วันศุกร์ที่ 17 ธันวาคม พ.ศ. 2564

ภาคี #saveนาบอน เจรจากับภาครัฐ-เอกชน ลั่นปักหลักหน้ายูเอ็นเช้าวันรุ่งขึ้น เผย สปน.จ่อชงนายกฯ ยุติก่อสร้างโรงไฟฟ้านาบอนจันทร์นี้

 


ภาคี #saveนาบอน เจรจากับภาครัฐ-เอกชน ลั่นปักหลักหน้ายูเอ็นเช้าวันรุ่งขึ้น เผย สปน.จ่อชงนายกฯ ยุติก่อสร้างโรงไฟฟ้านาบอนจันทร์นี้


วันนี้ (17 ธ.ค. 64) เวลา 16.38 น. สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีรับเป็นหน่วยงานกลางจัดการประชุมหารือระหว่างประชาชน ภาคี #saveนาบอน กับผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับกรณีการก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานชีวมวลในอำเภอนาบอน จังหวัดนครศรีธรรมราช โดยมีผู้แทนสำนักนโยบายแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ผู้แทนจากสำนักคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน ในฐานะผู้มีอำนาจรับผิดชอบออกใบอนุญาตการก่อสร้างโรงงาน ผู้แทนบริษัท เอซีอี โซลาร์ จำกัด และบริษัท ไบโอ เพาเวอร์ แพลนท์ จำกัด ในฐานะบริษัทที่ปรึกษา ผู้กำกับสถานีตำรวจนครบาลนางเลิ้ง และรองผู้กำกับสถานีตำรวจนครบาลดุสิต เข้าร่วมด้วย


นายสมพาศ นิลพันธ์ ที่ปรึกษาสำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี รายงานต่อที่ประชุมว่า สำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีรับเป็นหน่วยงานกลางในการจัดการเจรจาระหว่างชาวบ้านนาบอนกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชน สำหรับกรณีข้อเรียกร้องจากชาวบ้านสองข้อ คือ


1. คัดค้านการจัดทำรายงานการศึกษาประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) โดยบริษัทที่ปรึกษา 


2. คัดค้านการขอใบอนุญาตก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานชีวมวลจากสำนักคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน


หลังจากการประชุมเสร็จสิ้น นายเรียง สีแก้ว ผู้แทนภาคประชาชน เปิดเผยผลการประชุมว่า พี่น้องได้แจ้งความต้องการไปแล้วว่าขอให้ยกเลิกโรงไฟฟ้า เนื่องจาก


1. พื้นที่ตั้งไม่เหมาะสม เนื่องจากเป็นชุมชนต้นน้ำ มีสิ่งแวดล้อมและอากาศดี


2. การดำเนินการก่อสร้างนั้นเริ่มสร้างผลกระทบให้พี่น้องประชาชน ทั้งการปรับดินที่ทำให้น้ำท่วมทันที


3. ที่ผ่านมาตั้งแต่เริ่มต้นโครงการเองก็ไม่ได้มีความจริงจัง แม้จะมีการเจรจาว่าจะทำพื้นที่เป็นตลาดทางการเกษตร 


ในการประชุมนั้น สผ. ไม่ได้ชี้แจงอะไร เนื่องจากประธานในที่ประชุม (รองปลัดสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี) ดำเนินการประชุมเพื่อให้รับฟังความทุกข์ ความลำบาก ความกังวล ของพี่น้องประชาชน แล้วให้หน่วยงานให้รับไปพิจารณาดำเนินการ โดยไม่ได้เปิดให้มีการสอบถามแลกเปลี่ยนถกเถียงกัน


ผลการประชุมสรุปว่า ภายในวันจันทร์ ทางสำนักปลัด จะทำหนังสือถึงนายกรัฐมนตรีถึงความเดือดร้อนและข้อเรียกร้องความต้องการของพี่น้องนาบอน ที่จะให้ยกเลิกการก่อสร้างโรงไฟฟ้าชีวมวล ก็จะให้นายกรัฐมนตรีพิจารณาสั่งการต่อไป ซึ่งประธานในที่ประชุม (รองปลัดสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี) รับปากว่าเช้าวันจันทร์จะเห็นหนังสือตัวนี้ จึงถือว่าเป็นข้อสรุปที่ค่อนข้างดี แต่ยังไม่ใช่ข้อเรียกร้องของกลุ่ม


