วันจันทร์ที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2564

ศาลกาฬสินธุ์สั่งปรับ "โตโต้ ปิยรัฐ" ฝ่าฝืน พ.ร.บ.ชุมนุม #ม็อบวิ่งไล่ลุง เป็นเงิน 2,000 บาท จำเลยให้การสารภาพลดโทษกึ่งหนึ่ง คงเหลือปรับ 1,000 บาท และไม่นับโทษจำคุกต่อจากคดีอื่นตามที่โจทก์ร้อง

 


ศาลกาฬสินธุ์สั่งปรับ "โตโต้ ปิยรัฐ" ฝ่าฝืน พ.ร.บ.ชุมนุม #ม็อบวิ่งไล่ลุง เป็นเงิน 2,000 บาท จำเลยให้การสารภาพลดโทษกึ่งหนึ่ง คงเหลือปรับ 1,000 บาท และไม่นับโทษจำคุกต่อจากคดีอื่นตามที่โจทก์ร้อง 


วันนี้ (29 พ.ย. 64) ที่ศาลจังหวัดกาฬสินธุ์ นายปิยรัฐ จงเทพ หรือ โตโต้  เดินทางมาศาลพร้อมทนายความ เพื่อฟังคำพิพากษาคดี พ.ร.บ.ชุมนุมสาธารณะ จากกรณีการชุมนุม วิ่งไล่ลุง จ.กาฬสินธุ์  เมื่อวันที่ 12 มกราคม 2563 นั้น


คืบหน้าล่าสุด เวลา 10.15 น. ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนรายงานว่า 29 พ.ย. 64 ศาลจังหวัดกาฬสินธุ์พิพากษาคดีฝ่าฝืน พ.ร.บ.ชุมนุมฯ วิ่งไล่ลุง เหตุเมื่อเดือนมกราคมปี 2563 หลังจำเลย ปิยรัฐ ให้การรับสารภาพในชั้นสืบพยาน ศาลพิพากษา ปรับ 2,000 บาท รับสารภาพลดโทษกึ่งหนึ่งเหลือปรับ 1,000 บาท ไม่นับโทษจำคุกต่อจากคดีอื่นตามที่โจทก์ร้องขอเนื่องจากคดีมีเพียงโทษปรับ


สำหรับคำฟ้องของโจทก์ มีรายละเอียดความว่า เมื่อวันที่ 12 ม.ค. 2563 เวลากลางวันจำเลยได้เป็นผู้จัดให้มีการชุมนุมสาธารณะในกิจกรรม "วิ่งไล่ลุง" ซึ่งมีการจัดขึ้นในเขตพื้นที่ ต.กาฬสินธุ์ อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ โดยจำเลยได้เชิญชวนหรือนัดให้ผู้อื่นมาร่วมการชุมนุมสาธารณะในกิจกรรมดังกล่าว และพูดเชิญชวนให้ผู้มาร่วมชุมนุมลงทะเบียน และอำนวยความสะดวกให้ผู้มาชุมนุม โดยแสดงออกหรือมีพฤติการณ์ทำให้ผู้อื่นเข้าใจว่าจำเลยเป็นผู้จัดหรือร่วมจัดให้มีการชุมนุมนั้น  


มีประชาชนจำนวนประมาณ 200 คน เดินทางมาเข้าร่วมการชุมนุมกันที่ถนนภิรมย์บริเวณหน้าโรงเรียนอนุกูลนารี แล้วร่วมกันวิ่งไปที่อนุสาวรีย์พระยาชัยสุนทร และวิ่งไปตามถนนกาฬสินธุ์ ผ่านหน้าโรงพยาบาลกาฬสินธุ์ จนถึงบริเวณหน้าโรงเรียนกาฬสินธุ์พิทยาสรรพ์ ซึ่งเป็นทางสาธารณะ โดยในระหว่างที่มีการชุมนุมกันดังกล่าว จำเลยได้ขึ้นไปพูดผ่านเครื่องขยายเสียงซึ่งตั้งอยู่บนรถยนต์ ซึ่งมีถ้อยคำโจมตีและวิจารณ์การทำงานของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และเรียกร้องให้พลเอกประยุทธ์ลาออกจากตำแหน่งนายกฯ โดยผู้ร่วมชุมนุมมีการแสดงสัญลักษณ์ชูนิ้วมือ 3 นิ้ว ซึ่งเป็นการต่อต้านการทำรัฐประหาร  


ทั้งยังมีป้ายข้อความว่า "มาไล่ลุง ให้ไป ออกไป" อันเป็นการแสดงออกต่อประชาชนทั่วไป ซึ่งมิใช่กรณีการชุมนุมสาธารณะที่ได้รับการยกเว้นตามกฎหมาย โดยจำเลยไม่ได้แจ้งเป็นหนังสือแจ้งโดยวิธีการใด ๆ ต่อผู้รับแจ้งคือ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองกาฬสินธุ์ ก่อนเริ่มการชุมนุมไม่น้อยกว่า 24 ชั่วโมง หรือไม่ได้ยื่นคำขอผ่อนผันต่อผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกาฬสินธุ์ก่อนเริ่มการชุมนุม ในกรณีไม่สามารถแจ้งการชุมนุมได้ทันกำหนดเวลาดังกล่าว  


ตอนท้ายคำฟ้อง อัยการผู้ฟ้องคดียังระบุว่า ก่อนคดีนี้ จำเลยเคยต้องคำพิพากษาถึงที่สุดของศาลจังหวัดพระโขนง ให้ลงโทษจำคุก 2 เดือนและปรับ 2,000 บาท โทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 1 ปี ในความผิดฐานทำลายบัตรที่มีไว้สำหรับออกเสียงโดยไม่มีอำนาจกระทำได้ ซึ่งศาลได้พิพากษาเมื่อวันที่ 29 ก.ย. 2560 ทั้งนี้ เพื่อประกอบดุลพินิจในการพิจารณาพิพากษาลงโทษจำเลย จำเลยเป็นบุคคลเดียวกับจำเลยในคดีอาญาหมายเลขดำที่ 1308/2563 ของศาลอาญา (คดีแกนนำคนอยากเลือกตั้ง UN62)


#UDDnews #ยูดีดีนิวส์