"เท้ง" ย้ำ ! ไม่มีสมการ "ปชน." ร่วม "ภท" ดัน
"อนุทิน" นั่งนายกฯแน่ เหน็บพรรคร่วมฯต่อรองเก้าอี้
มากกว่าแก้ปัญหาประเทศ บอกสมควรแล้ว‘แพทองธาร’ลงพื้นที่อุบลฯ
ย้ำรัฐบาลพลเรือนต้องอยู่เหนือกองทัพ
วันที่
20 มิ.ย.68 เมื่อเวลา 10.30 น.
ที่รัฐสภา นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคประชาชน
ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎรให้สัมภาษณ์ถึงทางออกของรัฐบาลภายหลังมีคลิปเสียงนายกรัฐมนตรีกับสมเด็จฮุน
เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา ว่า
จากหน้ากระดานที่เป็นอยู่
ตัวนายกรัฐมนตรีสูญเสียความเชื่อมั่นไปแล้ว
และการลาออกคงไม่ใช่ทางเลือกด้วยสมการที่เป็นอยู่
ตนคิดว่าประชาชนขาดความเชื่อมั่นไปแล้ว ทางออกเดียวคือการยุบสภา
จากบัญชีแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีที่เหลืออยู่ ตนเชื่อว่าเลือกมาแล้ว
ก็ไม่สามารถกาทางออกให้กับประเทศได้ ปัญหาสำคัญเช่นการปฏิรูปกองทัพ
การแก้ไขปัญหาระหว่างประเทศ การแก้ไขรัฐธรรมนูญ รวมถึงเรื่องอื่นๆ
การรวมตัวกันของรัฐบาลที่เหลืออยู่คงไม่สามารถแก้ไขปัญหาเหล่านี้ได้
นายณัฐพงษ์
กล่าวว่า ปฏิกิริยาที่เกิดขึ้น
กับพรรคร่วมรัฐบาลในขณะนี้คงต่อรองเก้าอี้กรัฐมนตรีให้ได้มากที่สุด
เห็นจากการสื่อสารเมื่อวานนี้ ที่บอกว่าต้องไปคุยกับนายกรัฐมนตรี
คงจะเป็นเรื่องนี้มากกว่าการเอาประเด็นปัญหาของประเทศเป็นหลัก
เป็นสิ่งที่พวกเราเป็นห่วง
จึงนำมาสู่ข้อเรียกร้องว่าการลาออกไม่ใช่ทางออกของประเทศ
ส่วนกรณีที่นายภูมิธรรม
เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม
ระบุว่ารัฐบาลจะอยู่ครบเทอม นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า
อย่างที่บอกว่าตอนนี้ยังเกาะกลุ่มรวมตัวกันได้อยู่ ถึงจะไปได้
ก็เป็นรัฐบาลเสียงปริ่มน้ำที่มีสภาพแบบนี้มากขึ้นเท่าไหร่ และหากยิ่งทอดเวลาให้น.ส.แพทองธาร
ชินวัตร เป็นนายกฯ มากขึ้นเท่าไหร่ก็จะยิ่งทำลายความเชื่อมั่นต่อนักลงทุนอีกหลายคน
เมื่อถามว่าเปิดสมัยประชุมสภาฯ
มาแล้ว จะมีการอภิปรายไม่ไว้วางใจเลยหรือไม่ นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ต้องรอดู
พรรคฝ่ายค้านก็พร้อมที่จะทำหน้าที่กลไกตรวจสอบอย่างเต็มที่ เพื่อกดดันนายกฯ
ให้ยุบสภาเพื่อคืนอำนาจให้กับประชาชน
ส่วนหากรัฐบาลรวมกันไม่ได้
พรรคประชาชน จะรวมกับพรรคภูมิใจไทยตั้งรัฐบาลและเสนอชื่อนายอนุทิน ชาญวีรกูล
หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ที่มีชื่อเป็นแคนดิเดต เป็นนายกฯหรือไม่ นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า
ไม่มีแน่นอน ในบัญชีแคนดิเดตนายกฯ เรายืนยันมาโดยตลอดว่าในหน้ากระดานที่เป็นอยู่
เราไม่สามารถสนับสนุนให้ใครก็ตามมาดำรงตำแหน่งนายกฯ ได้ต่อ ณ ตอนนี้
เพื่อแก้ไขสถานการณ์ จึงยืนยันในจุดยืนเดิมว่าเราอยู่ในฐานะพรรคฝ่ายค้าน
เมื่อถามว่า
มองอย่างไรกับการที่รัฐบาลบอกให้รักและสามัคคีกันในสถานการณ์แบบนี้ นายณัฐพงษ์
กล่าวว่า เรื่องความสามัคคีตนคิดว่าเป็นเรื่องต้องมีอยู่แล้ว
แต่ไม่อยากให้ใช้สถานการณ์ที่เป็นอยู่ที่มีความขัดแย้งระหว่างประเทศ
