ศาลฎีกาตัดสินจำคุก
“เปรมชัย กรรณสูต” 2 ปี 6 เดือน ไม่รอลงอาญา คดีล่าเสือดำ ทุ่งใหญ่นเรศวร กาญจนบุรี เมื่อปี 61
วันนี้
(8 ธ.ค. 64) เวลา 10.30 น. ที่สำนักงานอัยการสูงสุด นายอิทธิพร แก้วทิพย์
โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด พร้อมด้วย นายประยุทธ เพชรคุณ รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด
ร่วมกันแถลงข่าวคำตัดสินของศาลฎีกา คดีเสือดำ
โดยนายอิทธิพร
โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด เปิดเผยว่า เช้าวันนี้ ศาลจังหวัดทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี
นัดฟังคำพิพากษาศาลฎีกา คดีล่าเสือดำ หมายเลขดำ อ.219/2561
ที่พนักงานอัยการจังหวัดทองผาภูมิเป็นโจทก์ฟ้อง นายเปรมชัย กรรณสูต
อดีตประธานกรรมการ บมจ.อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์, นายยงค์ โดดเครือ (คนขับรถ),
นางนที เรียมแสน (แม่ครัว), และนายธานี ทุมมาศ (พรานป่า) เป็นจำเลย
ในความผิดฐานร่วมกันพกพาอาวุธปืนไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต,
ฐานร่วมกันล่าสัตว์ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าโดยไม่ได้รับอนุญาต,
ฐานร่วมกันล่าสัตว์ป่าคุ้มครองซึ่งซากสัตว์ป่าคุ้มครองโดยไม่ได้รับอนุญาต,
ฐานร่วมกันช่วยซ่อนเร้นช่วยพาเอาไปเสียหรือรับไว้ซึ่งซากสัตว์ป่าอันได้มาโดยกระทำความผิดกฎหมาย
และฐานร่วมกันเก็บหาของป่าในเขตป่าสงวนแห่งชาติโดยไม่ได้รับอนุญาต
กรณีเมื่อวันที่
4 กุมภาพันธ์ 2561 พวกจำเลยได้ร่วมกันเข้าไปในป่าทุ่งใหญ่นเรศวร เขตตะวันตก
จ.กาญจนบุรี แล้วร่วมกันฆ่าเสือดำ ไก่ฟ้าหลังเทา ซึ่งเป็นสัตว์ป่าสงวนเพื่อเป็นอาหาร
การตัดสินของศาลชั้นต้น,
ศาลอุทธรณ์ และศาลฎีกา ในคดีดังกล่าว ทางสำนักงานอัยการสูงสุดได้รายงานผ่าน “ข่าวสำนักงานอัยการสูงสุด”
มีรายละเอียดดังต่อไปนี้
ศาลฎีกาตัดสินคดีนายเปรมชัย
กรรณสูต จำเลยกับพวก (คดีเสือดำ)
คดีนี้
เมื่อวันที่ 30 เมษายน 2561 อัยการจังหวัดทองผาภูมิได้ยื่นฟ้อง นายเปรมชัย กรรณสูต
จำเลยที่ 1 นายยงค์ โดดเครือ จำเลยที่ 2 นางนที
เรียมแสน จำเลยที่ 3 และนายธานี ทุมมาศ จำเลยที่ 4
ในข้อหาร่วมกันล่าสัตว์ป่าคุ้มครอง (เสือดำ) โดยไม่ได้รับอนุญาต และข้อหาอื่น ๆ
อีกหลายข้อหา ซึ่งต่อมา วันที่ 19 มีนาคม 2562 ศาลจังหวัดทองผาภูมิพิพากษาจำคุก
นายเปรมชัย
กรรณสูตร จำคุก 16 เดือน
นายยงค์
โดดเครือ จำคุก 13 เดือน
นางนที
เรียมแสน จำคุก 4 เดือน และปรับ
10,000 บาท รอการลงโทษ 2 ปี
และนายธานี
ทุมมาศ จำคุก 2 ปี 17 เดือน
โดยยกฟ้องจำเลยบางข้อหา
โดยเฉพาะนายเปรมชัย กรรณสูต
ศาลยกฟ้องในข้อหาร่วมกันเก็บของป่าในเขตป่าสงวนแห่งชาติ