ดังนั้น เดิมที่เราตั้งใจจะปักหลักที่ศาลกรมหลวงชุมพร แต่ตอนนี้มีการดันตู้คอนเทนเนอร์มาชิดถนน ทำให้พักปักหลักไม่ได้ คนนาบอนไม่อยากที่จะฝ่าฝืนหรือมีปัญหาทางกฎหมายซึ่งกันและกัน กลุ่มนาบอนจึงขอแจ้งให้ทราบว่า ตั้งแต่ 6-7 โมงพรุ่งนี้ (18 ธ.ค. 64) พี่น้องนาบอนจะปักหลักที่หน้ายูเอ็นเพื่อรอฟังผลวันจันทร์ โดยเปิดหมู่บ้านชื่อ"'ผู้ประสบภัยจากทุน ขุนศึก และศักดินา" และกิจกรรมที่เราจะทำในวันเสาร์อาทิตย์นี้ คือการเดินทางไปหาผู้ถือหุ้นทุกรายของบริษัท ACE เจ้าของโรงไฟฟ้านาบอนนี้ เพื่อไปบอกให้รู้ว่าหุ้นและกำไรที่ได้มานั้น ได้มาบนคราบน้ำตาและความตายของคนนาบอน"


นายเรียง กล่าวว่า จะปักหลักจนกว่าข้อเรียกร้องคือการยกเลิกโครงการจะบรรลุ ขอฝากให้ช่วงวันเสาร์เย็นติดตามแฉกระบวนการนายทุนขุนศึกและศักดินา และวันอาทิตย์ตอนเย็นเปิดโปงให้เห็นความไม่ชอบมาพากลของ สผ. ไม่ใช่แค่กรณีนาบอนอย่างเดียว แต่ผันน้ำยวมด้วย ขอประกาศให้ชัดว่างานนี้พี่น้องนาบอนสู้ตายถวายหัวจนกว่าจะยุติโครงการได้"


ส่วนประเด็นการเรียกร้องให้ พล.ต.อ.วิระชัย มาพูดคุยด้วยนั้น นายเรียง ชี้แจงว่า ยังคงมีความต้องการจะพูดคุยอยู่ พี่น้องไม่ได้จะปิดประตูตายว่าไม่เอาอย่างเดียว แต่หากได้พูดคุยกับ พล.ต.อ. วิระชัย หน่อยว่าจะปรับเปลี่ยนที่ดินให้เป็นมิตรกับชุมชนมากขึ้นได้หรือไม่


สำหรับประเด็นการชุมนุม นายเรียงเห็นว่า "ตำรวจค่อนข้างกังวลกับกลุ่มน้อง ๆ ที่มาเคลื่อนไหวด้วยในกรุงเทพฯ จริง ๆ หากไม่ใช้อำนาจหรือกฎหมายที่เกินกว่าเหตุคงไม่เกิดเหตุขึ้น ประชาชนมีสิทธิชุมนุม พี่น้องนาบอนคือกลุ่มคนทุกข์อยากชุมนุมโดยสงบ


"จะนะรักษ์ถิ่นเองก็พร้อมเข้าเคลื่อนไหวอีกครั้ง กรณีนี้รัฐบาลโดยกระทรวงพลังงานและ สผ. ต้องรับผิดชอบเรื่องนี้ ขั้นตอนอยู่ในส่วนกระทรวงพลังงาน ทุกเครือข่ายกำลังจะรอ รอผลในวันจันทร์นี้ต่อข้อเสนอพี่น้องนาบอนว่าจะได้รับตอบสนองมากน้อยขนาดไหน ก่อนหน้านี้ก็มีให้เห็นแล้วว่าเมื่อเกิดขึ้นแล้ว ก็สามารถประสานงานกันได้แป้บเดียว ผมไม่คิดว่าจะยากอะไร" นายเรียง กล่าว


#saveนาบอน

#UDDnews #ยูดีดีนิวส์