วันพุธที่ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2564

"ทะลุฟ้า" "ส่งเสียงถึงศาล" เคลื่อนคาร์ม็อบจากศาลอาญารัชดา จัดกิจกรรมหน้าเรือนจำพิเศษฯ 112 นาที จุดพลุ-ส่งสารถึงเพื่อน เรียกร้องสิทธิประกันตัว

 


"ทะลุฟ้า" "ส่งเสียงถึงศาล"
เคลื่อนคาร์ม็อบจากศาลอาญารัชดา
จัดกิจกรรมหน้าเรือนจำพิเศษฯ 112 นาที จุดพลุ-ส่งสารถึงเพื่อน เรียกร้องสิทธิประกันตัว  

วันนี้ (8 ธ.ค.64 ) ตามที่เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 8 ธันวาคม ที่ศาลอาญารัชดา กลุ่มทะลุฟ้า นัดหมายจัดกิจกรรมคาร์ม็อบ "ส่งเสียงถึงศาล ส่งสารถึงเพื่อน" โดยมีการอ่านแถลงการณ์หน้าศาลอาญา เพื่อเรียกร้องให้คืนสิทธิประกันตัวนักกิจกรรมทางการเมือง ก่อนเคลื่อนขบวนไปยังเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร นั้น

กระทั่งเวลา 15.30 น. ขบวนได้เคลื่อนมาถึงหน้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจตรึงกำลังโดยรอบ พร้อมทั้งวางลวดหนามหีบเพลงปิดกั้นบริเวณหน้าประตูเรือนจำกลางคลองเปรม และหน้าประตูเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ

ต่อมา 16.10 น. สมาชิกทะลุฟ้าในชุด Squid Game กล่าวเปิดกิจกรรม "ส่งสารถึงเพื่อน" ระบุว่ากิจกรรมในวันนี้คือกิจกรรมที่เรียกร้องสิทธิการประกันตัวให้กับเพื่อนเราทุกคน เพื่อนของเราบางคนถูกคุมขังมากกว่า 100 วัน

โดยจัดกิจกรรมที่หน้าประตูเรือนจำพิเศษกรุงเทพ เป็นเวลา 112 นาทีวันเพื่อส่งเสียงถึงเพื่อนที่อยู่ในเรือนจำ

"พวกเราไม่ได้มาเรียกร้องความเห็นใจ แต่จะขอความเป็นธรรม ต้องขออภัยในความไม่สะดวกที่ทำให้การจราจรติดขัดแต่โปรดจงรู้ไว้นี้คือหนทางเดียวแล้ว กับระบอบความยุติธรรมไทย" สมาชิกทะลุฟ้ากล่าว

สำหรับกิจกรรมในวันนี้ มีการแสดงดนตรีโดย อาเล็ก โชคร่มพฤกษ์ และเพื่อน อีกทั้งยังเปิด"ฟรีไมค์" ให้ผู้ร่วมชุมนุมขึ้นมา"ส่งสารถึงเพื่อน" อาทิ วรวรรณ แซอั้ง หรือป้าเป้า, บอมเบย์ จากกลุ่มราษฎรเอ้ย, เยาวชนที่มาร่วมงาน รวมทั้งการปราศรัย

โดย"ตะวัน"  เยาวชนหญิง กล่าวว่า วันนี้ขอให้กระบวนการยุติธรรมได้รับรู้ไว้ว่า ประชาชนอย่างพวกเราไม่ได้ออกมาร้องขอความเห็นใจใดใดทั้งสิ้น แต่พวกเรานั้นมาทวงคืนความยุติธรรมให้เพื่อนของเรา เป็นความยุติธรรมที่เพื่อนของเราและประชาชนควรจะได้รับ และได้ขอให้ผู้ชุมนุมตะโกนเข้าไปในเรือนจำว่า "ปล่อยเพื่อนเรา" จำนวน 3 ครั้ง เพื่อให้นักโทษทางความคิดด้านในได้ยิน

"แด่เพื่อนผู้กล้าหาญ
เธอไม่ต้องกลัวเธอไม่ผิด
ชีวิตของคนช่างหม่นเหม่อ
ความอธรรมขังได้เพียงกายเธอ
แต่หัวใจของเธอจะโบยบิน" ตะวันกล่าว 

ตะวัน ได้กล่าวต่อไปว่า เมื่อวาน ศาลอาญากรุงเทพใต้ยกคำร้องขอประกันตัวเบนจา อะปัญ โดยให้เหตุผลว่าเคยให้ประกันไปแล้ว แต่ทำผิดเงื่อนไข เกรงว่าจะไปก่อเหตุอันตรายอื่นอีก คำว่าก่อเหตุอันตราย คือการพูดความจริงอย่างนั้นหรือ ถ้าการพูดความจริงคือเหตุอันตราย ถ้าการพูดความจริงทำให้รัฐสั่นคลอน ก็ให้รู้ไปเลยว่า รัฐไทยอ่อนแอจนกระทั่งกลัวความจริง น่าสิ้นหวัง ไม่เคยมีความยุติธรรมให้กับเพื่อนของเรา กับคนที่ออกมาเรียกร้อง กับคนที่ออกมาพูดความจริง จะเหลืออะไรให้หวังกับกระบวนการแบบนี้ ไม่มีอะไรให้หวังแล้ว

