วันพฤหัสบดีที่ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2564

ทะลุฟ้าผนึกแนวร่วมมธ.จัดเสวนายกเลิกม.112 กับอนาคตประเทศไทย จี้คืนสิทธิประกันตัว เปิดปราศรัยเดือด ชี้ คุกไม่ใช่ที่เคาต์ดาวน์คนเห็นต่าง พร้อมนัดหมายพรุ่งนี้(24 ธ.ค.) 11.00น.เดินจากยูเนี่ยนมอลล์ไปศาลอาญารัชดา ร่วมฟังคำสั่งให้ประกันตัว 4 ราษฎรหรือไม่

 



ทะลุฟ้าผนึกแนวร่วมมธ.จัดเสวนายกเลิกม.112 กับอนาคตประเทศไทย จี้คืนสิทธิประกันตัว เปิดปราศรัยเดือด ชี้ คุกไม่ใช่ที่เคาต์ดาวน์คนเห็นต่าง พร้อมนัดหมายพรุ่งนี้(24 ธ.ค.) 11.00น.เดินจากยูเนี่ยนมอลล์ไปศาลอาญารัชดา ร่วมฟังคำสั่งให้ประกันตัว 4 ราษฎรหรือไม่ 


วันนี้ (23 ธ.ค. 64) ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ด้านหน้าประตู 8 เวลา 15.00 น. มวลชนกลุ่มทะลุฟ้าพร้อมแนวร่วม ได้ทยอยกันเข้าพื้นที่ตามนัดหมาย พร้อมนำแผงเหล็กมากั้นถนนบริเวณด้านหน้าประตู 8 ศาลอาญารัชดา เพื่อเตรียมจัดตั้งเวที และกลางเต้นท์ โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจจากกองบังคับการตำรวจจราจร คอยดูแลการจราจรในพื้นที่


นอกจากนี้ยังมีการตั้งบูธราษฎรประสงค์ยกเลิก112 พร้อมตั้งโต๊ะให้ผู้ที่มาร่วมฟังเสวนาในวันนี้ลงชื่อยกเลิกกฎหมายมาตรา112 ด้วย


สำหรับด้านหน้าเวทีเสวนานั้นมีการวางภาพของนักกิจกรรมที่ถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำ เช่น พริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือเพนกวิน แกนนำกลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม, จตุภัทร์ บุญภัทรรักษา หรือไผ่ ดาวดิน, ภาณุพงศ์ จาดนอก หรือไมค์ ระยอง, และอานนท์ นำภา ทนายความด้านสิทธิมนุษยชน


โดยเวลา 16.35 น. เวทีวงเสวนาในหัวข้อปัญหาของมาตรา 112 ส่งผลกระทบและมีปัญหาอย่างไรบ้าง ได้เริ่มขึ้น


โดยนายณัชปกรณ์ นามเมือง หรือ ฐา จากโครงการอินเทอร์เน็ตเพื่อกฎหมายประชาชน (ilaw) กล่าวว่า การอยากให้ทุกคนทำความเข้าใจขอบเขตของกฎหมายและการบังคับใช้กฎหมายมาตรา112


เชื่อว่าทุกท่านที่มานั่งอยู่ในที่แห่งนี้ก็คงจะเข้าใจปัญหาของมาตรา112 เป็นอย่างดี แต่แค่ความเข้าใจของพวกเรานั้นมันยังคงไม่พอ พวกเรามีหน้าที่ในการสื่อสารกันต่อไปว่าปัญหาของมาตรา 112 คืออะไร ผมรณรงค์ให้ทุกคนต้องท่องมาตรา 112 ให้ได้ก่อน ถ้าเราท่องได้เราจะเห็นภาพชัดว่าการบังคับใช้มาตรา 112 มันไปไกลขนาดไหน หากเราท่องกันได้จนขึ้นใจเราจะพบว่ากฎหมายนี้กำหนดลักษณะความผิดไว้ 3 อย่างคือ 1.หมิ่นประมาท 2.ดูหมิ่น 3.แสดงความอาฆาตมาดร้าย ต้องเข้า 3 องค์ประกอบนี้จึงจะเป็นความผิด เพราะฉะนั้นนี่เป็นหน้าที่ร่วมกันที่อยากจะเชิญชวนทุกคนว่าทำไมเราจึงต้องท่องมาตรา112 เพราะเราจะได้เห็นขอบเขตของกฎหมายและการบังคับใช้มันกว้างขวางไปขนาดไหน” นายณัชปกรณ์กล่าว


ด้านนายณัฐชนน ไพโรจน์ กลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม กล่าวว่า ปัญหาของมาตรา 112 ไม่ได้มีปัญหาแค่เพียงตัวบท และย้ำว่า 3 ข้อเรียกร้องที่มีการเรียกร้องนั้นมีความจำเป็น


