครอบครัวและญาติพี่น้องต่อไป
โฆษก สธ. ฝ่ายการเมือง กล่าวว่า
นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวง สธ. เดินหน้าตามเป้าประสงค์ของรัฐบาลเพื่อให้ยาเสพติดหมดไปจากประทศไทย
สร้างอนาคตเยาวชน เตือนไปถึงผู้ที่กำลังลักลอบผลิตยาบ้า ค้ายาบ้าทั้งรายใหญ่
รายเล็ก รวมทั้งยาเสพติดชนิดอื่น ๆ ด้วยเช่น เฮโรอีน ยาไอซ์ ฯลฯ ขอให้หยุดได้แล้ว
นับจากนี้คนที่มียาบ้าอยู่กับตัวเกิน 1 เม็ดจะถือว่ามีไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย
กฎกระทรวงฉบับนี้ถือเป็นยาแรง เพื่อดำเนินการจัดการยาเสพติดขั้นเด็ดขาด
โดยเป็นการทำงานร่วมกับกระทรวงยุติธรรม กระทรวงมหาดไทย กระทรวงกลาโหม ปปส.
และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างเข้มข้น
“หลังจากที่กฎกระทรวงฉบับนี้ประกาศใช้
จะทำให้ผู้ที่คิดกระทำความผิดทั้งผู้ค้า-ผู้เสพ เกิดความหวาดกลัวการกระทำความผิด
เพราะเป็นการจัดการขั้นเด็ดขาดเหมือนในยุคพรรคไทยรักไทยที่เคยจัดการยาเสพติดสำเร็จมาแล้ว
คืนลูกหลานสู่อ้อมกอดครอบครัว ผู้ค้าเลิกการกระทำที่ผิดกฎหมาย
เพราะไม่เป็นผลดีกับตัวเอง เพราะหากถูกตำรวจจับติดคุกเสียอนาคต
ครอบครัวญาติพี่น้องก็ลำบาก” น.ส.ตรีชฎา กล่าวในที่สุด