อาจารย์
มธ. เป็นห่วง “รุ้ง-เพนกวิน” นำตำราเรียนมาให้ ย้ำ
ที่ของนักศึกษาควรเป็นห้องเรียนปกติกับเพื่อน ๆ กับอาจารย์ เรือนจำไม่ใช่ห้องเรียน!
ยูดีดีนิวส์
: 26 ต.ค. 63 เวลา 12.30 น. ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร อาจารย์ประจักร
ก้องกีรติ รองคณบดีฝ่ายวิจัยและบริการวิชาการ คณะรัฐศาสตร์ และอาจารย์ บุญเลิศ
วิเศษปรีชา อาจารย์คณะสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวว่า
วันนี้ยังไม่ได้เยี่ยมทั้ง “รุ้ง” และ “เพนกวิน” มีเฉพาะทนายที่ได้เยี่ยมและพูดคุยเรื่องคดี
ในกรณีที่ทนายจะขอให้ผู้ปกครองและอาจารย์ได้เข้าเยี่ยมนั้น
วันนี้ทางเรือนจำยังไม่อนุญาต โดยให้เหตุผลว่าเป็นไปตามมาตรการช่วงโควิด
ซึ่งผู้ต้องหาทุกคนจะถูกกักตัวไว้ 14 วัน ฉะนั้นสำหรับ “รุ้ง” และ “เพนกวิน”
ญาติจะเยี่ยมได้คือวันที่ 5 พ.ย.
อ.ประจักษ์
ได้กล่าวว่า แต่อย่างน้อยวันนี้ก็ได้นำตำราแบบเรียนมาให้
เพราะช่วงนี้เป็นช่วงเก็บคะแนน อีกไม่นานก็จะสอบปลายภาค
หากไม่ได้สอบปลายภาคก็อาจจะติด F เสียสถานภาพของเทอมนี้เลย
วันนี้ทั้งอาจารย์และเพื่อน ๆ ก็ได้นำหนังสือมาฝากให้ทั้ง “รุ้ง” และ “เพนกวิน”
อ.บุญเลิศ
กล่าวเสริมว่า ระหว่างนี้ทางผู้บัญชาการเรือนจำจะผ่อนปรนให้อีกประเด็นก็คือ
นักศึกษามหาวิทยาลัยไม่ใช่เพียงเก็บคะแนนตอนสอบปลายภาคเท่านั้น
มันมีคะแนนเก็บที่ทำระหว่างเรียนด้วย ก็จะผ่อนผันว่าในกรณีที่นักศึกษาไม่ได้เข้าเรียน
เรือนจำจะอนุญาตให้นักศึกษาได้ทำการบ้านหรือรายงานจากเรือนจำส่งออกไปโดยให้เขียนด้วยปากกา
(ไม่มีคอมพิวเตอร์)
แต่อย่างไรก็ดีเราคิดว่าการปล่อยให้เขาได้ประกันตัวออกไปน่าจะเป็นทางเลือกที่เหมาะสมกับนักศึกษาที่สุด
อ.ประจักร
กล่าวต่อว่า การสอบปลายภาคจะมีขึ้นในต้นเดือน ธ.ค.
หากไปถึงจุดนั้นทั้งสองคนยังไม่ได้รับการปล่อยตัวแล้วจะต้องจัดการเรื่องสอบปลายภาคก็คงต้องประสานกับทางเรือนจำอีกที
เพราะหากไม่ได้สอบปลายภาคทุกวิชาก็จะมีผลติด F ทุกวิชาเลย
จริง
ๆ ที่เอาหนังสือตำราเรียนมาฝากนั้นไม่ได้อยากให้นักศึกษาต้องมาเรียนหนังสือในห้องขัง
ที่ของนักศึกษาควรจะเป็นห้องเรียนปกติกับเพื่อน ๆ กับอาจารย์
เรือนจำไม่ใช่ห้องเรียน แต่เฉพาะหน้าก็ต้องแก้ปัญหาอย่างนี้ไปก่อน
สำหรับเรื่องเยี่ยมก็อยากฝากเป็นนโยบายในอนาคตให้ทางเรือนจำลองพิจารณา อย่างเรือนจำธัญบุรีเขามีระบบวีดีโอคอนเฟอเรนซ์ ต่างประเทศก็มีหมด โดยเฉพาะเราต้องเผชิญกับสถานการณ์โควิด คือทั้งญาติและอาจารย์ก็เข้าใจในเรื่องการควบคุมโรค แต่ถ้ามีระบบวีดีโอคอนเฟอเรนซ์ก็จะแก้ปัญหาเรื่องนี้ได้ทั้งหมด ทุกคนที่มาเยี่ยมสามารถคุยผ่านระบบวีดีโอคอนเฟอเรนซ์ได้ ไม่เป็นอันตรายกับทั้งผู้มาเยี่ยมและผู้ถูกเยี่ยม คงไม่ได้ใช้งบประมาณมากมาย ทำได้แน่นอนเพียงแค่มีคอมพิวเตอร์ อ.ประจักรกล่าว