ครย.แถลงเดินหน้า "ยกเลิก112" เตรียมยื่นหนังสือคัดค้านคำวินิจฉัยของศาลรธน. จ่อยื่นหนังสือถึง "ยูเอ็น" ปมสิทธิมนุษยชนที่เกี่ยวเนื่องกับ ม.112 ก่อนนัดชุมนุมใหญ่ครั้งที่ 2 ที่ราชประสงค์ 12 ธ.ค. 64
วันนี้ (7 ธ.ค. 64) เวลา 11.10 น. ที่บริเวณหน้าอนุสรณ์สถาน 14 ตุลา สี่แยกคอกวัว คณะรณรงค์ยกเลิกมาตรา 112 (ครย.112) นำโดย นายยิ่งชีพ อัชฌานนท์ ผู้จัดการโครงการอินเทอร์เน็ตเพื่อกฎหมายประชาชน (ไอลอว์) และนายสมยศ พฤกษาเกษมสุข แกนนำกลุ่ม 24 มิถุนาประชาธิปไตย พร้อมด้วยแนวร่วมราษฎร อาทิ ทะลุฟ้า, เครือข่ายแรงงานเพื่อสิทธิมนุษยชน เป็นต้น ตั้งโต๊ะแถลงข่าวคัดค้านคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ พร้อมเดินหน้ารวบรวมรายชื่อเสนอกฎหมายยกเลิกมาตรา 112 เรียกร้องตุลาการปล่อยตัวนักโทษการเมือง ยกระดับการเคลื่อนไหวทุกรูปแบบ ซึ่งมีการนัดหมายชุมนุมใหญ่ครั้งที่ 2 วันที่ 12 ธ.ค. 64
นายยิ่งชีพ อัชฌานนท์ หรือ เป๋า ไอลอว์ เผยว่า ปัจจุบัน พ.ร.บ.การเข้าชื่อเสนอกฎหมาย พ.ศ. 2564 กำหนดให้มีรายชื่อขั้นต่ำ 10,000 รายชื่อ แต่ล่าสุดการเข้าชื่อเพื่อยกเลิกประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 มีมากกว่า 237,000 รายชื่อ ซึ่งสามารถนำรายชื่อไปเสนอได้ทันที แต่ทางครย.ขอรอฟังเสียง ส.ส.ในสภาผู้แทนราษฎรก่อน เพราะมีโอกาสที่จะได้เสียง ส.ส.ไม่เพียงพอ และถูกตีตกไปในวาระแรก
นายยิ่งชีพ กล่าวอีกว่า ไม่มีประโยชน์ที่ถูกโหวตตกในวาระแรก การล่ารายชื่อเป็นงานระยะยาวควบคู่ไปกับการเปลี่ยนเสียงในสภา เราจึงต้องการรายชื่อให้มากกว่า 1 ล้านรายชื่อ เพื่อให้ ส.ส.ที่มาจากการเลือกตั้งตระหนักถึงเสียงของประชาชน และหากไม่โหวตรับก็อาจจะไม่ได้รับเลือกตั้งสมัยหน้า
อย่างไรก็ตาม ครย.ไม่ได้กำหนดกรอบระยะเวลา และจำนวนรายชื่อ ขึ้นอยู่กับประชาชนที่เห็นด้วย รายชื่ออาจจะมีมากถึง สองถึงสามล้านคนก็เป็นไปได้
ด้านนายสมยศ พฤกษาเกษมสุข กลุ่ม 24 มิถุนาเพื่อประชาธิปไตย กล่าวว่า การชุมนุมของครย. ในวันที่ 31 ต.ค. 64 ถือเป็นชัยชนะเบื้องต้น เพราะคืนนั้นพรรคเพื่อไทยออกแถลงการณ์ผลักดันให้การแก้กฎหมาย มาตรา 112 เข้าสู่การพิจารณาของสภาฯ เช่นเดียวกับพรรคก้าวไกล โดยหลังจากนี้ครย.จะจับตาดูนโยบายของแต่ละพรรคการเมืองอย่างใกล้ชิด
การเรียกร้องให้ยกเลิกกฎหมาย มาตรา 112 ได้ปักธงในสังคมไทย โดนทุกภาคส่วนเห็นแล้วว่ามาตรา 112 มีปัญหา บังคับใช้ล้นเกิน จำกัดสิทธิเสรีภาพ และปิดกั้นการแสดงความเห็น
