เพื่อไทยประกาศนโยบาย ‘พักหนี้เกษตรกรทันที 3 ปี พักต้น พักดอก’ ทหารเกณฑ์สมัครใจ ‘แพทองธาร’ ลั่น รัฐบาลเพื่อไทยมา เศรษฐกิจโตแน่ ต้องเลือกให้แลนด์สไลด์เท่านั้น
วันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2566 พรรคเพื่อไทย จัดปราศรัยใหญ่ คิดใหญ่ทำเป็นเพื่อไทยทุกคน ที่ศาลากลางเก่า อ.เมือง จ.อุบลราชธานี โดยมีแกนนำพรรคเพื่อไทย ได้แก่ นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย นางสาวแพทองธาร ชินวัตร ประธานคณะที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรม และหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย นายจาตุรนต์ ฉายแสง กรรมการยุทธศาสตร์และทิศทางการเมือง พรรคเพื่อไทย นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผู้อำนวยครอบครัวเพื่อไทย รวมทั้ง ส.ส.อุบลราชธานี และผู้ซึ่งประสงค์สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.อุบลราชธานี ทั้งนายวรสิทธิ์ กัลป์ตินันท์ นางสาวกิตติ์ธัญญา วาจาดี นายเอกชัย ทรงอำนาจเจริญ นายรัฐกิตติ์ ผาลีพัฒน์ นายชูวิทย์ พิทักษ์พรพัลลภ นายประภูศักดิ์ จินตะเวช นายสมคิด เชื้อคง นายเกรียง กัลป์ตินันท์ สมาชิกพรรคเพื่อไทย และอดีต ส.ส.อุบลราชธานี ท่ามกลางประชาชนที่เข้ามาร่วมรับฟังปราศรัยอย่างคับคั่งกว่า 25,000 คน
นายเกรียง กัลป์ตินันท์ สมาชิกพรรคเพื่อไทย และอดีต ส.ส.จังหวัดอุบลราชธานี กล่าวว่า 20 ปีที่แล้ว ดร.ทักษิณ ชินวัตร มาเปิดสาขาพรรคที่จังหวัดอุบลราชธานี ในช่วงที่เป็นนายกรัฐมนตรี เมื่อปี 2543-2549 ทำให้ความเป็นอยู่ของคนอุบลราชธานีเปลี่ยนไปมากมาย โครงการต่าง ๆ ที่ทำไว้ คนอุบลราชธานีและคนอีสานไม่ลืมว่า ดร.ทักษิณ ชินวัตร คือผู้ก่อตั้งพรรคไทยรักไทย พลังประชาชน และเพื่อไทยในปัจจุบัน ดร.ทักษิณคือจิตวิญญาณของพรรคเพื่อไทย วันนี้ลูกสาวของ ดร.ทักษิณ อาจเป็นว่าที่แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย เชื่อว่าถูกใจพี่น้องประชาชนอย่างแน่นอน
“นางสาวแพทองธาร ชินวัตร เป็นคนที่ทุกคนยอมรับเช่นเดียวกับที่ทุกคนยอมรับ ดร.ทักษิณ ชินวัตร เพราะการเป็นนายกรัฐมนตรี ไม่ใช่แค่เรื่องนโยบาย แต่เป็นเรื่องการทำงานร่วมกับรัฐมนตรี 36 คน ถ้าไม่ใช่คนที่คนส่วนใหญ่ให้การยอมรับ ก็จะบริหารประเทศชาติไม่ได้ ถึงบริหารได้ก็บริหารได้ไม่ดี” นายเกรียงกล่าว
นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ในการเลือกตั้งครั้งนี้ ขออาสามารับใช้พี่น้องประชาชนชาวอุบลราชธานียกจังหวัดให้ชนะเลือกตั้งอย่างถล่มทลาย แลนด์สไลด์ทั้งอุบลฯ และต้องได้มากกว่า 250 ที่นั่งขึ้นไป เพื่อเอาพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ออกไป เป็นรัฐบาลมา 8 ปี คนไทยมีทุกข์ที่ยิ่งใหญ่ เกิดมามีหนี้แล้วคนละ 5 แสนบาท เป็นหนี้ที่ต้องรับผิดชอบใช้หนี้ถึงลูกถึงหลานก็ไม่หมด ทุกครัวเรือนเป็นหนี้รวมกัน 14 ล้านล้านบาท หนี้สาธารณะ 10 ล้านล้านบาท นี่คือทุกข์อันยิ่งใหญ่ เพื่อไทยขออาสามาแก้หนี้ที่พอกพูนมา 8 ปีให้พี่น้องประชาชน ดังนั้น เข้าคูหา กาเพื่อไทยทั้ง 2 บัตร
นายแพทย์ชลน่าน กล่าวต่อว่า ขณะนี้คะแนนนิยมเลือกพรรคเพื่อไทยมาเป็นอันดับ 1 ทุกภาค รวมถึงภาคใต้ แสดงให้เห็นว่าคนทั้งประเทศต้องการให้เพื่อไทยมาทำหน้าที่เป็นรัฐบาลของพี่น้องประชาชน ความมั่นใจที่พี่น้องประชาชนมอบให้นี้ เรื่องแรกสุดคือ ส.ส.ของพรรคเพื่อไทย เรื่องที่ 2 คือนโยบาย พรรคไหนก็พูดได้ แต่พรรคที่ทำเป็นและทำได้จริงคือพรรคเพื่อไทย และเรื่องที่ 3 คือว่าที่แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีที่มีความรู้ความสามารถ เป็นคนรุ่นใหม่
“มีหลายพรรคมาขอให้ช่วยเลือกพรรคของเขา บอกว่าเราเป็นพรรคพี่พรรคน้องกัน เลือกตั้งเสร็จจะร่วมมือกัน ขออย่าหลงเชื่อเป็นอันขาด พรรคเพื่อไทยไม่มีสาขา มีแต่เพื่อไทย เพื่อพี่น้องประชาชนเท่านั้น ขอให้เลือกพรรคเพื่อไทยทั้ง 2 ใบ ให้แลนด์สไลด์ยกจังหวัดอุบลฯ” นายแพทย์ชลน่าน กล่าว
นางสาวแพทองธาร ชินวัตร ประธานคณะที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรม พรรคเพื่อไทย และหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย กล่าวว่า จังหวัดอุบลราชธานีมีศักยภาพทางเศรษฐกิจ พร้อมขยายการค้าไปสู่ประเทศเพื่อนบ้านอย่าง ลาว กัมพูชา จีน และเวียดนาม แต่การทำรัฐประหารทำให้การพัฒนาต้องหยุดชะงัก พี่น้องประชาชนต้องเสียโอกาสทางเศรษฐกิจและเผชิญกับหนี้สินแทน
ในเลือกตั้งครั้งต่อไป พรรคเพื่อไทยจึงมีแผนพร้อมพัฒนาจังหวัดอุบลราชธานี ให้มีระบบคมนาคมที่สะดวกสบาย ครบครัน ทั้งรถไฟความเร็วสูง และสนามบินใหญ่ เพื่อประหยัดเวลา และลดต้นทุนขนส่ง ประชาชน พ่อค้า แม่ค้า โดยเฉพาะเกษตรกรสามารถนำสินค้าเกษตรส่งไปขายได้ทั่วประเทศ และทั่วโลก
