วันเสาร์ที่ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2566

นายกฯ ตรวจโครงการอ่างเก็บน้ำหนองปลาไหล ปลวกแดง ระยอง ลั่น ยอมไม่ได้ให้เกิดปัญหาขาดแคลนน้ำในอนาคต เน้นสื่อสารภาคประชาชน หากมีปัญหาให้แจ้งรัฐบาลได้เลย ชื่นมื่น เอกชนยักษ์ใหญ่วิวาทท่อส่งน้ำจับมือ


นายกฯ ตรวจโครงการอ่างเก็บน้ำหนองปลาไหล ปลวกแดง ระยอง ลั่น ยอมไม่ได้ให้เกิดปัญหาขาดแคลนน้ำในอนาคต เน้นสื่อสารภาคประชาชน หากมีปัญหาให้แจ้งรัฐบาลได้เลย​ ชื่นมื่น​ เอกชนยักษ์​ใหญ่วิวาทท่อส่งน้ำจับมือ


วันที่ 4 พฤศจิกายน 2566 ภายหลังนั่งรถไฟถึงสถานีรถไฟแหลมฉบัง จังหวัดชลบุรี นายเศรษฐา​ ทวีสิน​ นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้ลงพื้นที่หอบังคับการพัฒนาแหลมฉบัง เพื่อตรวจเยี่ยมท่าเรือแหลมฉบังและพูดคุยประเด็นศักยภาพของพื้นที่สำหรับการรองรับสินค้าอุตสาหกรรมหนักในการนำเข้าและส่งออกของท่าเรือแหลมฉบัง


โดยช่วงที่นายกรัฐมนตรีเดินทางมาถึงมีฝนโปรยลงมา แม้อากาศจะค่อนข้างร้อน ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้ลงจากรถและกางร่มด้วยตัวเองเดินเข้ามาในอาคาร


จากนั้นนายกรัฐมนตรีและ​คณะได้เดินทางมาถึงตรวจเยี่ยมอ่างเก็บน้ำหนองปลาไหลเพื่อติดตามระบบการบริหารจัดการน้ำของอ่างเก็บน้ำให้รองรับเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ณ อ่างเก็บน้ำหนองปลาไหล ตำบลปลวกแดง อำเภอปลวกแดง จังหวัดระยอง


โดยนายเศรษฐา​ ระบุว่า​ ผมเชื่อว่าปัญหาเรื่องน้ำ มีอยู่แล้วในแต่ละพื้นที่ซึ่งก็มีความแตกต่างกันไปในแต่ต่างจังหวัด บางจังหวัดน้ำท่วม​ บางจังหวัดขาดแคลนน้ำ​ ในภาคอุตสาหกรรม​  ซึ่งทราบกันดีอยู่แล้วว่าเรื่องน้ำ มีเหตุผลในการใช้อยู่ 4 อย่าง​ อุปโภค​ บริโภค รักษาระบบนิเวศ​ เกษตรกรรมและอุตสาหกรรม ที่นี่ถือว่าเป็นที่ที่ต้องโฟกัสเรื่องเกษตรกรรมและอุตสาหกรรมเป็นหลัก ซึ่งเกษตรกรรมก็มีความต้องการสูง เป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญ เพราะฉะนั้นความต้องการน้ำในเขตนี้มีความต้องการสูงกว่าพื้นที่อื่น​ ซึ่งจะเกิดปัญหาความขัดแย้งของประชาชนในอนาคตที่จะเกิดขึ้นในการแย่งน้ำจากภาคการเกษตรกับภาคอุตสาหกรรม