ณัฐชนน กล่าวต่อไปว่ากฎหมายฉบับนี้ไม่ได้มีปัญหาแค่ตัวบท มีปัญหาทั้งการบังคับใช้ พอเราเห็นเพื่อนเราส่วนหนึ่งที่ถูกกล่าวหาด้วยมาตรา112 เรารู้สึกว่ามาตรฐานบางอย่างมันเปลี่ยนไป ตัวผมมองว่าส่วนที่เป็นปัญหาในบ้านเรามากๆคือ เราอยู่ในบ้านเมืองที่เป็นประชาธิปไตยกฎหมายนี้เป็นปัญหาแน่นอนร้อยเปอร์เซ็นต์ เพราะในบ้านเมืองหนึ่งไม่ได้มีคนทุกคนที่คิดเห็นเหมือนกันหมด ซึ่งบางครั้งมันไปด้วยกันไม่ได้มันขัดแย้งกัน เมื่อมันขัดแย้งกันแต่ระบอบประชาธิปไตยมันให้โอกาสและทางเลือก เราจำเป็นที่จะต้องมีความอดทนอดกลั้นต่อกันเพื่อรับฟังว่าปัญหาของการพัฒนาบ้านเมืองในแบบของเรามันมีปัญหาอย่างไร หาพื้นที่มานั่งถกเถียงกัน เรามีรัฐสภาจริงไหม เรามีการเลือกตั้งจริงไหม เรามีกฎหมายที่ควรจะรับใช้ประชาธิปไตยแต่ผมเริ่มไม่แน่ใจ


ขณะที่น.ส.จีรนุช เปรมชัยพร กล่าวว่า มาตรา 112 สร้างเพดานแก้วของความคิดประชาชน ไม่สามารถมีอิสระทางความคิด ซึ่งเป็นปัญหาต่อการพัฒนาสังคมในระบอบประชาธิปไตย และสำหรับสาเหตุที่ต้องการให้แก้กฎหมาย 112 เพราะต้องการให้สถาบันฯ เป็นสถาบันทางสังคมอยู่ได้อย่างสง่างาม 


ทั้งนี้จุดยืนของคนในสังคม แบ่งเป็น 4 กลุ่ม ได้แก่ 1.กลุ่มที่รักและพร้อมปกป้อง 2.กลุ่มที่แอบอ้างสถาบันฯเพื่ออุดมการณ์ทางการเมือง 3.กลุ่มที่พยายามจัดความสัมพันธ์ทางอำนาจระหว่างสถาบันฯ กับประชาชนให้อยู่ในร่องรอยของประชาธิปไตย และ 4.กลุ่มที่ตั้งคำถามกับการมีอยู่ของสถาบันฯ ทั้งหมดเป็นปัญหาความขัดแย้ง


ด้าน รศ.ดร ยุกติ มุกดาวิจิตร กล่าวว่า เมื่อ 10 ปีก่อนพบว่า ปัญหาของมาตรา 112 เริ่มก่อตัว เพราะเป็นส่วนหนึ่งของความขัดแย้งทางการเมือง แต่ไม่อยากให้สังคมขัดแย้งจนเกิดความแตกหัก และไม่สามารถรณรงค์ได้เหมือนในปัจจุบัน จุดเปลี่ยนของการเรียกร้องให้แก้กฎหมายมาตรา 112 คือ กฎหมายนี้ถูกจัดไปอยู่ในกฎหมายความมั่นคง  ประชาชนไม่ได้รับความยุติธรรมจากการคืนสิทธิการประกันตัว 


"ปัญหาคือ มาตรา 112 ถูกใช้เพื่อกลั่นแกล้งจนเกิดความขัดแย้งในสังคม การยกเลิกกฎหมายนี้จึงจะช่วยปลดพันธนาการ ให้ประชาชนสามารถแสดงความเห็น และลบข้ออ้างเพื่อยุบพรรคการเมือง"


โดยภายหลังจบวงเสวนา 18.00 น. ผู้ร่วมกิจกรรม ได้ยืนเคารพธงชาติโดยหันหน้าเข้าศาลอาญารัชดา ชู 3 นิ้ว จากนั้นมีการโปรยกระดาษ หน้าศาลอาญา ข้อความระบุว่า "ปล่อยเพื่อนเรา คุกไม่ใช่ที่เคาท์ดาวน์ของคนเห็นต่าง"


ในเวลาต่อมา เป็นช่วงเวลาของการปราศรัย เริ่มต้นโดย ไหม- ธนพร วิจันทร์ จากเครือข่ายแรงงานเพื่อสิทธิประชาชน ปราศรัยว่าพรุ่งนี้พวกเราจะต้องมาให้กำลังใจเพราะเขาไม่มีความผิดอะไรเลย รับพวกเขากลับบ้าน พวกเราพร้อมที่จะทำให้ประเทศนี้ดีต่อไปในข้างหน้า 