สำหรับจุดยืนของ ครย.ที่มีต่อคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ฉบับที่ 19/2564 เมื่อวันที่ 10 พ.ย. 64 ที่กล่าวหาว่าข้อเสนอปฏิรูปสถาบันเป็นการล้มล้างการปกครอง ครย.ไม่เห็นด้วย ยืนยันว่า กฎหมายทุกฉบับที่เกี่ยวข้องกับสิทธิและเสรีภาพของประชาชน สามารถแก้ไขแและยกเลิกได้ผ่านกลไกรัฐสภา และประชาชนย่อมมีสิทธเข้าชื่อเสนอให้แก้กฎหมายได้
ครย.ไม่เห็นด้วยกับคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ เพราะนำไปสู่การปิดกั้นเสรีภาพ ละเมิดสิทธิมนุษยชน ถ้อยคำดังกล่าวได้เปลี่ยนแปลงข้อความที่เป็นหัวใจของรัฐธรรมนูญทุกฉบับที่ว่า "อำนาจอธิปไตยเป็นของปวงชนชาวไทย"
ทั้งนี้ยังเห็นความพยายามของสำนักงานกสทช. ที่ขอความร่วมมือสื่อมวลชนไม่ให้เสนอข่าวความเคลื่อนไหวของคณะราษฎร จึงขอเรียกร้องต่อสื่อมวลชน อย่าได้ปิดกั้นการแสดงความคิดเห็น เพราะ กสทช.ฉวยโอกาสเอาคำวินิจฉัยศาลมาคุกคามสื่อ
ครย.จะเดินหน้ารณรงค์สร้างความรู้ความเข้าใจถึงปัญหาของกฎหมาย 112 และรวบรวมรายชื่อให้ได้มากที่สุด โดยจะส่วท้ายปีด้วยการจัดกิจกรรมในวันที่ 12 ธ.ค. 64 ที่สี่แยกราชประสงค์ ตั้งแต่ 16.00 น.เป็นต้นไป จากนั้นในปีหน้าจะลงพื้นที่ต่างจังหวัด เพื่อพบปะเครือข่าย และสร้างแนวร่วมให้เพิ่มขึ้น
ส่วนกรณีเมื่อคืนที่ผ่านมา (6 ธ.ค.64) #เครือข่ายจะนะรักษ์ถิ่น ที่ปักหลักชุมนุมหน้าทำเนียบรัฐบาลถูกเจ้าหน้าสลายการชุมนุม ทางครย.ขอคัดค้านการกระทำของเจ้าหน้าที่ เพราะเป็นการทำเกินกว่าเหตุลุแก่อำนาจ ครย.จะสนับสนุนข้อเรียกร้องของชาวจะนะให้ได้รับการพิจารณา
ขณะที่ นางสาวธนพร วิจันทร์ หรือ ไหม เครือข่ายแรงงานเพื่อสิทธิประชาชน กล่าวว่า พื้นที่ของเสรีภาพน้อยลงทุกที เพราะมีข้อจำกัดเรื่องกฎหมาย มาตรา 112 ที่รัฐใช้เป็นเครื่องมือทางการเมืองกลั่นแกล้งฝ่ายเห็นต่าง จึงขอเรียกร้องให้มีพื้นที่ถกเถียงเกี่ยวกับประเด็นนี้โดยเสรีภาพ และด้วยความสุจริตใจ
ทั้งนี้ ครย.ได้แจ้งนัดหมายการเคลื่อนไหวก่อนการชุมนุมใหญ่วันที่ 12 ธ.ค. 64 โดยมีกิจกรรมต่าง ๆ ดังนี้วันที่ 8 ธ.ค. 64 จะมีกิจกรรมคาร์ม็อบโดยทะลุฟ้า, วันที่ 9 ธ.ค. 64 ครย.นำโดยครูใหญ่ อรรถพล บัวพัฒน์ จะเดินทางไปยื่นหนังสือคัดค้านคำวินิจฉัย ศาลของศาลรัฐธรรมนูญ กรณีปฏิรูปสถาบัน เป็นการล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ถึงสำนักงานอัยการสูงสุด ในเวลา 11.00 น. และวันที่ 10 ธ.ค. 64 ครย. จะไปยื่นหนังสือที่องค์การสหประชาชาติ หรือ UN ประเด็นเกี่ยวกับสิทธิมนุษยชน ที่เกี่ยวเนื่องกับ ม.112 ด้วย
#UDDnews #ยูดีดีนิวส์ #คณะรณรงค์ยกเลิก112