วันพฤหัสบดีที่ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2567

ศาลอุทธรณ์พิพากษา “สุเทพ - ถาวร “ 1 ปี ไม่รอลงอาญา คดีก่อการร้าย-ชัตดาวน์กรุงเทพฯ ปี 57 ทนายชี้ ศาลมองเป็นการกระทำกรรมเดียวเหตุต่อเนื่องกัน ทนายยื่นประกันชั้นฎีกา

 


ศาลอุทธรณ์พิพากษา “สุเทพ - ถาวร “ 1 ปี ไม่รอลงอาญา คดีก่อการร้าย-ชัตดาวน์กรุงเทพฯ ปี 57 ทนายชี้ ศาลมองเป็นการกระทำกรรมเดียวเหตุต่อเนื่องกัน ทนายยื่นประกันชั้นฎีกา


วันที่ 27 มิถุนายน 2567 ที่ ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลได้นัดอ่านคำพิพากษาศาล อุทธรณ์ คดีกบฏ กปปส.ชุดใหญ่ สำนวนหลัก หมายเลขดำอ.247/2561 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีพิเศษ 4 เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตเลขาธิการ กปปส. กับพวกแกนนำและแนวร่วม กปปส. รวม 39 คน เป็นจำเลยในความผิดฐานร่วมกันเป็นกบฏ, ก่อการร้าย, ยุยงให้หยุดงานฯ, กระทำให้ปรากฏด้วยวาจาหรือวิธีการอื่นใดฯ ทำให้เกิดความปั่นป่วนกระด้างกระเดื่องในราชอาณาจักรฯ, อั้งยี่, ซ่องโจร, มั่วสุมกันตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป ทำให้เกิดความวุ่นวายขึ้นในบ้านเมืองฯ, บุกรุกในเวลากลางคืนฯ และร่วมกันขัดขวางการเลือกตั้งฯ

 

โดยคดีนี้อัยการโจทก์ระบุฟ้องพฤติการณ์ความผิดพวกจำเลยสรุปว่า เมื่อระหว่างวันที่ 23 พ.ย. 2556 - 1 พ.ค. 2557 ต่อเนื่องกัน นายสุเทพ จำเลยที่ 1 ได้จัดตั้งคณะบุคคล ชื่อ “คณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงปฏิรูปประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข” หรือกลุ่ม กปปส. มีนายสุเทพ เป็นเลขาธิการ โดยร่วมกันมั่วสุมเป็นอั้งยี่ ซ่องโจร กองกำลังแบ่งหน้าที่กันกระทำการก่อความผิดต่อความมั่นคงของรัฐภายในราชอาณาจักร ฐานเป็นกบฏเพื่อล้มล้างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2550 เปลี่ยนแปลงระบอบการปกครอง ทั้งอำนาจนิติบัญญัติ อำนาจบริหาร และอำนาจตุลาการ โดยร่วมกันยุยง ปลุกระดมให้ประชาชนทั่วประเทศกระด้างกระเดื่องร่วมชุมนุมขับไล่ ก่อความไม่สงบเพื่อขับไล่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี (ขณะนั้น) ให้ออกจากตำแหน่ง รวมทั้งขัดขวางการเลือกตั้ง ส.ส.ทั่วไป เพื่อมิให้นายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรี (ครม.) ชุดใหม่เข้าบริหารประเทศ ให้ข้าราชการระดับสูงรายงานตัวกับกลุ่ม กปปส.  จากนั้นจะแต่งตั้งคณะบุคคลเข้าบริหารประเทศเป็นรัฐบาลประชาชน เป็นรัฏฐาธิปัตย์ ซึ่งจะออกคำสั่งแต่งตั้งนายกรัฐมนตรี และ ครม. โดยจะนำรายชื่อขึ้นกราบบังคมทูลเอง รวมทั้งจัดตั้งกองกำลังส่วนหนึ่งพร้อมอาวุธเข้าไปบุกยึดสถานที่ราชการและหน่วยงานสำคัญต่างๆ หลายแห่ง เช่น ทำเนียบรัฐบาล สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กองบัญชาการตำรวจนครบาล สำนักงานเขตหลักสี่ ศูนย์เยาวชนกรุงเทพมหานคร (สนามกีฬาไทย-ญี่ปุ่น ดินแดง) เพื่อไม่ให้รัฐบาลบริหารราชการแผ่นดินได้ รวมทั้งการปิดกั้น ขัดขวางเส้นทางคมนาคมขนส่ง เป็นเหตุให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อน 