ด้านวรรณวลี ธรรมสัตยา หรือตี้พะเยา กล่าวว่า ขอให้ทุกคนระลึกไว้ว่าทุกครั้งที่ทุกคนสามารถเดินทางไปไหนมาไหน หรือกำลังนั่งเรียนหนังสือ ยังมีเพื่อนเราอีกหลายคนที่ถูกจองจำอย่างเปล่าประโยชน์ และไร้จิตสำนึกของศาลยุติธรรม ทั้งเบนจา อะปัญ พริษฐ์ ชิวารักษ์, อาทิตย์ ทะลุฟ้า, อานนท์ นำภา และ ป้าอัญชัน

วรรณวลี ได้เผยถึงจดหมายเบนจาฉบับล่าสุดที่ส่งออกมาจากด้านในเรือนจำ ทำให้ตนรู้สึกปวดใจอย่างมาก เพราะเบนจาผู้มีความฝันจะพัฒนาประเทศต้องพักการเรียนเยื่องจากถูกศาลสั่งคุมขังและจองจำอยู่ในเรือนจำขณะนี้ ที่เป็นผลพวงมาจากความกลัวของผู้ใหญ่และระบบยุติธรรมของบ้านเมือง นักโทษทางความคิดไม่ควรมีใครต้องเข้าไปอยู่ในเรือนจำเพราะเขาไม่ได้เป็นภัยต่อความมั่นคงแต่เป็นภัยต่อระบบไดโนเสาร์ของประเทศนี้

จากนั้น ตัวแทนกลุ่มทะลุฟ้า กล่าวบทกวีตอนหนึ่งว่า

"โปรดส่งคืนท้องฟ้านั้นให้เพื่อนฉันเถิด เพราะว่าพวกเขานั้นไม่ได้เกิดในกรงขัง
ผิดที่คงไปส่งเสียงสนั่นดัง จึงถูกเหยียดและเกลียดชังดั่งฆาตรกร
พวกเราเกิดมาท่ามกลางโลกแห่งเสรี เราเคยมีฟ้ากว้างใหญ่ให้เร่ร่อน
วันนี้ต้องเอ่ยคำลาแล้วจากจร เสรีภาพของเราถูกลดทอนลงทุกวัน
ยังจับจ้องมองโลกกว้างจากขวดแก้ว มันไม่มีฟ้าให้บินแล้วปีกของฉัน
มันผู้ใดใครกำหนดบลงทัณฑ์ โปรดตอบแม้ด้วยความเงียบงันฉันอยากฟัง
ใครขโมยฟ้ากว้างใหญ่ไปจากโลก แล้วก็มายัดเยียดความเศร้าโศกทำโลกคลั่ง"

ก่อนโปรยกระดาษเอสี่ ที่มีข้อความ เช่น  "ยกเลิก 112 สิ แล้วจะเล่าให้ฟัง"

ขณะที่ ปูน ทะลุฟ้า กล่าวว่าการต่อสู้ครั้งนี้คงไม่จบภายในสิ้นปีนี้ อาจจะมีต่อไปในปีหน้าหรือปีต่อ ๆ ไป แต่ตัวแปรสำคัญที่จะสร้างความเปลี่ยนแปลงในการต่อสู้ได้คือประชาชนที่ร่วมต่อสู้กันมาถึงทุกวันนี้

ปูน ได้กล่าวต่อไปว่าวันที่ 17 ธ.ค. นี้จะมีการไต่สวนประกันตัวนักกิจกรรมอีกครั้ง และในวันที่ 12 ธ.ค. นี้จะมีกิจกรรมชุมนุมใหญ่ที่แยกราชประสงค์ ซึ่งถือเป็นตัวแปรสำคัญต่อขบวนการเคลื่อนไหวและการประกันตัวของเพื่อนเราในครั้งนี้ "ไม่มีใครสมควรถูกจับกุมคุมขังเพียงเพราะเราพูดในสิ่งที่ชนชั้นนำไม่ต้องการให้เราพูด" ปูนกล่าว 

การต่อสู้ของเรามันสืบเนื่องกันมาหลายปีต่อหลายปี อย่ากลัวที่จะต่อสู้ แต่จงกลัวที่จะหยุดสู้ กลัวที่จะแพ้ กลัวที่ว่าเราจะกลับไปอยู่ในวันแบบเก่า ขอให้เอาความกลัวเหล่านี้เป็นที่ตั้ง อย่ากลัวที่จะโดนดำเนินคดี อย่ากลัวที่จะโดนจับกุมคุมขัง แต่จงกลัวว่าท่านจะไม่สามารถพูดความจริงได้ในประเทศที่ท่านเป็นเจ้าของ ปูนกล่าว จากนั้นตะโกนคำว่า “เผด็จการจงพินาศ ประชาราษฎร์จงเจริญ” และ “ปล่อยเพื่อนเรา” ก่อนจบการการปราศรัย

18.25 น. กลุ่มทะลุฟ้าประกาศว่าขณะนี้กิจกรรมบริเวณหน้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพครบ 112 นาทีตามกำกหดแล้ว แล ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนเข้าร่วมกิจกรรมของพี่น้องจะนะ ที่มาทวงสัญญา ที่องค์การสหประชาชาติ ก่อนประกาศยุติการชุมนุม โดยมีการจุดพลุที่บริเวณหน้าเรือนจำกลางคลองเปรม เพื่อส่งสารถึงเพื่อนในเรือนจำ

#UDDnews #ยูดีดีนิวส์ #ม็อบ8ธันวา64