วันพฤหัสบดีที่ 8 มิถุนายน พ.ศ. 2566

“กลุ่ม 24 มิถุนาประชาธิปไตย” ยื่นหนังสือจี้ กกต. เร่งรับรองผลการเลือกตั้ง หยุดคิดชงยุบ “ก้าวไกล” ขู่อย่าเตะถ่วงเอื้อขั้วเก่า ทำให้โปร่งใส ขีดเส้น 20 มิ.ย.ไม่ประกาศผลจะมาใหม่ “สมยศ” มอง “พิธา” ถูกกลั่นแกล้งประเด็นหุ้น ห่วงลามยุบพรรค คนจะเคลื่อนไหวหนักกว่าอดีต

 


“กลุ่ม 24 มิถุนาประชาธิปไตย” ยื่นหนังสือจี้ กกต. เร่งรับรองผลการเลือกตั้ง หยุดคิดชงยุบ “ก้าวไกล” ขู่อย่าเตะถ่วงเอื้อขั้วเก่า ทำให้โปร่งใส ขีดเส้น 20 มิ.ย.ไม่ประกาศผลจะมาใหม่ “สมยศ” มอง “พิธา” ถูกกลั่นแกล้งประเด็นหุ้น ห่วงลามยุบพรรค คนจะเคลื่อนไหวหนักกว่าอดีต

 

วันที่ 8 มิถุนายน 2533 เวลา 13.00 น. ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) “กลุ่ม 24 มิถุนาประชาธิปไตย” นำโดย สมยศ พฤกษาเกษมสุข และ ธนพร วิจันทร์ ตัวแทนเครือข่ายแรงงานเพื่อสิทธิประชาชน เดินทางมายื่นหนังสือถึง กกต. เพื่อเรียกร้องให้รับรองผลการเลือกตั้งทันที และหยุดดำเนินการยุบพรรคการเมือง

 

ท่ามกลางการดูแลรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ทุ่งสองห้อง และตำรวจกองบังคับการอารักขาและควบคุมฝูงชน กองบังคับการตำรวจนครบาล 2 (บก.อคฝ.บก.น.2) เป็นจำนวนมาก

 

ธนพร กล่าวว่า เป็นระยะเวลาเกือบ 1 เดือนแล้วหลังเลือกตั้ง ที่วันนี้เรายังไม่ได้รับสัญญาณจาก กกต. ว่าจะประกาศผลเมื่อไหร่ เพราะจะทำให้ประชาชนได้รับความเสียหาย รวมถึงพรรคการเมืองที่กำลังจัดตั้งรัฐบาลด้วย แต่ทว่า กกต.กลับทำเรื่องร้องเรียนของนักร้องต่าง ๆ ที่มาร้องเรียนพรรคการเมืองฝั่งประชาธิปไตย ฉะนั้นกลุ่มฯ จึงคิดว่า กกต.ควรประกาศรับรองให้แล้วเสร็จภายใน 20 มิ.ย.นี้ เพื่อทำให้การเลือกประธานสภา เลือกนายกรัฐมนตรีดำเนินการต่อไป และหากยังไม่มีความคืบหน้าจะกลับมาติดตามผลที่สำนักงาน กกต.อีกครั้ง

 

ส่วนข้อวิจารณ์ กกต.ที่ให้พรรคก้าวไกล ชี้แจงภาพที่มีสัญลักษณ์รูปสามเหลี่ยมอิลูมินาติ มีรูปค้อนเคียวนั้น ธนพร ชี้แจงว่า อยากฝาก กกต.ว่า สัญลักษณ์ดังกล่าวเป็นการสื่อถึงตัวแทนกรรมกรและชาวนา โดยค้อนสื่อถึงตัวแทนกรรมการ และเคียวคือบรรพบุรุษเราที่เป็นชาวนา ไม่ได้มีการสื่อถึงการล้มล้างการปกครองระบบประชาธิปไตย แต่อย่างใด

 

ด้าน สมยศ กล่าวว่า จากที่ติดตามการเมืองมาตั้งแต่ปี 2549 แปลกใจทำไมกรณีนักร้องอย่าง ศรีสุวรรณ จรรยา, สนธิญา สวัสดี ที่ร้องเรียนการเลือกตั้งซึ่งมาจากประชาชน 14-15 ล้านเสียง กลับรวดเร็ว แต่วันนี้ พิธา กลับเจอแต่การขัดขวาง ฉะนั้น กกต. ควรพิจารณาและฟังเสียงประชาชนที่เลือกพรรคอันดับหนึ่งบ้าง

 

พร้อมมองว่า กกต. ที่มาจาก ส.ว. และ ส.ว.มาจากการแต่งตั้งการสืบทอดอำนาจและเชื่อมโยงการรัฐประหารปี 2557 ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ จึงมองว่ามีความพยายามขัดขวางการตั้งรัฐบาลของคนที่มาจากประชาชน ดังนั้นจึงขอส่งสัญญาณถึง กกต. ขอให้ทำการเลือกตั้งครั้งนี้โปร่งใส และดำเนินการับรองผลโดยเร็ว เพื่อที่จะได้เปิดประชุมสภาผู้แทนราษฎร และเลือกนายกรัฐมนตรีต่อไป

 

พร้อมเสนอว่า หากกังวลจะมีปัญหาก็ขอให้ กกต. รับรองไปก่อน และค่อยสอยภายหลังก็สามารถทำได้ ฉะนั้นขอแนะนำ กกต. ให้ประกาศรับรองผลทันที ไม่ใช่รอจนถึงวันที่  13 ก.ค. ไม่เช่นนั้นจะมองว่ามีเจตนาร้ายที่จะโค่นล้มระบอบประชาธิปไตย

 

ส่วนกรณีถือหุ้นสื่อของ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล และแคนดิเดตนายกฯ สมยศ มองว่าเป็นการกลั่นแกล้งไม่ให้พิธาเป็นนายกรัฐมนตรี เพราะไอทีวีไม่มีอยู่จริงในการเป็นสื่อเพื่อทำข่าวแล้ว และพิธาไม่ได้เป็นผู้ถือหุ้นมาตั้งแต่ต้น แต่ได้รับมรดก ซึ่งวันนี้ก็โอนหุ้นเรียบร้อยแล้ว จึงถือว่ามีเจตนาชัดเจนและไม่ได้มีอิทธิอิทธิพลในไอทีวีแต่อย่างใด

 

เมื่อถามว่า ประเมินอย่างไรถ้า กกต. ส่งศาลรัฐธรรมนูญให้พิจารณาประเด็นยุบพรรค สมยศ กล่าวว่า กกต. ควรพิจารณาเฉพาะรายหรือบุคคลไป เพราะถ้าเป็นการกระทำผิดของ 1 คน แต่ถึงขั้นยุบพรรค ถือเป็นการก้าวล่วงระบบประชาธิปไตย ซึ่งทางกลุ่มก็กังวลใจ เพราะเห็นบทเรียนในอดีตมาหลายครั้ง ที่วันนี้มีความพยายามทำลายพิธาและพรรคก้าวไกล เหมือนครั้ง ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ และพรรคอนาคตใหม่ หากเป็นเช่นนั้น ก็เชื่อว่าผู้คนจะมาโดยอัตโนมัติโดยไม่ต้องมีการนำ และจะมีการเคลื่อนไหวอย่างเข้มข้นมากขึ้น นายสมยศกล่าว

 

#UDDnews #ยูดีดีนิวส์ #กกต #หุ้นไอทีวี #พิธาลิ้มเจริญรัตน์