นอกจากนี้ ช่วงระหว่างวันที่ 13 ม.ค. - 2 มี.ค. 2557 พวกจำเลยได้บังอาจปิดกรุงเทพมหานคร ด้วยการตั้งเวทีปราศรัยทั่วกรุงเทพฯ รวม 7 จุด ปิดกั้นเส้นทางการจราจร จัดตั้งกองกำลังรักษาพื้นที่ วางเครื่องกีดขวาง ไม่ยอมให้เจ้าหน้าที่รัฐเข้าไปเกี่ยวข้อง การกระทำของพวกจำเลยล้วนไม่ชอบด้วยบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2550 เพื่อล้มล้างหรือเปลี่ยนแปลงอำนาจบริหารตามรัฐธรรมนูญ เหตุเกิดในกรุงเทพมหานคร และอีกหลายท้องที่ทั่วราชอาณาจักรเกี่ยวพันกัน นายสุเทพกับพวกจำเลยทั้งหมดให้การปฏิเสธต่อสู้คดี และได้รับการประกันตัว


ต่อมาวันที่ 24 ก.พ. 2564 ศาลอาญามีคำพิพากษาจำคุกจำเลย โดยศาลพิเคราะห์แล้ว เห็นว่า ในส่วนความผิดฐานกบฏและก่อการร้าย พฤติการณ์ชุมนุมไม่มีการใช้กำลังประทุษร้ายบุคคลใด เพื่อล้มล้างการเปลี่ยนแปลงรัฐธรรมนูญ นิติบัญญัติ อำนาจบริหาร จึงไม่เป็นความผิดฐานกบฏ และก่อการร้าย แต่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ และจำเลยอื่นรวม 26 คน ศาลตัดสินจำคุกในความผิดฐานยุยงให้เกิดการหยุดงานเพื่อบังคับรัฐบาล, ร่วมกันกระทำให้ปรากฏแก่ประชาชนด้วยวาจา, ร่วมกันมั่วสุม 10 คนขึ้นไป, ร่วมกันบุกรุกสำนักงานผู้อื่นในเวลากลางคืน, ร่วมกันบุกรุกอสังหาริมทรัพย์ของผู้อื่น  และร่วมกันกระทำการโดยไม่มีอำนาจหน้าที่ตามกฎหมาย


โดยพิพากษาจำคุกนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เป็นเวลา 5 ปี จำคุกนายชุมพล จุลใส เป็นเวลา 9 ปี 24 เดือน จำคุกนายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ เป็นเวลา 7 ปี จำคุกนายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ 6 ปี 16 เดือน จำคุกนายอิสสระ สมชัย 7 ปี 16 เดือน จำคุกนายถาวร เสนเนียม 5 ปี จำคุกนายสุวิทย์ ทองประเสริฐ หรือ พุทธะอิสระ 4 ปี 8 เดือน และจำคุก เรือตรีแซมดิน เลิศบุศย์ 4 ปี 16 เดือน รวมทั้งสิ้น 8 คน


จำเลยที่เหลือ ศาลเห็นว่า เป็นเพียงผู้ร่วมชุมนุม หรือบางคนเป็นแกนนำ แต่กระทำความผิดน้อยกว่าบุคคลอื่น และไม่เคยปรากฏพฤติการณ์รุนแรง และไม่เคยต้องโทษจำคุกมาก่อน ควรให้โอกาสปรับตัวเป็นคนดี จึงให้รอการลงโทษ 2 ปี ให้เพิกถอนสิทธิทางการเมือง นายชุมพล จุลใส ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์, นายอิสสระ สมชัย ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ และนายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ, นายสุวิทย์ ทองประเสริฐ หรือ พุทธะอิสระ, เรือตรีแซมดิน เลิศบุศย์, นายสำราญ รอดเพชร และ นางทยา ทีปสุวรรณ คนละ 5 ปี  ต่อมาอัยการโจทก์และจำเลย ยื่นอุทธรณ์


