เปิดแถลงการณ์ที่คณะต่อต้านระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ยื่นต่อสถานทูตเยอรมัน
วันนี้ (14 พ.ย. 64) ตามที่คณะต่อต้านระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ ได้นัดหมายทำกิจกรรมที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ในเวลา 15.00 น. แต่ได้ถูกเจ้าหน้าที่รัฐทำการสกัดขัดขวางจนไม่สามารถเข้ารวมตัวในพื้นที่นัดหมายได้ จึงได้เปลี่ยนสถานที่มาเป็นแยกปทุมวัน
ต่อมาได้ทำกิจกรรมและประกาศเดินเท้ามายื่นหนังสือที่สถานเอกอัครราชทูตเยอรมนีประจำประเทศไทย ถนนสาทร สำหรับรายละเอียดแถลงการณ์ที่ยื่นนั้นมีดังนี้
แถลงการณ์ ประเทศไทยในสมัยรัชกาลที่ 10 ต่างจากประเทศไทยในสมัยรัชกาลที่ 9 : เรากำลังเดินถอยหลังสู่การปกครองโดยระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ที่เต็มไปด้วยความวุ่นวาย
อำนาจของกษัตริย์ที่เพิ่มขึ้นในช่วงหลายปีที่ผ่านมานี้ กำลังพาประเทศไทยออกห่างจากการปกครองในระบอบประชาธิปไตยแล้วถอยหลังเข้าสู่การปกครองโดยระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์อย่างเต็มตัว ฝ่ายกษัตริย์นิยมพยายามสร้างประวัติศาสตร์ใหม่ให้กษัตริย์เป็นผู้มีอำนาจปกครองประเทศ ส่วนประชาชนเป็นเพียงผู้อยู่อาศัยกำหนดให้ประชาชนมีเพียงสิทธิเลือกตั้ง แต่อำนาจในการปกครอง อำนาจในการกำหนดทิศทางและอนาคตของประเทศทั้งหมดกลับไม่ได้อยู่ในมือของประชาชน
เรากำลังปกครองโดยระบอบกึ่งสมบูรณาญาสิทธิราชย์ไม่ใช่ระบอบประชาธิปไตย
การต่อสู้เรียกร้องประชาธิปไตยในประเทศที่ปกครองโดยระบอบกึ่งสมบูรณาญาสิทธิราชย์ จึงหนีไม่พ้นที่จะต้องหยุดยั้งการขยายอำนาจของสถาบันกษัตริย์
เพื่อให้ได้มาซึ่งประชาธิปไตยในประเทศที่ปกครองโดยระบอบกึ่งสมบูรณาญาสิทธิราชย์ การขับไล่ประยุทธ์และพวกพ้องจึงไม่ใช่ทางออก เพราะรากของปัญหาไม่ได้อยู่ที่ประยุทธ์ จันทร์โอชา
นี่ไม่ใช่การเคลื่อนไหวเพื่อไล่ประยุทธ์
นี่ไม่ใช่การเคลื่อนไหวเพื่อยกเลิก 112
นี่ไม่ใช่การเคลื่อนไหวเพื่อปฏิรูปฯ
นี่ไม่ใช่การเคลื่อนไหวเพื่อล้มล้างฯ
แต่คือการเคลื่อนไหวเพื่อต่อต้านระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์
นี่คือการต่อสู้เพื่อยืนยันว่าประเทศนี้ต้องปกครองโดยระบอบที่คนทุกคนเสมอหน้าเท่าเทียมกัน
นี่คือการต่อต้านระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ เพื่อปกป้องระบอบประชาธิปไตย
#ม็อบ14พฤศจิกา64 #ปฏิรูปไม่เท่ากับล้มล้าง
#UDDnews #ยูดีดีนิวส์