“ณัฐวุฒิ”
ชี้! จากนี้อีก 2 เดือน จะพิสูจน์หัวใจประชาชนว่าเอาหรือไม่เอา “ประยุทธ์”
เป็นนายกฯ เตือน “เพื่อไทย” เหลือโอกาสอีกครั้งเดียว
ไม่เช่นนั้นก็มีสิทธิ์จบข่าวเหมือนกัน
เมื่อวันที่
21 มีนาคม 2566 นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย
ได้กล่าวผ่านยูทูป ทางช่อง ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ Official รายการ
หัวใจไม่หยุดเต้น EP.72 ในประเด็น : ยุบสภา บอกลาประยุทธ์
ไปแล้วไปลับ พ้นเวทีการเมืองโดย นายณัฐวุฒิ กล่าวในรายการว่า
ในที่สุด
พล.อ.ประยุทธ์ ก็ประกาศยุบสภานะครับ ท่ามกลางความยินดีปรีดาของคนทั้งประเทศ
หลายคนถามผมว่าเมื่อยุบสภาแล้วจะร้องเพลงอะไร? ปัดโธ่!
คุณก็ถามผมได้ จะไปรู้เหรอครับ เพราะว่าในใจคิดได้แต่เสียงดนตรีทำนองเดียวฮะ
(ว่าแล้วก็ร้องทำนองธรณีกรรแสง)
คือสำหรับความรู้สึกผมนะครับ
ผมไม่ได้คิดว่าประชาชนกำลังมองเห็นนายกรัฐมนตรียุบสภาเพื่อเตรียมกลับมาใหม่หลังการเลือกตั้ง
แต่คนส่วนใหญ่มองว่านี่คือการยุบสภาและลาจากกันชั่วนิรันดร์กับพล.อ.ประยุทธ์ในฐานะนายกรัฐมนตรี
เปิดหัวใจพูดกันตรงนี้เลยนะครับ ผมไม่เชื่อว่าชาวบ้านชาวช่องเขาจะกาเลือกพล.อ.ประยุทธ์มาเป็นนายกรัฐมนตรีได้อีก
แม้ว่าจะมีส.ว. 250 คน คอยเป็นลูกคู่ขานรับอยู่ก็ตาม
การพิสูจน์ความเชื่อนี้
ไม่ช้าไม่นานอะครับ เพราะว่าการเลือกตั้งคิดว่าจะมีขึ้นในวันที่ 14 พฤษภาคม
นับเวลากลม
ๆ จากนี้อีกเพียง 2 เดือนเท่านั้นนะครับเป็นว่ารู้เรื่องกัน ไม่มีเกมพิสดารบนดินใต้ดินอะไรที่จะมาขวางมาล้มเลือกตั้งแล้วล่ะครับ
ทุกอย่างก็จะเดินไปตามทางนี้
ผมเชื่อว่าบรรยากาศในสนามเลือกตั้ง
การแข่งขันหักล้างกันในทางนโยบาย แม้จะเป็นเรื่องสำคัญ แต่ความเข้มข้นจะไม่มากนัก
เนื่องจากประชาชนเขาเข้าใจว่าแต่ละพรรคที่ประกาศนโยบายก็ฟังดูน่าตื่นเต้นอะครับ
แต่ว่าพรรคที่จะทำได้จริง หมายถึงมีศักยภาพที่จะเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล มีไม่กี่พรรค
และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง
พรรคที่เคยมีผลงานเป็นรัฐบาลแล้วทำนโยบายอย่างเป็นรูปธรรมชัดเจนมาแล้ว ยิ่งมีน้อยยิ่งกว่าน้อย
ดังนั้นสิ่งที่จะเข้มข้นกันจริง
ๆ คือการใช้อำนาจรัฐ ใช้ทรัพยากรกระสุนดินดำ เพื่อให้ได้มาซึ่งคะแนนสนับสนุนจากประชาชน
ตรงนี้ชี้ไปเลยครับว่า เครือข่ายพรรคร่วมรัฐบาลปัจจุบันนี่แหละ
ได้เปรียบเรื่องทรัพยากรและอำนาจต่าง ๆ อู้ฟู้กล้ามใหญ่กันทุกพรรคอะครับ ส่วนอีกข้างหนึ่งคือพรรคร่วมฝ่ายค้านเป็นรองในมิตินี้
แต่ความล้มเหลวของรัฐบาลและนายกฯ มาตลอด 8 ปี
นี่คือจุดแข็งซึ่งฝ่ายค้านเขาถือร่วมกันอยู่
ผมเชื่อว่าเราจะเห็นบรรยากาศการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่นะครับ
กกต.เขาก็คงไม่เห็นเพราะเขาไม่เคยเห็นมาตลอดอยู่แล้ว
แต่การใช้เม็ดเงินในสนามเลือกตั้งทั้งบนดินและใต้ดินจะเกิดขึ่นอย่างน่าสยดสยองแน่นอน
แล้วจากการตระเวนไปปราศรัยของผมทั่วประเทศ
ประชาชนเขาพร้อมรับเงินด้วยนะครับ แต่จะเลือกหรือเปล่า
คนส่วนใหญ่เขาบอกว่าเขาไม่เลือก เขาคิดที่จะเลือกพรรคการเมืองที่ทำได้จริง และยืนอยู่ตรงข้ามกับรัฐบาลปัจจุบัน
เงินมันอาจจะสร้างความฝันให้คนบางคนบางกลุ่มได้นะครับ แต่ซื้อใจคนไม่ได้
ผมเชื่ออย่างงั้น!!!
