ม็อบท่าน้ำนนท์ที่ถูกดำเนินคดีฝ่าฝืนพรก.ฉุกเฉินฯ หลังนายกฯไม่ยอมเข้าท่า จำนวน 21 ราย มารายงานส่งตัวที่ศาลจังหวัดนนทบุรี
วันนี้ (1 พ.ย. 64) เวลา 10.30น. ที่ศาลแขวงจังหวัดนนทบุรี ผู้สื่อข่าวรายว่า กลุ่มมวลชนจำนวน 18 ราย ซึ่งถูกทางเจ้าหน้าที่ตำรวจพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรจังหวัดนนทบุรี แจ้งดำเนินคดีในข้อกล่าวหาฝ่าฝืน พ.ร.ก.การชุมนุม จากเหตุการณ์ เมื่อวันที่ 30 ก.ย.ที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรีและคณะ ล่องเรือเพื่อตรวจสถานะการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ของจังหวัดนนทบุรี โดยกำหนดการณ์จะขึ้นเรือที่ท่าน้ำปากเกร็ด และล่องเรือมาขึ้นที่ท่าน้ำนนท์ ในช่วงบ่าย
แต่เนื่องจากมีมวลชนผู้รักประชาธิปไตย มาคอยอย่างหนาแน่น เพื่อรอพบและแสดงความรู้สึกที่ไม่พอใจการบริหารงานของรัฐบาล
คณะทีมงานจึงเปลี่ยนแผน การขึ้นฝั่งทำภารกิจตรวจน้ำ ทำให้นายกรัฐมนตรีและคณะเปลี่ยนเป้าหมายไปขึ้นที่ท่าน้ำเกียกกายแทน
ในเวลาต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ออกหมายเรียกกลุ่มมวลชนที่มารวมตัวกันรอรับนายกฯและคณะ ฝ่าฝืน พ.ร.ก.การชุมนุม ทั้งหมดจำนวน 18 คน
โดยแจ้งข้อกล่าวหากับกลุ่มมวลชนที่มารายงานตัวตามหมายเรียก ในข้อกล่าวหา ฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน การกระทำของผู้ต้องหาเป็นความผิดฐาน ร่วมกันมั่วสุมกันตั้งแต่สิบคนขึ้นไป ใช้กำลังประทุษร้ายขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้ายหรือก่อให้เกิดความวุ่นวายขึ้นในบ้านเมือง ไม่ยอมเลิกการมั่วสุมเมื่อเจ้าพนักงานสั่งให้เลิกและฝ่าฝืนคำสั่งจังหวัดนนทบุรี ที่ 2415/2564 เรื่อง สั่งปิดสถานที่เป็นการชั่วคราว (ฉบับที่ 62) ลง 31 สิงหาคม 2564 ข้อ 4 การจัดกิจกรรมที่มีความเสี่ยงต่อการแพรโรค ออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 อันเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา215, 216, 83 ฝ่าฝืนพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 คำสั่งจังหวัดนนทบุรี ที่ 2415/2564 เรื่อง ปิดสถานที่เป็นการชั่วคราว (ฉบับที่ 62) ข้อ 4 การจัดกิจกรรมที่มีความเสี่ยงต่อการแพรโรค จึงได้แจ้งข้อกล่าวหาให้ผู้มารายตัวรับทราบตามฐานความผิดดังกล่าว
คืบหน้าล่าสุดวันนี้ (1 พ.ย.64) กลุ่มมวลชนและประชาชนที่ถูกออกหมายเรียกได้เดินทางมารายงานตัว ที่ศาลจังหวัดนนทบุรีแล้ว
นางวรวรรณ แซ่อั๋ง หรือ ป้าเป้า หนึ่งในผู้ถูกออกหมายเรียกดำเนินคดี เปิดเผยว่า เราไม่ได้ผิดอะไรนี่ เราไปเรียกร้องของเราสิทธิ์ของเรา ด้วยมือเปล่าไม่มีอาวุธอะไรเลย แต่นำกำลังตำรวจควบคุมฝูงชนมาจับเรา เราเป็นประชาชนคนธรรมดาเอง
