วันจันทร์ที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2564

"เกียมอุดมไม่ก้มหัวให้เผด็จการ" ยืนหยุดขัง 11.20นาที "ไม่ลืมผู้เสียสละ" ศิษย์ปัจจุบันลั่นนักเรียนเตรียมอุดมฯต้องลุกขึ้นเป็นผู้กล้า ต่อสู้เพื่อปชต.อย่างแท้จริง แรปเตอร์ ชี้การเปลี่ยนแปลงไม่ได้อยู่ข้างเรา ถ้าเราไม่ลุกขึ้นต่อสู้และเสียสละอะไรบางอย่างด้วยกัน - ทนายจูน นำข้อความ "เบนจา" จากกรงขังส่งถึงเด็กเตรียมฯ

 



"เกียมอุดมไม่ก้มหัวให้เผด็จการ" ยืนหยุดขัง 11.20 นาที "ไม่ลืมผู้เสียสละ" ศิษย์ปัจจุบันลั่นนักเรียนเตรียมอุดมฯ ต้องลุกขึ้นเป็นผู้กล้า ต่อสู้เพื่อปชต.อย่างแท้จริง ด้านแรฟเตอร์ ชี้การเปลี่ยนแปลงไม่ได้อยู่ข้างเรา ถ้าเราไม่ลุกขึ้นต่อสู้และเสียสละอะไรบางอย่างด้วยกัน - ทนายจูน นำข้อความ "เบนจา" จากกรงขังส่งถึงเด็กเตรียมฯ


วันนี้ (29 พ.ย. 64) ที่โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา ประตูฝั่งพญาไท สืบเนื่องจากเพจเกียมอุดมไม่ก้มหัวให้เผด็จการ นัดหมายจัดกิจกรรม #แด่เธอผู้เสียสละ โดยจะได้พบกับการปราศรัยจาก ก้อง ต.อ. 82 แรปเตอร์-สิรภพ อัตโตหิ ต.อ. 77 และทนายจูน-ศิริกาญจน์ เจริญศิริ ต.อ. 64 จากศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน และร่วมกัน #ยืนหยุดขัง นั้น


16.00 น. บรรยากาศกลุ่มนักเรียนปัจจุบัน "เกียมอุดมไม่ก้มหัวให้เผด็จการ" ได้เริ่มจัดกิจกรรมภายในบริเวณโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาประตูฝั่งพญาไท ซึ่งเจ้าหน้าที่ปิดประตูไม่เปิดให้บุคคลภายนอกรวมถึงผู้สื่อข่าวได้เข้าไปภายในโรงเรียน  โดยทางกลุ่ม"เกียมอุดมไม่ก้มหัวให้เผด็จการ" ได้ประกาศเชิญชวนให้นักเรียน โรงเรียนเตรียมอุดมฯ เข้าร่วม เพราะเป็นสิทธิเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2560 อย่าให้ใครมาปิดกั้นเสรีภาพ พร้อมทั้งเรียกร้องให้เพื่อน ๆ ศิษย์ปัจจุบัน รวมถึงอาจารย์ ได้ตระหนักถึงความไม่ยุติธรรมในสังคมไทย อีกทั้งเรียกร้องปล่อยตัวผู้ถูกคุมขังทางการเมืองที่ออกมาต่อต้านเผด็จการ


ขณะเดียวกันบริเวณด้านนอกรั้วโรงเรียน กลุ่มนักเรียนเลวได้มาทำกิจกรรมแจกหนังสือคู่มือ "เอาตัวรอดในโรงเรียน" ให้กับนักเรียนที่กำลังเดินทางกลับบ้าน ท่ามกลางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ปทุมวัน รวมถึงนอกเครื่องที่เฝ้าสังเกตุการณ์อย่างเข้มงวด


จากนั้นเริ่มต้นด้วยการปราศรัย โดยนายศักรินทร์ ชูช่วย หรือ ก้อง (ต.อ. 82) กล่าวว่า ความเป็นเตรียมอุดมฯ คือยอดพีระมิดของสังคม ใครแพ้คัดออก การศึกษาคือการแข่งขัน เด็กต้องไปเรียนพิเศษอย่างหนัก เพื่อมาสอบเข้าเตรียมอุดมฯ ซึ่งการเรียนพิเศษนี้มีมาตั้งแต่รุ่นที่หนึ่งจนถึงปัจจุบัน


สิ่งที่ตนมองหาในนักเรียนเตรียมอุดมฯ คือคุณสมบัติพิเศษที่มากกว่าความเก่ง คือความกล้าหาญ ความจริงใจ ความมุ่งมั่นที่ต้องการเห็นสังคมเกิดการเปลี่ยนแปลง ดังนั้นเตรียมอุดมฯ จะเป็นมาตรวัดที่ลบหรือบวก ขึ้นอยู่กับนักเรียนเตรียมอุดมฯ ทุกคนว่า ต่อไปจะทำตัวเป็นคนก้าวหน้า ทันสมัย หรือเป็นอนุรักษ์นิยมโลกแคบ ไม่ยอมรับการเปลี่ยนแปลง พร้อมทั้งทิ้งท้ายขอให้นักเรียนเตรียมอุดมฯ ลุกขึ้นเป็นผู้กล้า ต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยอย่างแท้จริง ให้เหมือนกับศิษย์เก่าที่ถูกจับขังในขณะนี้


