10
เมษายน 2553
นี่คือภาพถ่ายตัวผมเองเมื่อ
10 ปีที่แล้ว
ขณะนั้นยังเป็นตำรวจใหม่ๆ
ยศร้อยตำรวจตรี
ได้ทำงานเข้าตรวจสถานที่เกิดเหตุ
จดบันทึกและถ่ายภาพร่องรอยหลักฐานต่างๆ
ซึ่งภาพนี้ตำแหน่งอยู่ที่ถนนดินสอ
บริเวณหน้าโรงเรียนสตรีวิทยา
เป็นเหตุการณ์ปะทะระหว่างมวลชนเสื้อแดง
หรือแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช) ที่เรียกร้องง่ายๆ
เพียงแค่การเลือกตั้ง
ปะทะกับทหารที่รับคำสั่งมาสลายการชุมนุมพร้อมกับอาวุธสงครามบรรจุกระสุนจริงพกติดตัว
ด้วยคำที่ดูซอร์ฟๆ
ว่า ขอคืนพื้นที่
จุดพลิกผันของเหตุการณ์นี้
คือ เสียงระเบิด บริเวณด้านหน้ารถถัง
ทำให้มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตเป็นนายทหาร
และไม่นาน
ก็มีเสียงปืนอาวุธสงครามอีกหลายนัด นับไม่ถ้วน
ทำให้มีมวลชนผู้เรียกร้องประชาธิปไตยเสียชีวิต เป็นจำนวนมาก
นี่คือจุดพลิกผันของวัน
และของการเมืองไทย
ซึ่งก่อนหน้านี้
เจ้าหน้าที่รัฐจะไม่ถึงกับใช้อาวุธสงครามกระสุนจริงยิงเข้าใส่ประชาชน
(ปีก่อนหน้ายิงขึ้นฟ้า)
แต่หลังจากเหตุการณ์นี้
ทัศนคติและการปฏิบัติของเจ้าทหารกับประชาชนผู้เรียกร้องประชาธิปไตยก็เปลี่ยนไปจากเดิมโดยสิ้นเชิง
พร้อมกับปฏิบัติการ
IO ที่ด้อยค่าประชาชนที่หนักขึ้น ให้ประชาชนที่เรียกร้องประชาธิปไตย
ยิ่งดูเลวทราม หยิบเอาใครที่น่าด่าทอเกลียดชังสักคนมา
ทำให้ประชาชนคนบริสุทธิ์ถูกเกลียดชังไปด้วย ให้ประชาชนถูกฆ่าตายได้ อย่างน่าสะใจ
IO
ชนิดที่ ไม่คิด ไม่หวังให้ประชาชนที่คิดไม่เหมือ ต่างกัน
จะใช้ชีวิตร่วมกันได้อย่างดีเหมือนเดิม
IO
ทำลายความสัมพันธ์ของประชาชน จากคนในครอบครัว จากเพื่อนสนิท
ญาติมิตร
ที่ควรจะพูดคุยแลกเปลี่ยนกันได้แม้จะมีความคิดต่าง
กลับถูกทำลายความสัมพันธ์ จนไม่รู้อีกเมื่อไหร่จะคืนดีกันได้อีก
IO
เพียงเพื่อสร้างความชอบธรรมแก่การสั่งการของตนเอง
.
.
.
10
เมษายน 2553
นี่เป็นวันที่ควรแก่การระลึกถึง
ควรแก่การตระหนักเพื่อเป็นบทเรียน
ที่เราจะไม่กลับไปสู่ความสูญเสียเช่นนั้นอีก
ไม่ใช่ให้ลืมเลือนมันไปเหมือนไม่เคยเกิดขึ้น
เช่นนั้นแล้ว
โศกนาฏกรรมก็จะวนกลับมาใหม่
เหตุการณ์วันนั้นทำให้ผมตั้งปณิธานว่า
จากนี้ไปภายภาคหน้า
เมื่อมีความขัดแย้งทางการเมือง เราจะไม่ยอมให้
ทหารชั้นผู้น้อยและประชาชนต้องมาปะทะกันอีกต่อไป
อยากให้ทหารมองประชาชนเป็นญาติพี่น้อง
อยากให้ประชาชนมองทหารเป็นลูกหลาน
เราต้องเปลี่ยนความขัดแย้งจากเส้นแบ่งแนวตั้ง
ที่แบ่งคนออกเป็นสองฝั่ง ทั้งที่อยู่ในระดับเดียวกัน เป็นเส้นแบ่งแนวนอน
ให้พุ่งความโกรธแค้น
เบนไปที่ผู้อยู่เบื้องหลังเบนไปที่คนสั่งให้ทหารมาปะทะกับประชาชน
ประชาชนที่คิดต่างและถูกปลุกระดมให้เกลียดชัง
ให้โกรธแค้นกันเอง
ซึ่งเป็นเหยื่ออันเกิดจาก
IO จากผู้ไม่ประสงค์ดี
แต่แทนที่ประชาชนจะเกลียดประชาชนด้วยกันเอง
ควรจะร่วมกันพุ่งเป้าความโกรธแค้นไปยังผู้อยู่เบื้องหลังให้ประชาชนเกลียดกันเอง
และคอยสูบเลือดสูบเนื้อเสวยสุขจากความขัดแย้งนั้นเท่านั้น
เปลี่ยนเส้นแบ่งแนวตั้งให้เป็นแนวนอน
ข้างล่างเป็นประชาชนที่หลากหลายความคิด
ข้าราชการ ทหาร ตำรวจ ระดับล่าง ล้วนควรจะต้องสมัครสมานสามัคคีกัน
ต่อสู้กับอำนาจเบื้องหลังเบื้องบนที่ทุจริตมิชอบ
เพียงแค่สลายเส้นแบ่งแนวตั้งได้
ประชาชนทุกความต่าง
ข้าราชการระดับล่างที่มีคุณภาพชีวิตย่ำแย่
ก็จะมีพลังอำนาจจนผู้มีอำนาจปัจจุบันต้องกลัว
แล้วเราก็จะอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข
มีคุณภาพชีวิที่ดีขึ้น มีความเจริญเหมือนดังประเทศที่เจริญแล้ว
10
เมษา เราไม่ลืม