อัยการสั่งฟ้อง 112 -116 อานนท์และพวก รวม 7 คน ชุมนุมปลดอาวุธศักดินาไทย หน้าราบ11 ด้าน"ทราย"รอด112 โดน116เจ้าหน้าที่ทูตเยอรมัน,สวีเดนร่วมสังเกตการณ์ ขณะนี้ทนายเตรียมยื่นประตัวต่อไป
วันนี้ (24 พ.ย. 64) เวลา 10.00 น. ที่สำนักงานอัยการสูงสุด รัชดาภิเษก ตามที่อัยการได้นัดฟังคำสั่งฟ้อง 8 ผู้ชุมนุม คือ นายอานนท์ นำภา, นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือ เพนกวิน , นายชินวัตร จันทร์กระจ่าง หรือ ไบร์ท , นายสมยศ พฤกษาเกษมสุข, น.ส.พิมพ์สิริ เพชรน้ำรอบ, น.ส.ณัฎฐธิดา มีวังปลา หรือ แหวน , นายพรหมศร วีระธรรมจารี, น.ส.อินทิรา เจริญปุระ หรือ ทราย ในคดีความผิดตามมาตรา 112, 116, มั่วสุมกันตั้งแต่ 10 คนขึ้นไปใช้กำลังประทุษร้าย ขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้าย หรือกระทำการอย่างหนึ่งอย่างใด ให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมืองและข้อหาอื่นฯ จากการชุมนุม #ปลดอาวุธศักดินาไทย เมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน 2563 ที่หน้ากรมทหารราบที่ 11 มหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์
ซึ่งวันนี้ผู้ถูกกล่าวหาเดินทางมาตามนัดอัยการ 4 คน คือ สมยศ, พิมพ์สิริ, ณัฏฐธิดา, อินทิรา โดย อานนท์ นำภา, พริษฐ์ ชิวารักษ์ ถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำ ขณะที่ ชินวัตร จันทร์กระจ่าง และ พรหมศร วีระธรรมจารี ยื่นหนังสือขอเลื่อนนัดเนื่องจากติดภารกิจ
สำหรับในวันนี้ นายอเล็กซานเดอร์ โนวัก ที่ปรึกษาด้านการเมืองสถานเอกอัครราชทูตเยอรมนีประจำประเทศไทย และเจ้าหน้าที่ด้านการเมืองสถานอัครราชทูตสวีเดนประจำประเทศไทย รวมถึงนายดาเนียล ฮาเช อัครราชทูตที่ปรึกษา หัวหน้าฝ่ายความร่วมมือสำนักงานคณะผู้แทนสหภาพยุโรปประจำประเทศไทย ได้เดินทางมาร่วมรับฟังการสั่งคดีของอัยการด้วย โดยระบุว่าเป็นการมาสังเกตการณ์เกี่ยวกับการละเมิดสิทธิมนุษยชน ซึ่งจะรายงานกลับไปยังรัฐบาลของประเทศตนเองต่อไป
โดยทราย เจริญปุระ เปิดเผยก่อนเข้ารับฟังคำสั่งคดีของอัยการว่า วันนี้เดินทางมารับฟังคำสั่งฟ้องตามขั้นตอนปกติ ซึ่งในการชุมนุมวันดังกล่าวตนไม่ได้ขึ้นปราศรัย ก็ยังงงและคลุมเครือว่าทำไมจึงถูกข้อกล่าวหามาตรา 112 และ 116 แต่พนักงานสอบสวนได้แจ้งว่าพฤติการณ์การโพสต์เพลงลงในเฟซบุ๊กและการเป็นผู้ให้การสนับสนุนการจัดการชุมนุม เชื่อว่ามีความผิดด้วย ก็ต้องยอมรับไปตามนั้น แต่ก็ไม่รู้ว่าแนวทางการพิจารณาคดีของอัยการจะออกมาเป็นอย่างไร