เมื่อหลายวันก่อน ได้สัมภาษณ์กับทูตเยอรมันเขายังสะอึกเลยคิดยังไงกับประเทศไทยที่ประชาชนโดนคุกคาม โดนริดรอนสิทธิมนุษย์ชน และถูกรังแก ประชาชนจะยืนยังไง ทุกวันนี้ก็หากินกันลำบากมากกว่าจะได้วันละร้อย สองร้อยบาท เดี๋ยวนี้นะคนทำกับข้าวไม่เจ๋งจริง ก็ไม่มีคนซื้อกินหรอก ไม่ว่าของอะไรทั้งนั้นแหละ โดย
ป้าเป้า กล่าวเพิ่มเติมอีกว่าจะยังคงเคลื่อนไหวทางการเมืองอยู่ จนกว่าประเทศนี้จะเป็นของประชาชน กฎหมายไม่ว่าข้าราชการองค์กรต่างๆต้องอยู่ภายใต้กฎหมาย แล้วก็ประชาชนต้องเป็นเจ้านายเหมือนต่างประเทศ สีดำกับสีขาวทะเลาะกัน สีขาวเป็นฝ่ายเจ้าหน้าที่ ไปทำร้ายผิวดำ แค่ยังไม่รู้เลยว่าผิดหรือถูก แต่ว่าสีขาวก็โดนแล้ว แต่ประเทศไทยเรามันไม่ใช่แล้ว ทำไมคนไทยถึงได้กลัวจังเลย กลัวแม้กระทั่งความเป็นคนของตัวเอง กลัวนู้นกลัวนี้สารพัดแล้วยายก็อยากจะถาม ยายแก่จริง ยายไม่เคยกลัวเลย จะให้สักร้อยหมายก็เอาเลย หรือมึงจะฆ่ากูตายเลยกูก็ไม่ว่า
ในเรื่องการเปิดประเทศนี้มีความคิดเห็นว่าอย่างไร ใครเขาจะมาเที่ยว ในเมื่อประเทศคุณยังไม่เรียบร้อยเลย ประชาชนยังไม่เอาคุณเลย ใครเขาจะมากันมีความปลอดภัยกันหรือเปล่าลองถามสักคำซิ ประเทศไหนเขาจะมา คนแบบผู้ดีอังกฤษก็คงไม่มาหรอก จะมาก็แต่ไอ้พวกมาเฟียนั่นแหละที่ยังจะมาอยู่
ขณะที่นายเจษฎา ศรีปลั่ง หรือเจมส์ เครื่อข่ายคนรุ่นใหม่นนทบุรี อีกหนึ่งในผู้ถูกออกหมายเรียกจากเหตุการณ์ดังกล่าว เปิดเผยว่า จากเหตุการณ์ นายกฯขึ้นท่าเรือนนทบุรี ไม่ได้นั้น ได้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจไปติดหมายเรียกเพื่อดำเนินคดีถึงที่บ้านพัก ทำให้มีประชาชนถูกดำเนินคดีทั้งหมดประมาณ 18 คนในขณะนี้ ซึ่งก็ไม่มีความกังวลในเหตุการณ์ หรือไม่มีความกังวลใด ๆ ตราบใดที่เรายังเรียกว่าบ้านเมืองประชาธิปไตยเราย่อมมีเสรีภาพที่จะพูดคุยกับนายกฯที่จะพบเจอ หากเราย้อนกลับไปไม่ว่าจะเป็นนายกอภิสิทธิ์ หรือยุคของยิ่งลักษณ์ ไม่เคยมีการดำเนินคดีแม้แต่นิดเดียว แต่นี่เพิ่งทราบนะครับว่าไม่ว่าจะเป็นโคราชหรือว่าขอนแก่น ก็มีการดำเนินคดีเช่นกัน
ไม่ว่าครม.ที่ไหนของรัฐบาลชุดนี้ลงพื้นที่ไปเยี่ยมน้ำท่วม และมีคนจะมายืนของหรือแสดงความคิดเห็นการเมือง กับกลายเป็นตัวดำเนินคดี ถ้าเราจำได้เมื่อยิ่งลักษณ์มีการไปเป่านกหวีดข้าง ๆ ก็ไม่เคยโดนดำเนินคดีเลย นี่แหละครับ เพราะฉะนั้น มันไม่มีความกังวลสิ่งใดที่เรายังอยู่ในเสรีภาพของเราครับ นายเจษฎากล่าว
คืบหน้าล่าสุดศาลจังหวัดนนทบุรี ได้นัดหมายผู้ถูกกล่าวหาทั้งหมด 21ราย ในคดีความผิดฐาน "ร่วมกันมั่วสุมตั้งแต่สิบคนขึ้นไป ใช้กำลังประทุษร้ายขู่เข็ญว่า จะใช้กำลังประทุษร้ายหรือก่อให้เกิดความวุ่นวายขึ้นในบ้านเมืองฯ"
โดยทางอัยการได้รับสำนวนคดีทั้งหมดจากพนักงานสอบสวนสภ.เมืองนนทบุรีเรียบร้อยแล้ว พร้อมมีคำสั่ง ส่งฟ้องหรือตัดสิน หรือหากมีการเลื่อนส่งฟ้องต้องนำหลักทรัพย์มาประกันตัว อีกครั้งในวันที่ 5 พ.ย.นี้ เวลา 10.00น.ที่ศาลจังหวัดนนทบุรี
#UDDnews #ยูดีดีนิวส์ #ท่าน้ำนนท์
