วันอังคารที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2564

ศาลไม่ให้ประกัน 7 นักกิจกรรม-ประชาชน ผู้ถูกคุมขังทางการเมือง ระบุ “ไม่มีเหตุเปลี่ยนแปลงคำสั่งเดิม”

 


ศาลไม่ให้ประกัน 7 นักกิจกรรม-ประชาชน ผู้ถูกคุมขังทางการเมือง ระบุ “ไม่มีเหตุเปลี่ยนแปลงคำสั่งเดิม” 


วันนี้ (16 พ.ย. 64) เวลา 16.58 น. ที่ ศาลอาญา รัชดาภิเษก หลังทนายยื่นคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราว 7 นักกิจกรรมและประชาชน พร้อมวางเงินสดเป็นหลักประกันคนละ 35,000 บาท ศาลได้มีคำสั่งยกคำร้องทุกฉบับ โดยระบุว่า “ไม่มีเหตุเปลี่ยนแปลงคำสั่งเดิม” 


รายชื่อนักกิจกรรม/ประชาชนที่ทนายยื่นคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราว


1. ทวี เที่ยงวิเศษ หรือ “อาทิตย์ ทะลุฟ้า” ทนายยื่นคำร้องใน 2 คดี ได้แก่ คดี #ม็อบ3กันยา กรณีถูกกล่าวหาว่าทำร้ายเจ้าพนักงานและหลบหนีการจับกุม และอีกคดี คือ คดีสาดสีหน้า สน.ทุ่งสองห้อง  ปัจจุบัน ทวี ถูกควบคุมตัวในเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ มาแล้ว 63 วัน 


2. ชิติพัทธ์ (สงวนนามสกุล) ทนายยื่นคำร้องในคดี #ม็อบ16กันยา ก่อนหน้านี้ศาลไม่ให้ประกันเนื่องจากเคยถูกจับกุมจากชุมนุม #ม็อบ29สิงหา มาก่อนแล้ว โดยเห็นว่าเป็นการกระทำผิดเงื่อนไขการประกันตัว เขาถูกคุมขังในเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ มาแล้ว 61 วัน 


3. จิตรกร คำร้องขอประกันในคดีครอบครองระเบิด และฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ จากเหตุ #ม็อบ6ตุลา ปัจจุบันถูกควบคุมตัวมาแล้ว 41 วัน ในเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ


4.-7. “ป๋าเจมส์” (นามสมมติ), พิพัฒน์ (สงวนนามสกุล), อนันต์ (สงวนนามสกุล) และณรงค์ศักดิ์ บัวหนอง  ทนายยื่นคำร้องขอประกันในคดี #ม็อบ6ตุลา ซึ่งตำรวจอ้างว่า พวกเขาเกี่ยวข้องกับอาวุธปืน ในเหตุการณ์ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมฝูงชนถูกยิงที่ศีรษะ ปัจจุบันทั้งสี่ถูกควบคุมตัวมาแล้ว 26 วัน ในเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ


คำร้องทุกฉบับได้มีการอ้างถึงศาลสหรัฐอเมริกาโดยระบุว่า ตามกระบวนการศาลจะไม่เข้ามาเป็นคู่ขัดแย้งกับผู้ต้องหาหรือจำเลย โดยการจะคัดค้าน หรือการปล่อยตัวชั่วคราวนั้น เป็นหน้าที่ของรัฐที่จะต้องนำสืบให้ศาลเห็นว่าการปล่อยตัวพวกเขาไปจะก่อเหตุอันตรายอื่นใด หรือเกิดการหลบหนี หากได้รับการปล่อยตัว ซึ่งตัวผู้ต้องหาหรือจำเลยไม่ได้มีหน้าที่ดังกล่าว เพราะหากเป็นเช่นนั้นก็ย่อมขัดกับหลักสันนิษฐานความบริสุทธิ์อย่างชัดแจ้ง 


อีกทั้งท้ายคำร้องยังได้หยิบยกเอากติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง (International Covenant on Civil and Political Rights – ICCPR) และปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชน ที่ว่า “บุคคลทุกคนซึ่งต้องหาว่ากระทําผิดอาญาต้องมีสิทธิได้รับการสันนิษฐานว่าเป็นผู้บริสุทธิ์จนกว่าจะพิสูจน์ตามกฎหมายได้ว่ามีความผิด” เพื่อให้ศาลใช้ประกอบการพิจารณาให้อนุญาตปล่อยตัวชั่วคราว


ทั้งนี้ ในคำร้องทุกฉบับยังระบุอีกว่า เพื่อเป็นประโยชน์ต่อพิจารณาของศาล และเพื่อให้พวกเขาได้มีโอกาสต่อสู้คดีได้อย่างเต็มที่ หากศาลเห็นสมควรให้มีการไต่สวนคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราว เพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงประกอบการพิจารณา ก็ขอให้ศาลเบิกตัวพวกเขา และทนายความของพวกเขาได้ซักถาม 


พร้อมทั้งยังระบุว่า หากศาลเห็นสมควรกำหนดเงื่อนไข พวกเขา “ยินดี” จะปฏิบัติตามคำสั่งของศาลทุกประการ โดยจะเสนอคำมั่นสัญญาว่าจะไม่กระทำการใดอันก่อให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง โดยจะปฏิบัติตัวภายใต้กรอบรัฐธรรมนูญ และเพื่อให้คำมั่นสัญญาว่าจำเลยจะไม่หลบหนีอย่างแน่นอน พวกเขายินยอมที่จะติดอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ติดตามตัว (EM)  เพื่อให้ศาลสามารถตรวจสอบถิ่นที่อยู่ของพวกเขาได้ทุกเวลา หรือหากศาลจะตั้งผู้กำกับดูแลพวกเขา พวกเขาก็พร้อมจะปฏิบัติตามคำสั่งของศาลเช่นกัน 


อย่างไรก็ตามเวลา 16.58 น. ศาลได้มีคำสั่งยกคำร้องทุกฉบับ ระบุว่า ไม่มีเหตุเปลี่ยนแปลงคำสั่งเดิม โดยไม่ได้พิจารณามีคำสั่งให้ไต่สวนเพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงประกอบก่อนมีคำสั่งไม่ให้ประกันเลย


คำสั่งทั้งหมดลงนามโดย นายมุขเมธิน กลั่นนุรักษ์ ผู้พิพากษาหัวหน้าแผนกคดีค้ามนุษย์ 


ที่มา : ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน


#UDDnews #ยูดีดีนิวส์