การย้ายพรรคของนักการเมือง
ถ้าจะมีบ้างก็ประปรายกระเส็นกระสายแล้วนะครับ เพราะว่าเขาย้ายกันเสร็จหมดแล้ว
แต่พี่พล.อ.ประยุทธ์ต้องยุบก็เพื่อเป็นหลักประกันและเปิดช่องทางกฎหมายให้พวกที่ย้าย
ๆ มาลงสมัครได้
หาเสียงกันไปเที่ยวนี้สิ่งที่น่าจะเป็นก็คือ
ถึงจุดหนึ่งทั้งประชาชนและพรรคการเมืองจะเห็นภาพเดียวกันว่าจุดตัดสำคัญของการเลือกตั้งคราวนี้อยู่ที่จะ
“เอา” หรือ “ไม่เอา” พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกรัฐมนตรี
ถ้าเลือกฝ่ายรัฐบาลปัจจุบัน
ก็แน่นอนล่ะครับ ประยุทธ์กลับมา หรือถ้าฝ่ายตรงข้ามเขาชนะไม่เด็ดขาด
ประยุทธ์ก็มาอีกเหมือนกัน ดังนั้นพรรคการเมืองซีกรัฐบาลเขาต้องทำทุกวิถีทางไม่ให้ฝ่ายค้านแลนด์สไลด์
ส่วนพรรคฝ่ายค้านพรรคใดพรรคหนึ่งก็ต้องสู้สุดชีวิตเพื่อแลนด์สไลด์ให้ได้
ถ้าพรรคฝ่ายค้านเขาแลนด์สไลด์แล้วตั้งรัฐบาลได้
เชื่อว่า พล.อ.ประยุทธ์, พล.อ.ประวิตร, พล.อ.อนุพงษ์ และบรรดานายทหารที่เดินตามกันมา
จะกลับบ้านเลี้ยงหลานแน่ ๆ ส่วนพรรคการเมืองที่ทั้งคู่ตั้งเอาไว้
น่าจะถึงคราวอวสาน ไม่ว่าจะบ้านใหม่บ้านใหญ่อยู่ในนั้น ผมว่ากลับบ้านเก่า
หมายความว่าภาพความเป็นพรรคเฉพาะกิจจะปรากฎชัดและสูญสลายไปในที่สุด
สิ่งที่น่าสนใจก็คือ
ก้อนคะแนนของฝ่ายอำนาจนิยม/อนุรักษ์นิยม ที่พล.อ.ประยุทธ์ไปเทคโอเวอร์มาจากพรรคประชาธิปัตย์
จะเคลื่อนตัวอย่างไร หาก “รวมไทยสร้างชาติ” กับ “พลังประชารัฐ” มีอันต้องสูญสลาย
จะถอยกลับไปที่พรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งเชื่อว่าคุณอภิสิทธิ์แกก็นั่งลุ้นอยู่
เพราะหากเลือกตั้งคราวนี้ประชาธิปัตย์ได้เท่าเดิมหรือน้อยกว่าเดิม
จะเห็นคุณอภิสิทธิ์ยกพวกมาเทคโอเวอร์ประชาธิปัตย์อีกทีแน่ ๆ
หรือก้อนคะแนนนี้จะเดินหน้าต่อไป
สนับสนุนฝ่ายเสรีนิยมฝ่ายประชาธิปไตย ในการเลือกตั้งครั้งถัดไป
นักสังเกตการทางการเมืองทั้งหลายก็จับตามุมนี้อยู่เหมือนกันนะครับ
แต่พูดก็พูดเถอะครับ
ในซีกฝ่ายประชาธิปไตย ผมว่าพรรคเพื่อไทยก็เหลือโอกาสครั้งเดียวเหมือนกันนะครับ
คือเที่ยวนี้ถ้าแลนด์สไลด์ ตั้งรัฐบาลประชาธิปไตยได้
แล้วใช้นโยบายแก้ปัญหาประชาชนถูกจุด หลักการประชาธิปไตยถูกต้อง ก็ไปต่อได้ยาว ๆ
แต่ถ้าไม่เช่นนั้นมีสิทธิ์จบข่าวเหมือนกันนะครับผมว่า