โดยในวันนี้นายสุเทพ พร้อมเเกนนำ กปปส.ทยอยเดินทางมาศาลโดยมีมวลมามอบดอกไม้ให้กำลังใจจำนวนหนึ่ง


สำหรับคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ มีดังนี้

จำคุกนายสุเทพ จำเลยที่ 1 เป็นเวลา 1 ปี, จำคุกนายชุมพล จำเลยที่ 3 เป็นเวลา 1 ปี 8 เดือน, จำคุกนายพุทธิพงษ์ จำเลยที่ 4 เป็นเวลา 1 ปี, จำคุกนายอิสสระ จำเลยที่ 5 เป็นเวลา 1 ปี 8 เดือน, จำคุกนายถาวร จำเลยที่ 7 เป็นเวลา 1 ปี,จำคุกนายณัฎฐพล จำเลยที่ 8 เป็นเวลา 1 ปี 8 เดือน, จำคุกนายสมศักดิ์ จำเลยที่ 15 เป็นเวลา 1 ปี, จำคุกนายสุวิทย์ จำเลยที่ 16 เป็นเวลา 1 ปี 8 เดือน, จำคุกเรือตรีแซมดิน จำเลยที่ 24 เป็นเวลา 1 ปี 8 เดือน, จำคุกนายคมสัน จำเลยที่ 26 เป็นเวลา 1 ปี, จำคุกนายสาวิทย์ จำเลยที่ 29 เป็นเวลา 1 ปี, จำคุกนายสำราญ จำเลยที่ 33 เป็นเวลา 8 เดือน, จำคุกนายอมร จำเลยที่ 34 เป็นเวลา 1 ปี, จำคุกนายกิตติชัย จำเลยที่ 37 เป็นเวลา 1 ปี, จำคุกน.ส.อัญชะลี จำเลยที่ 10 เป็นเวลา 1 ปี ปรับ 8,000 บาท โทษจำคุกให้รอลงอาญา, จำคุกนายถนอม จำเลยที่ 14 เป็นเวลา 1 ปี ปรับ 8,000 บาท โทษจำคุกให้รอลงอาญา, จำคุกนายสาธิต จำเลยที่ 17 เป็นเวลา 1 ปี โทษจำคุกให้รอลงอาญา ปรับ 8,000 บาท, จำคุกนางทยา จำเลยที่ 38 เป็นเวลา 8 เดือน ปรับ 13,333 บาท โทษจำคุกให้รอลงอาญา


ส่วนจำเลยที่เหลืออีก 19 คน ศาลยกฟ้อง เนื่องจากเห็นว่าเป็นเพียงผู้ร่วมชุมนุม หรือบางคนเป็นแกนนำ แต่กระทำความผิดน้อยกว่าบุคคลอื่น และไม่เคยปรากฏพฤติการณ์รุนแรง และไม่เคยต้องโทษจำคุกมาก่อน ควรให้โอกาสปรับตัวเป็นคนดี จึงให้รอการลงโทษ 2 ปี


ทั้งนี้ นายสวัสดิ์ เจริญผล ทนายความ กล่าวว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างยื่นประกันในชั้นฎีกา ซึ่งคาดว่าศาลจะมีคำสั่งได้ในวันนี้เลย เนื่องจากศาลชั้นต้นสามารถสั่งเองได้เเต่ขึ้นอยู่กับดุลพินิจว่าจะส่งศาลฎีกาหรือไม่หลักทรัพย์เดิมเราเตรียมไว้พร้อมเเล้ว


#UDDnews #ยูดีดีนิวส์ #สุเทพเทือกสุบรรณ #กปปส #กบฎก่อการร้าย #ชัตดาวน์กรุงเทพ