จึงขอเสนอแผนพัฒนาสนามบินใหญ่ที่มีความทันสมัย พร้อมให้จังหวัดอุบลราชธานีรองรับนักท่องเที่ยวได้เพิ่มขึ้น สร้างรายได้ผ่านการท่องเที่ยว สร้างอาชีพให้คนในพื้นที่ เปิดช่องทางเศรษฐกิจใหม่ ขยายแหล่งานได้ทั้งในจังหวัดอุบล ฯ และทั่วประเทศ ให้ประชาชนได้มีอนาคตที่ดี
นางสาวแพทองธารยังได้ย้ำนโนบายด้านการเกษตรและเทคโนโลยีที่จะช่วยเหลือประชาชนให้มีช่องทางสร้างรายได้เพิ่มขึ้นผ่านการส่งออกสินค้าเกษตร โดยมีรัฐบาลเป็นตัวกลางการสื่อสารระหว่างพี่น้องเกษตรกรและตลาดโลก เพิ่มความสะดวกสบายให้ประชาชนมีรายได้เพิ่มขึ้น เหนื่อยน้อยลง พร้อมย้อนถึงผลงานของรัฐบาลพรรคไทยรักไทยเป็นเครื่องพิสูจน์ให้ประชาชนเห็นว่า การแก้ไขปัญหาที่รวดเร็วสามารถทำได้จริง ตอกย้ำความเชื่อมั่นว่าเมื่อพรรคเพื่อไทยได้เป็นรัฐบาลจะพร้อมแก้ไขปัญหาให้พี่น้องประชาชนอย่างแน่นอน
“พรรคเพื่อไทยมีนโยบายมากมายที่จะทำให้พี่น้องประชาชนชาวไทยและชาวอุบลราชธานี มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ไม่ต้องตื่นมากังวลเรื่องหนี้สิน อยากให้ตื่นขึ้นมาพร้อมอนาคตที่สดใส เราเสียโอกาสกันมามากพอแล้ว พรรคเพื่อไทยขอเข้ามาดูแลพี่น้องในการเลือกตั้งครั้งต่อไป ต้องแลนสไลด์ เลือกเพื่อไทยทั้งคนทั้งพรรค” นางสาวแพทองธาร กล่าว
นายจาตุรนต์ ฉายแสง กรรมการยุทธศาสตร์และทิศทางการเมือง พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า นักการเมืองอีสานทุกยุคสมัย พยายามต่อสู้เพื่อศักดิ์ศรีชาวอีสานให้ได้รับความเจริญ พ้นความยากจน ปี 2544 มีนักการเมืองคนหนึ่งที่มีวิสัยทัศน์ ตั้งพรรคการเมืองขึ้นมา โดยชูนโยบาย 30 บาทรักษาทุกโรค นโยบายกองทุนหมู่บ้านไปทั่วประเทศ ประชาชนเลือกอย่างถล่มทลาย เมื่อได้เป็นรัฐบาล ก็นำเอานโยบายเหล่านี้ไปประกาศในรัฐสภา นำไปปฏิบัติทันทีภายในปีแรก และทุกนโยบายสำเร็จภายใน 4 ปี พรรคนั้นคือพรรคไทยรักไทย ที่มี ดร.ทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี ส่งผลให้ชนะการเลือกตั้งต่อเนื่องอีกในสมัยพรรคพลังประชาชน และพรรคเพื่อไทย
ทั้งนี้ คนอีสานรัก ดร.ทักษิณ รักพรรคไทยรักไทยจนถึงเพื่อไทย เพราะภาคอีสานเดือดร้อนที่สุด ยากจนที่สุด เมื่อมีนโยบายออกมาเป็นประโยชน์ต่อคนจนรากหญ้า คนอีสานจึงได้รับประโยชน์จากนโยบายเหล่านั้น เมื่อมีการยึดอำนาจยกเลิกนโยบายที่เป็นประโยชน์กับประชาชน ชาวอีสานจึงเป็นกลุ่มคนที่เดือดร้อนที่สุด จนต้องออกมาต่อสู้เพื่อให้ตนเองได้นโยบายที่เป็นประโยชน์แก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ และทำให้ชีวิตดีขึ้นกลับมา กล่าว