ทั้งนี้ยังได้หวังว่ากระบวนการรัฐสภาจะพูดถึงประเด็นยกเลิกมาตรา 112 ถ้าเห็นว่าเป็นการอาฆาตมาดร้าย กษัตริย์ก็ต้องมาฟ้องเอง 


ต่อมา"ตี้ พะเยา" ปราศรัยว่าวันนี้อยากมาส่งเสียงถึงกระบวนการยุติธรรมให้อย่าทำตามใบสั่งใคร ตนขอยกตัวอย่างนักสู้ประชาธิปไตยคนหนึ่งที่เคยต้องอยู่ในเรือนจำ ตุลาการ กระบวนการยุติธรรมทั้งหลายเห็นหรือไหมว่าคนหนึ่งที่ต้องออกมาต่อสู้จนเกือบจะต้องสูญเสียทุกอย่าง แต่เขาก็ยังสู้


จากนั้น18.40 น. ฟ้า พรหมศร ได้ขึ้นปราศรัยระบุว่า การวิพากษ์วิจารณ์กษัตริย์ไม่ใช่เรื่องผิด แต่เป็นเรื่องปกติ หากทรงเป็นกษัตริย์ที่อยู่ในทศพิศราชธรรมจริงก็ต้องไม่ทรงเกรงกลัวคำวิจารณ์ใด พร้อมยกตัวอย่างว่าพระพุทธเจ้าเคยกล่าวกับพระอานนท์ว่าไม่มีใครในโลกที่ไม่ถูกติฉินนินทา ฟ้า พรหมศรจึงได้กล่าวต่อว่ามาตรา 112 กำหนดไว้จึงเป็นสิ่งที่ฝืนต่อธรรมชาติ 


ด้านลูกนัท - ธนัตถ์ ธนากิจอำนวย ได้กล่าวถึงประเด็นการที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้สมาชิกสภาพของสิระ เจนจาคะ สิ้นสุดลง อย่าให้สิ่งนี้เป็นบรรทัดฐานใหม่ของความยุติธรรม ศาลรัฐธรรมนูญหรือศาลไหนก็ตาม ไม่ควรจะได้รับคำสรรเสริญจากการทำหน้าที่ตัวเอง แต่หากไม่ทำหน้าที่ตัวเอง สมควรจะต้องถูกประณาม


ด้านปูน ทะลุ ได้ขึ้นกล่าวบทกวี ถึงมหาตุลาการ ที่ทนายอานนท์ นำภาได้แต่งไว้ ทั้งนี้ปูนได้กล่าวว่า กิจกรรมไม่ว่ากลุ่มใดจัดก็ขอเรียนเชิญพี่น้องเข้าร่วมเพราะเราเรียกร้องเรื่องเดียวกัน


อย่างไรก็ตาม บอย ธัชพงศ์ ได้กล่าวว่าที่ผ่านมาทั้งสี่คน( อานนท์-ไผ่-ไมค์-เพนกวิน) ที่ยื่นประกันตัวเข้ากระบวนการด้วยดีมาตลอดและยอมรับเงื่อนไขศาลแล้วเชิญชวนให้จับตาคำสั่งการประกันในวันพรุ่งนี้ บอย ได้กล่าวว่าเราไม่ได้ละเมิดศาลเพราะเราไม่อาจแทรกแซงกระบวนการของศาลได้ แต่เราแสดงความเคารพต่อศาลด้วยการพูดอย่างตรงไปตรงมา 


ทั้งนี้บอย ธัชพงศ์ได้ ประกาศว่าพรุ่งนี้เที่ยงขอนัดรวมพลหน้ายูเนียนมอล โดยทะลุฟ้าจะจัดกิจกรรมเดินมาศาล ส่วนใครเดินไม่ไหวให้มารอที่หน้าศาลอาญารัชดา โดยแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุมจะปักหลักรอที่นี่ เพื่อร่วมฟังคำสั่งศาลพร้อม ๆ กัน และประกาศยุติกิจกรรม แยกย้ายด้วยความสงบ ในเวลา 20.00 น.


ขณะที่เพจเฟซบุ๊ก ทะลุฟ้า - thalufah ได้แจ้งนัดหมายทำกิจกรรมในวันพรุ่งนี้ (24 ธ.ค.) ระบุว่า

#ม็อบ24ธันวา64 เดิน หยุด ขัง
เดินจาก ยูเนี่ยนมอล ไป ศาลอาญารัชดา เวลา 11 : 00 น.เป็นต้นไป
ร่วมกันใส่หน้ากาก ร่วม เดิน หยุด ขัง
ภายใต้หน้ากากนี้มีอุดมการณ์
และอุดมการณ์ไม่มีวันตาย
ไม่ว่าคุณจะจับขังใครไป 
ความหวังในการเปลี่ยนแปลง
ก็จะไม่สามารถฆ่าอุดมการณ์นั้นให้ตายได้ ! 

#ม็อบ23ธันวา64 #UDDnews #ยูดีดีนิวส์