‘เบนจา’ เผย ดรอปเรียน!
ไม่อยากให้การติดคุกมีผลต่อเกรดและอนาคต ร้องปล่อยเราเถอะ! แค่นี้ยังทำลายอนาคตเราไม่พออีกหรือ?
‘เบนจา อะปัญ’ สมาชิกแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม ซึ่งขณะนี้เธอถูกฝากขังที่ทัณฑสถานหญิงกลาง
คลองเปรม ตั้งแต่วันที่ 8 ต.ค. 64 ในคดีที่ถูกกล่าวหาจากการปราศรัยและอ่านแถลงการณ์ที่หน้าบริษัทซิโน-ไทย
ในระหว่าง #ม็อบ10สิงหา ‘คาร์ม็อบใหญ่ไล่ทรราช’
ในข้อหาตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 และ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ซึ่งพนักงานสอบสวนได้ทำการสอบสวนเสร็จสิ้นแล้ว
สำนวนยังอยู่ในการพิจารณาของกองบัญชาการตำรวจนครบาลหรือหัวหน้าพนักงานสอบสวน
ว่าจะมีคำสั่งฟ้องหรือไม่? นับรวมวันนี้ ‘เบนจา’ ถูกคุมขังมาเป็นเวลา 55 วันแล้ว
วันนี้
(1 ธ.ค. 64) ที่เฟซบุ๊ก Benja
Apan แอดมินได้โพสต์ข้อความจาก ‘เบนจา’ เขียนจากเรือนจำ ความว่า
เราดรอปเรียนในเทอมนี้แล้ว
หลังจากศาลไม่อนุญาตให้เราประกันตัว
ก่อนหน้านี้
เราลงทะเบียนและเข้าสอบตามปกติ แต่อย่างที่หลายคนอาจจะเห็นช่วงสอบ Midterm เราก็ยังต้องไปศาล
ไปสถานีตำรวจ และถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจรังควาญ และเราก็ถูกตำรวจจับ
เราจำเป็นต้องเลือกว่าจะลงทะเบียนต่อไปและหวังว่าศาลจะอนุญาตให้ประกันตัว
หรือจะ drop
การเรียนไว้ก่อน ช่วงที่เราเกิดปัญหาอาจารย์คณะเรา
ไม่ได้ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลืออะไร มีเพียงเพื่อนที่ช่วยเท่าที่ช่วยได้
แต่ก็ไม่เหมือนความช่วยเหลือจากอาจารย์
ไม่เหมือนกับอาจารย์คณะทางสังคมที่ให้ความช่วยเหลือเพื่อน ๆ
เมื่อต้องเข้าเรือนจำเราจึงไม่ได้คาดหวังว่าเขาจะเห็นความสำคัญของการเรียนต้องจัด class
เรียนให้เราเฉพาะ
การต้องอยู่ในเรือนจำกับการเรียนสายวิศวกรรมที่ต้องมีการคำนวณนั้นยากลำบาก
แค่ผลกระทบจากการต้องเรียน online ก็ไม่สะดวกมากอยู่แล้ว
ถ้าต้องเรียนในเรือนจำ ถ้าเราคำนวณไม่ได้จะถามใคร จะค้นหาคำตอบอย่างไร
เราจึงตัดสินใจดรอปการเรียนในเทอมนี้เนื่องจากติดอยู่ในเรือนจำ
เพราะเราคาดหวังผลการเรียนที่ดี เพื่อใช้ในการเรียนต่อปริญญาโทและปริญญาเอก
ถึง
ณ ตอนนี้ เราไม่มีเหตุจำเป็นแบบเพื่อนที่ต้องออกไปสอบปลายภาค
แต่เราก็ยังเป็นนักศึกษา และต้องการออกไปเรียน เราเรียนวิศวกรรมเครื่องกลเพื่อเป็น
foundation
เพื่อไปต่อปริญญาโท Aerospace Engineering เราอยากทำงานด้านอวกาศ
แต่เราวางแผนว่าจะเรียนให้จบปริญญาเอก เพราะไม่ได้หวังว่าจะเป็นวิศวกรไปตลอด
บั้นปลายชีวิตอยากเป็นอาจารย์
เลยอยากเรียนเฉพาะทางเพื่อเอามาพัฒนาประเทศในสาขาที่ประเทศไทยก็ยังขาดความรู้ด้านนี้
เพราะการเป็นอาจารย์และนักวิจัยก็สามารถทำคู่กันไปได้
ตอนนี้เราเกรดเฉลี่ยประมาณ
3.3 เราอยากเรียนเมื่อเราพร้อม เราจึงดรอปไว้ก่อนเพราะไม่อยากให้การติดคุกมีผลต่อเกรดและอนาคต
ถึงเราดรอปและไม่มีกำหนดสอบในเทอมนี้ แต่ปล่อยเราเถอะ เรายังต้องเรียน
เรามีประโยชน์มากกว่าที่จะกักขังเราไว้ในเรือนจำเฉย ๆ
แค่นี้ยังทำลายอนาคตเราไม่พออีกหรือ
ตอนนี้เราสงสัยว่านอกจากอาจารย์บางท่านที่เข้าใจนักศึกษา
แต่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ As
a whole ในฐานะที่เป็นองค์กรนั้นหายไปไหนเหรอ และตอนนี้ก็เริ่มสงสัยว่าหรือเราเองที่เข้าใจผิดมาตลอด
เริ่มงงว่าเราผิดจริงเหรอ
ตอนนี้ถูกแยกห้องกับรุ้งและในห้องมีอยู่
27 คน ต้องนอนเบียดกัน นอนงอเข่า เพื่อนในห้องบอกว่า “เดี๋ยวก็ชิน”
แต่เราสงสัยว่าทำไมต้องชิน ในเมื่อเราทำให้ดีกว่านี้ได้ ในเรือนจำเองก็ต้องพัฒนา
เบนจา
อะปัญ
ทัณฑสถานหญิงกลาง
30
พฤศจิกายน 2564
#UDDnews #ยูดีดีนิวส์