“เลือกตั้งคราวหน้า เขาจะขัดขวางเราแน่นอน เขาไม่ต้องการให้เราชนะ พี่น้องชาวอีสาน ต้องช่วยกันเลือกเพื่อไทยให้ถล่มทลาย เพื่อเราจะได้ตั้งรัฐบาลของพี่น้อง เอานโยบายที่มีประโยชน์กับพี่น้องไปปฏิบัติ เราต้องเอาชนะเสียง 250 ของ ส.ว.ให้ได้ เพื่อให้คนไทยได้ประโยชน์ถ้วนหน้า โดยเฉพาะพี่น้องภาคอีสานที่เดือดร้อนที่สุด จะได้ประโยชน์มากที่สุด” นายจาตุรนต์ กล่าว
นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยรู้ว่าเกษตรกรยังต้องแบกภาระหนี้สิน พรรคเพื่อไทยจึงเสนอนโยบาย ‘พักหนี้เกษตรกรทันที 3 ปี พักต้น พักดอก’ เพื่อให้ความช่วยเหลือแก่เกษตรกรที่มีภาระหนี้สิน จากปัญหาราคาพืชผลการเกษตรตกต่ำ ขายข้าวผลไม้ไม่ได้ราคา หรือเหตุสุดวิสัย ให้พักฟื้น ฟื้นฟูวิถีชีวิต เพื่อกลับมามีรายได้อีกครั้ง โดยเกษตรกรที่เข้าโครงการไม่ต้องชำระทั้งต้นทั้งดอก เป็นระยะเวลา 3 ปี เพื่อจะได้มีเวลาไปเร่งทำงานหาเงินได้อย่างไม่มีภาระกังวล ส่วนทหารเกณฑ์เป็นแบบสมัครใจ เพื่อให้ลูกหลานได้ไปประกอบอาชีพหารายได้
“ช่วยกันเลือกเพื่อไทย เพื่อให้ได้ลืมตาอ้าปากอีกครั้ง ปิดประตูหัวใจอย่าปันใจให้ใครตั้งแต่คืนนี้ ตัดสินใจให้เด็ดขาด เดินเข้าคูหา กาบัตร 2 ใบ เลือกเพื่อไทยทั้งคนทั้งพรรค เอาแพทองธาร เป็นนายกรัฐมนตรี เลือกเพื่อไทยให้แลนด์สไลด์ทั้งจังหวัดอุบลราชธานี เราจะได้นโยบายดี ๆ จากรัฐบาลเพื่อไทย เพื่อแก้ไขปัญหาหนี้สินปากท้องให้พี่น้องต่อไป” นายณัฐวุฒิกล่าว
นายณัฐวุฒิ กล่าวอีกว่า พรรคเพื่อไทยมีนโยบายยกระดับชีวิต ยกระดับรายได้ ขยายโอกาส จึงตั้งใจนำเสนอนโยบายให้พี่น้องประชาชน ไม่ว่าจะเป็นนโยบายโครงการรถไฟฟ้าความเร็วสูง ที่เคยเสนอแต่ถูกล้มไปสมัยรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นโยบายโครงสร้างพื้นฐานรถไฟรางคู่ พร้อมรองรับทั้งนักท่องเที่ยวและขนส่งสินค้าเกษตร นโยบายฉีดวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูกให้ผู้หญิงที่อายุถึงเกณฑ์ ในขณะที่นโยบายของรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ก่อหนี้สินให้ประเทศชาติเป็น 10 ล้านล้านบาทและผลักภาระมาให้คนไทยต้องใช้หนี้ ซึ่งพรรคเพื่อไทยไม่เคยมีนโยบายแจกเงิน เรามุ่งยกระดับคุณภาพชีวิต ขยายโอกาสรายได้ให้พี่น้องประชาชนและลูกหลาน
#UDDnews #ยูดีดีนิวส์ #เพื่อไทย #อุบลราชธานี