และข้อหาร่วมกันมีซากสัตว์ป่าคุ้มครอง (เสือดำ) แต่ลงโทษฐานเป็นผู้สนับสนุนในข้อหาร่วมกันมีซากสัตว์ป่าคุ้มครอง
(เสือดำ) แทน
ต่อมาวันที่
24 พฤษภาคม 2562 อธิบดีอัยการศาลสูงภาค 7 ได้ยื่นอุทธรณ์ขอให้ศาลลงโทษจำเลยตามฟ้องของพนักงานอัยการโจทก์ทุกข้อหา
และต่อมาวันที่
12 ธันวาคม 2562 ศาลอุทธรณ์ภาค 7 ได้มีคำพิพากษาลงโทษจำเลยทุกคนตามที่พนักงานอัยการศาลสูงภาค
7 ยื่นอุทธรณ์ โดยจำคุกนายเปรมชัย กรรณสูตร 2 ปี 14 เดือน จำคุกนายยงค์ โดดเครือ 2
ปี 17 เดือน จำคุกนางนที เรียมแสน 1 ปี 8 เดือน รอการลงโทษให้ตามศาลชั้นต้น
และจำคุกนายธานี ทุมมาศ 2 ปี 21 เดือน
หลังจากศาลอุทธรณ์ภาค
7 มีคำพิพากษาลงโทษจำเลยทุกคนตามที่พนักงานอัยการได้ยื่นอุทธรณ์แล้ว
อธิบดีอัยการศาลสูงภาค 7 จึงมีคำสั่งไม่ฎีกา ครั้งต่อมาวันที่ 31 มีนาคม 2563
จำเลยจำนวน 3 ราย ได้แก่ นายเปรมชัย กรรณสูต, นายยงค์ โดดเครือ และนายธานี ทุมมาศ
ได้ยื่นฎีกาต่อศาลฎีกาและอธิบดีอัยการศาลสูงภาค 7 ได้แก้ฎีกาเรียบร้อยแล้ว
คดีนี้
ศาลฎีกาได้พิจารณาแล้ว ได้มีคำพิพากษาวันนี้ (8 ธ.ค. 64) ดังนี้
ฎีกาของจำเลยทั้งสามฟังไม่ขึ้นและไม่มีเหตุต่อการรอการลงโทษ
แต่ต่อมาได้มีการแก้ไข พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2535 โดย
พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า แก้ไขเพิ่มเติม ปี พ.ศ. 2562 ให้ยกเลิกมาตรา 55
การกระทำของจำเลยทั้งสามจึงไม่มีความผิดในส่วนนี้ ตาม ป.อาญา มาตรา 2
คงจำคุกจำเลยที่ 1 คงจำคุก 2 ปี 6 เดือน จำเลยที่ 2 คงจำคุก 2 ปี 9 เดือน จำเลยที่
4 คงจำคุก 2 ปี 13 เดือน
ให้จำเลยชดใช้ค่าเสียหาย
2 ล้านลาท ตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น และศาลอุทธรณ์
แต่ให้ปรับแก้ไขดอกเบี้ยให้เป็นไปตามกฎหมายใหม่
สำนักงายอัยการสูงสุด
8
ธันวาคม 2564
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าคดีนี้ถือเป็นคดีที่สะท้อนให้สังคมเห็นหรือไม่ว่า
มีตำแหน่งใหญ่แค่ไหน กฎหมายก็ยังมีความยุติธรรมอยู่ นายอิทธิพร
โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุดกล่าวว่า กฎหมายยังเป็นธรรมเสมอและไม่มีความเหลื่อมล้ำ
ด้านนายประยุทธ
รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด กล่าวเสริมว่า ประเด็นปืนและงาช้างในครอบครองของนายเปรมชัยที่สังคมยังคาใจอยู่นั้น
ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการพิจารณา หากมีความชัดเจน
จะมีการแถลงข่าวในเรื่องนี้อีกครั้ง
ส่วนสาเหตุที่ทำให้สามารถปิดคดีเสือดำที่ยืดเยื้อนี้ได้
คือวัตถุพยานที่พนักงานอัยการรวบรวมอย่างครบถ้วนและมีน้ำหนัก
#เสือดำต้องไม่ตายฟรี
#UDDnews #ยูดีดีนิวส์