ต่อมา แรปเตอร์-สิรภพ อัตโตหิ (ต.อ. ศิษย์เก่ารุ่น 77) ได้กล่าวปราศรัยนอกรั้วโรงเรียน ว่าไม่ได้เข้ามาโรงเรียนนาน ด้วยเหตุผลบางประการ ขณะที่เราเลือกเส้นทางประชาธิปไตย เพราะรู้สึกว่าเป็นสิ่งที่ควรทำ แต่ต้องยอมรับว่า เป็นเส้นทางที่โดดเดี่ยว และรู้สึกเจ็บปวดที่เห็นนักเรียนเตรียมฯ เดินผ่านประตูไปไม่สนใจกิจกรรมนี้ ทั้งนี้ตนเป็นเพื่อนที่เรียนรุ่นเดียวกันกับเพนกวิน-พริษฐ์ ชิวารักษ์ ทำกิจกรรมร่วมกันกับ น.ส.เบนจา อะปัญ เลยยิ่งรู้สึกเจ็บปวด


สิรภพ ได้กล่าวต่อว่า อยากบอกทุกคนที่ฟังอยู่ว่า การเปลี่ยนแปลงไม่ได้อยู่ข้างเรา ถ้าเราไม่ลุกขึ้นมาต่อสู้ด้วยกัน และเสียสละอะไรบางอย่าง สุดท้ายวิธีการที่จะทำให้การเปลี่ยนแปลงอยู่ข้างเรา ไม่ใช่การที่เรามีผู้เสียสละแค่หนึ่งหรือสองคน แต่ทุกคนต้องเสียสละ เพื่อยืนยันหลักการของความเป็นคนเท่ากัน


ปิดท้ายการปราศรัยด้วย  ศิริกาญจน์ เจริญศิริ (ต.อ. 64 ) หรือทนายจูน จากศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน กล่าวว่า ครั้งนี้นอกจากมาในฐานะศิษย์เก่า ยังมาในฐานะผู้สังเกตุการณ์และในฐานะทนายความ ซึ่งพบเจอกับผู้ที่อยู่ในเรือนจำ ย้อนไปเมื่อวันที่ 19 พ.ย. 63 ระบุว่าจำเป็นต้องบังคับใช้กฎหมายทุกมาตราอย่างเข้มข้นกับผู้ชุมชน และเริ่มมีการใช้กฎหมายมาตรา 112 กับผู้ชุมนุมจำนวนมาก ขอเรียกสภาวะตอนนี้ว่า สภาวะที่รัฐเหลิงอำนาจ แต่เรือนจำคุมขังเพียงร่างกาย แต่ไม่อาจขังความคิด


จากการที่ทนายเข้าไปเยี่ยมคนในเรือนจำ จึงขอส่งสาส์น ความเป็นอยู่ในเรือนจำ โดยเบญจาเคยพูดตอนหนึ่งหลังจากที่มีคำสั่งลงโทษ ละเมิดอำนาจศาลว่า "หนูสงสัยว่าเราสามารถตั้งคำถามกับความเป็นธรรมได้มากน้อยแค่ไหน แท้จริงกฎหมายเป็นของใคร ของประชาชนหรือของใคร" พร้อมกับฝากข้อความถึงน้อง ๆ เกียมอุดมไม่ก้มหัวให้เผด็จการ ด้วยว่า "ช่วยด้วย ยังมีเด็กเตรียมอุดมฯ อีก 2 คน อยู่ในเรือนจำ เรากับเพนกวินดีใจ ที่มีเด็กเตรียมอุดมฯ ร่วมต่อสู้มากกว่ายุคที่เราอยู่"


กระทั่ง 17.00 น. กลุ่มเกียมอุมดมฯ ศิษย์ปัจจุบัน ได้ออกมาจัดกิจกรรมด้านนอกโรงเรียนโดยไปยืนหน้าป้ายโรงเรียน ได้มีการอ่านแถลงการณ์ "กลุ่มเกียมอุดมไม่ก้มหัวให้เผด็จการ ต่อความอยุติธรรมที่เกิดขึ้นกับผู้เสียสละเพื่อการเปลี่ยนแปลงสู่ชีวิตและการเปลี่ยนแปลงที่ดีกว่า" รวมถึงอ่าน "กวีซี่กรง" ที่แต่งโดยเพนกวินจากในเรือนจำ และจัดกิจกรรม #ยืนหยุดขัง หน้าป้ายศิษย์เก่าที่ไม่ก้มหัวให้เผด็จการอาทิ จิตร ภูมิศักดิ์ นักคิด นักต่อสู้ทางการเมือง, นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า, นางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล ส.ส.ก้าวไกล, นายสิรภพ อัตโตหิ กลุ่มเสรีเทยพลัส, นายพริษฐ์ ชีวารักษ์, นางสาวเบนจา อะปัญ กลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม เป็นต้น โดยยืนเป็นเวลา 11 นาที 20 วินาที ก่อนเสร็จสิ้นกิจกรรม


ทั้งนี้นางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล ส.ส.ก้าวไกล ศิษย์เก่าเตรียมอุดมฯได้มาร่วมฟังการปราศรัยและเฝ้าดูการจัดกิจกรรมด้วย


#ม็อบ29พฤศจิกา64 #UDDnews #ยูดีดีนิวส์