ทั้งนี้ส่วนตัวก็มีความกังวลว่าหากอัยการมีคำสั่งฟ้องแล้วจะได้รับการประกันตัวหรือไม่ เพราะเป็นที่รู้กันดีว่าแนวทางการดำเนินคดีกับผู้ต้องหาทางการเมืองเป็นอย่างไร แต่ก็ได้เตรียมใจมา และเตรียมหลักทรัพย์มายื่นขอประกันตัว
อย่างไรก็ตาม หลังจากที่ตนเองออกมาร่วมเคลื่อนไหวตั้งแต่ปีที่ผ่านมา แล้วถูกดำเนินคดีนั้น ก็ยังคงยืนยันว่าหลังจากนี้จะยังคงให้ความช่วยเหลือขบวนการเหมือนเดิมตามปกติที่ทำมา ยอมรับว่ากังวลว่าจะมีคดีความตามมาอีก แต่เป็นสิ่งที่นักเคลื่อนไหวทุกคนรับรู้ว่าจะต้องเจอ
กระทั่งเวลา 10.45 น. นายอิทธิพร แก้วทิพย์ โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด เปิดเผยต่อสื่อมวลชนว่า ในคดีนี้อัยการได้มีคำสั่งฟ้องผู้ต้องหาทั้ง 7 คน ยกเว้น ทราย เจริญปุระ ในข้อหามาตรา 112 และ 116
ส่วน ทราย เจริญปุระ อัยการมีความเห็นสั่งไม่ฟ้องข้อหามาตรา 112 เนื่องจากเห็นว่าพฤติการณ์ไม่เข้าข่ายความผิด แต่สั่งฟ้องข้อหามาตรา 116 โดยหลังจากนี้จะนำผู้ต้องหาทั้งหมดไปส่งฟ้องต่อศาลอาญาต่อไป
ส่วนนายชินวัตร จันทร์กระจ่าง และ พรหมศร วีระธรรมจารี จะมารายงานตัวต่ออัยการเพื่อนำตัวส่งฟ้องในวันจันทร์ที่ 29 พฤศจิกายนนี้
ต่อมา นายกิตติศักดิ์ กองทอง ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ให้สัมภาษณ์หลังทราบคำสั่งจากอัยการ ระบุว่า การสั่งฟ้องทั้ง 8 คน ในวันนี้ยังไม่ครอบคลุมตามข้อหาที่เจ้าพนักงานแจ้งดำเนินคดี 112 และ 116 อย่างเช่น น.ส.อินทิรา ในวันที่ 29 พ.ย.63 ไม่ได้มีการขึ้นเวทีปราศรัย หรือ มีเจตนาที่จะออกมาร่วมชุมนุม เพียงแต่เข้าไปทักทายและกินข้าวกับมวลชน แต่กับถูกเจ้าหน้าที่แจ้งดำเนินคดี มาตรา 112 และ 116 แต่อัยการมีคำสั่งยกฟ้อง มาตรา 112 เหลือเพียงแค่ 116 เท่านั้น ซึ่งในวันนี้ได้เตรียมหลักทรัพย์ขอยื่นประกันตัวเป็นจำนวนเงิน 100,000 บาท ของกองทุนราษฎร คาดว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไรในเรื่องขอประกันตัว เนื่องจากไม่มีพฤติการณ์หลบหนีและมีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง
ขณะที่ทางด้าน น.ส.อินทิรา เผยว่า ตนไม่เข้าใจกับการทำงานของเจ้าหน้าที่ ที่ถูกแจ้งดำเนินคดีมาตรา 112 และ 116 ได้อย่างไร เนื่องจากวันนั้นไม่ได้มีการขึ้นปราศรัยหรือออกมาร่วมชุมนุมแต่อย่างใด เพียงแค่นำอาหารมาให้มวลชนและทักทายพูดคุยตามปกติที่เคยทำ ส่วนน้องๆคนอื่นนั้นไม่ทราบว่าคิดอย่างไรกับการถูกสั่งฟ้อง
#UDDnews #ยูดีดีนิวส์