การเมืองภายในประเทศ อาศัยเป็นจุดช่วงชิงใช้กระแสชาตินิยมมาเรียกร้อง
ให้ใช้อำนาจนอกระบบ
เมื่อถามว่า
นายกฯจะลงพื้นที่จ.อุบลราชธานี เพื่อทำภารกิจกับแม่ทัพภาคที่ 2 จะสยบรอยร้าวได้หรือไม่
นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า เป็นสิ่งที่นายกฯสมควรทำอยู่แล้ว
ต้องพยายามให้รัฐบาลพลเรือนอยู่เหนือกองทัพ และมีบทบาทนำกองทัพ
ตนคาดหวังว่านายกฯจะปฏิบัติหน้าที่ให้ดีที่สุด
เพื่อเรียกร้องความเชื่อมั่นกลับคืนมา
เมื่อถามว่า
ในช่วงที่มีการชุมนุมตอนนี้จะมีสิ่งเร้าให้เกิดการเล่นนอกกติกาหรือไม่ นายณัฐพงษ์
กล่าวว่า ตนเข้าใจว่าประชาชนอยากให้เปลี่ยนตัวผู้นำประเทศ
แต่การเปลี่ยนตัวมีหลายช่องทาง ช่องทางที่เราไม่เห็นด้วย
และไม่อยากให้เกิดมากที่สุด คือการเรียกร้องให้เกิดอำนาจนอกระบบจนเกิดการปฏิวัติรัฐประหาร
ช่องทางอื่นยังมีเปลี่ยนตัวนายกฯ โดยสมการการเมืองยังไม่เปลี่ยน
ได้รัฐบาลคล้ายเดิม เพียงแต่หัวผู้นำประเทศ
แต่ไม่สามารถพลักดันแก้ไขปัญหาประเทศได้ หากประชาชนต้องการทางออกจริงๆ
ตนคิดว่าการเลือกตั้งใหม่ ให้เสียงของประชาชนเป็นผู้กำหนดอนาคตประเทศจะเป็นทางออกที่ถูกต้องที่สุด
ส่วนได้คุยกับฝ่ายค้านกลุ่มใหม่ที่จะมีอยู่ร่วมกันแล้วหรือไม่
นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า คงไม่ได้มีการนัดเฉพาะกิจต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้นล่าสุด
ซึ่งฝ่ายค้านในสภาฯก็มีการพูดคุยกันอยู่แล้ว
แต่ถ้าหมายถึงพรรคภูมิใจไทยที่เข้ามาล่าสุด ส่วนตัวยังไม่ได้มีการพูดคุยใดๆอย่างเป็นทางการ
เมื่อถามว่า
หากรัฐบาลเสียงปริ่มน้ำอาจจะมีการซื้องูเห่าเพิ่ม
ได้เน้นย้ำคนในพรรคประชาชนหหรือไม่ นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า
ไม่ได้มีความจำเป็นต้องเน้นย้ำใดๆ ตนมั่นใจในเพื่อนร่วมพรรค
เมื่อถามย้ำว่า
ก่อนหน้านี้มีฝั่งรัฐบาลระบุว่ามีงูเห่าฝากเลี้ยงไว้ในพรรคประชาชน นายณัฐพงษ์
กล่าวว่า ตนเคยสื่อสารไปแล้ว ว่าหากใครมีก็ตาม ให้เปิดชื่อออกมา
เพื่อความเป็นธรรมกับทุกคน เจ้าตัวจะได้ออกมาชี้แจง
แต่โดยส่วนตัวตนเชื่อมั่นในเพื่อนร่วมพรรคทุกคน พร้อมย้ำว่าไม่มีแน่นอน
ส่วนจะมีการคาดโทษหรือไม่หากไม่มาร่วมโหวตในสภาฯ
ตนคิดว่าทุกการลงมติเป็นหน้าที่ของสส.อยู่แล้ว ซึ่งอาจจะมีการเจ็บป่วยบ้าง
แต่ตนเชื่อว่าเพื่อนสส.ทุกคนพร้อมทำหน้าที่
ที่ผ่านมามีหลายคนเข้าโรงพยาบาลไปรักษาตัวบ้าง เพราะฉะนั้น เสียงที่คาดหายไปไม่ได้อยู่ที่งูเห่าเสมอไป
เมื่อถามว่าหากพรรครวมไทยสร้างชาติจะเปลี่ยนตัวนายกฯเป็น
นายชัยเกษม นิติสิริ จากพรรคเพื่อไทย และหากรัฐบาลไม่ตอบรับจะเป็นอย่างไร
นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ต้องดูสมการ ณ ตอนนี้ พรรคประชาชน พรรคเพื่อไทย
และพรรคภูมิใจไทย คือ 2
ใน 3 ต้องรวมตัวกันได้ถึงจะได้เสียงข้างมากเดินหน้าต่อ
แต่จุดยืนของพรรคประชาชน ชัดเจนว่าเราไม่ร่วมรัฐบาล ฉะนั้น สภาพที่เป็นอยู่ ณ
ตอนนี้ พรรคภูมิใจไทยถอนตัวออกมา จึงเกิดสภาพรัฐบาลเสียงปริ่มน้ำ
ตนคิดว่าเป็นวิ่งที่ต้องติดตามดูต่อไปว่าจะเกิดอะไรขึ้น