วันนี้รัฐบาลให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก ทางการพัฒนา​ ด้านความต้องการน้ำ​ ความเชื่อมต่อ ระหว่างท่อส่งจ่าย​ทั้งหลาย ตนเชื่อว่าหน่วยงานที่เกี่ยวข้องศึกษามาอย่างดีแล้ว แต่อย่างไรก็ตามการที่รัฐบาลนี้ได้บริหารจัดการในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา เรื่องที่เราให้ความสำคัญมากที่สุดเรื่องหนึ่ง​ คือจะเชื้อเชิญนักลงทุนจากต่างประเทศเข้ามาลงทุนในประเทศไทย การลงทุนตรงนี้เป็นการลงทุนที่สูง ไม่ใช่แค่เรื่องน้ำอย่างเดียว​ เรื่องพลังงานสะอาด และอีกหลาย ๆ เรื่อง ถือเป็นปัจจัยสำคัญในการเชื้อเชิญให้นักลงทุนต่างประเทศเข้ามา เพราะฉะนั้นเราไม่สามารถไม่ยอมรับได้ ที่จะมีเรื่องไม่ดีในเรื่องที่จะขาดแคลนน้ำ เรื่องนี้ต้องอาศัยการทำงานร่วมกันของทุกภาคส่วนไม่ว่าจะเป็นฝ่ายปกครอง สทนช กรมชลประทาน กระทรวงอุตสาหกรรมและ BOI


โดยนายกรัฐมนตรี​ ยังระบุถึง การเสนอโครงการต่าง ๆ ในการบริหารจัดการน้ำว่า มีแผนงาน​ ผมเชื่อว่าเป็นเรื่องที่ดี​ และไม่อยากให้มีการล่าช้าในการบริหารจัดการ​ เพราะฉะนั้นหากมีปัญหาตรงไหนรัฐบาลเราพร้อมที่จะบริหารจัดการในเรื่องนี้ให้ดี การสื่อสารกับประชาชนเป็นเรื่องสำคัญ อยากให้มีการสื่อสารที่ดีขึ้นลดความขัดแย้งระหว่างภาคเกษตรกรรมและอุตสาหกรรม ในการแยกน้ำ หากตรงไหนมีปัญหาเกิดขึ้น ขอให้แจ้งมาได้เลย


ส่วนการจัดหาแหล่งน้ำ​ ขุดเจาะ​ หรือเชื่อมโยงถือเป็นเรื่องสำคัญ การลงทุนในครั้งนี้ถือเป็นการลงทุนที่เรามั่นใจว่าจะคุ้มค่าและเป็นประโยชน์กับประเทศชาติ หากไม่ทำตรงนี้เราไม่สามารถยกระดับความเป็นอยู่ของประชาชนได้ เราจะไม่สามารถหลุดกับดักรายได้ปานกลางได้ และเชื่อว่าในอนาคตที่เราจะต้องเดินหน้าต่อไปด้วยกัน เรื่องนี้เป็นเรื่องที่รัฐบาล​ ภาคเอกชน​ รัฐวิสาหกิจและหน่วยงานรัฐ​ ต้องให้ความสำคัญ


วันนี้การที่ลงพื้นที่ครั้งแรกของตนใน EEC ก็ดีใจที่มีทุกภาคส่วนเข้ามา เมื่อสักครู่นั่งรถไฟมาก็มีการพูดคุยกันในหลายปัญหา​ เรื่องน้ำก็เป็นอีกหนึ่งในหลาย ๆ เรื่อง​ ที่มีการหยิบยกขึ้นมาพูดคุย และในอีก 60 วันข้างหน้าจะไปดูเรื่องของการแก้ไขความขัดแย้งที่ยังไม่ถูกบริหารจัดการ เพราะฉะนั้นตนยืนยันว่าการทำงานของรัฐบาลนี้จะทำงานอย่างรวดเร็วตอบโจทย์กับประชาชน และนักลงทุนต่างชาติ​ ก่อนที่นายกรัฐมนตรีและคณะได้ตรวจเยี่ยมชมสถานีสูบน้ำหนองปลาไหล


อย่างไรก็ตามผู้สื่อข่าวรายงานว่าระหว่างที่นายกรัฐมนตรีตรวจสถานีสูบน้ำหนองปลาไหล ปรากฏภาพ 2 บริษัทเอกชนที่มีความขัดแย้งเรื่องการประมูลท่อส่งน้ำภายในEEC คือบริษัทอีสต์วอเตอร์และวงสยามได้จับมือกัน


#UDDnews #ยูดีดีนิวส์ #เศรษฐา #EEC #แหลมฉบัง