วันพฤหัสบดีที่ 8 มิถุนายน พ.ศ. 2566

ศาลให้รอการลงโทษจำคุก “10 ทะลุฟ้า” คดีสาดสีหน้าพรรคประชาธิปัตย์

 


ศาลให้รอการลงโทษจำคุก “10 ทะลุฟ้า” คดีสาดสีหน้าพรรคประชาธิปัตย์


ที่เพจเฟซบุ๊ก ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน รายงานว่า วันที่ 8 มิถุนายน 2566 เวลา 09.00 น. ศาลอาญา รัชดาฯ นัดฟังคำพิพากษาในคดีของนักกิจกรรมจากกลุ่มทะลุฟ้า 10 คน ประกอบไปด้วย “ป่าน” กตัญญู หมื่นคำเรือง, “คิม” ทสมา สมจิตร์, “เจมส์” ศักดิ์สิทธิ์ เผือกผ่องศรี, “คาริม” จิตริน พลาก้านตง, “ทู” กฤษณะ มาตย์วิเศษ, “อาทิตย์” ทวี เที่ยงวิเศษ, ชาติชาย ไพรลิน, “ยาใจ” ทรงพล สนธิรักษ์, “ไดโน่” นวพล ต้นงาม และ “บอมเบย์” เจษฎาภรณ์ โพธิ์เพชร กรณีทำกิจกรรมสาดสีหน้าที่ทำการพรรคประชาธิปัตย์ เพื่อเรียกร้องให้ลาออกจากการเป็นพรรคร่วมรัฐบาล เมื่อวันที่ 30 ก.ค. 2564


สำหรับคดีนี้มี ราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์เป็นผู้กล่าวหา โดยกล่าวหาทั้งหมด 6 ข้อกล่าวหา ได้แก่ ข้อหาตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 215 และ 216, ข้อหาทำให้เสียทรัพย์ ตามมาตรา 358, ข้อหาบุกรุกโดยใช้กำลังประทุษร้ายหรือขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้ายหรือโดยร่วมกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป ตามมาตรา 362 ประกอบมาตรา 365, ฝ่าฝืนข้อกำหนดตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ และข้อหาใช้เครื่องขยายเสียงโดยไม่ได้รับอนุญาต


ต่อมาอัยการมีความเห็นสั่งฟ้องเมื่อวันที่ 19 ก.ค. 2565 โดยศาลไม่อนุญาตให้ประกันตัวจำเลย 7 คน ได้แก่ ป่าน, คิม, เจมส์, คาริม, ทู, อาทิตย์ และ ชาติชาย ทั้งเจ็ดถูกคุมขังระหว่างพิจารณาอยู่ถึง 56 วัน ก่อนศาลอุทธรณ์ได้มีคำสั่งให้ประกันตัวเมื่อวันที่ 12 ก.ย. 2565


ต่อมา คดีนี้ศาลนัดสืบพยานในช่วงเดือนพฤษภาคม 2566 อย่างไรก็ตามในเวลาต่อมา จำเลยทั้ง 10 ได้แถลงขอกลับคำให้การเดิม เป็นรับสารภาพตามข้อกล่าวหา ศาลจึงให้งดการสืบพยานและนัดฟังคำพิพากษาในวันที่ 8 มิ.ย. 2566 โดยในวันที่ 30 พ.ค. 2565 ผู้กล่าวหาได้แถลงไม่ติดใจเรียกร้องค่าเสียหายในทางแพ่งและขอให้ศาลลงโทษจำเลยในสถานเบา


เวลาประมาณ 11.00 น. ศาลอ่านคำพิพากษาเห็นว่าจำเลยมีความผิดตามฟ้อง ลงโทษจำคุกจำเลยที่ 1-9 คนละ 1 ปี 10 เดือน ปรับคนละ 25,200 บาท จำเลยให้การรับสารภาพ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง เหลือจำคุกจำเลยที่ 1-9 คนละ 11 เดือน ปรับคนละ 12,600 บาท


ส่วนจำเลยที่ 10 “ไดโน่” นวพล ต้นงาม ซึ่งเป็นเพียงคนเดียวที่ไม่ได้ถูกฟ้องข้อหาทำให้เสียทรัพย์ด้วยนั้น พิพากษาลงโทษจำคุก 1 ปี 6 เดือน ปรับ 20,200 บาท จำเลยให้การรับสารภาพ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง เหลือจำคุกจำเลยที่ 10 เป็นเวลา 9 เดือน ปรับ 10,100 บาท


ศาลเห็นว่าโทษจำคุกให้รอการลงโทษจำเลยทั้ง 10 เป็นเวลา 2 ปี ให้จำเลยรายงานตัวต่อพนักงานคุมประพฤติ 3 เดือนต่อครั้ง ภายในกำหนด 1 ปี และทำงานบริการสังคมเป็นเวลา 24 ชั่วโมง


ภายหลังอ่านคำพิพากษา จำเลย 3 ราย เฉพาะทรงพล สนธิรักษ์, เจษฎาภรณ์ โพธิ์เพชร และ นวพล ต้นงาม เท่านั้นที่ต้องชำระค่าปรับตามคำพิพากษา ส่วนจำเลยที่เหลืออีก 7 ราย ได้ถูกขังระหว่างพิจารณาเกินกว่าอัตราค่าปรับไปแล้ว ทำให้ไม่ต้องชำระค่าปรับอีก


ขอบคุณภาพและที่มา : เพจเฟซบุ๊ค ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน


UDDnews #ยูดีดีนิวส์ #TLHR #ทะลุฟ้า #คดีสาดสีหน้าพรรคประชาธิปัตย์