“ดีอี”
แจ้งเตือน ข่าวปลอม “ลงทะเบียนแอปฯ ทางรัฐ
เสี่ยงข้อมูลบัตรประชาชนรั่วไหลไปสู่แอปฯ SupperApp” ระบาด
วอนพี่น้องประชาชนอย่าเชื่อ-อย่าแชร์ เตรียมจัดการถึงต้นตอ
ดำเนินคดีตามกฎหมายถึงที่สุด
วันที่
11 สิงหาคม 2567 นายประเสริฐ จันทรรวงทอง
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) เปิดเผยว่า กระทรวงดีอี
โดย ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมประเทศไทย (Anti Fake New Center หรือ
AFNC) สำนักงานคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ
(สกมช.) และ เครือข่าย ได้ติดตาม ตรวจสอบ
และประเมินสถานการณ์การกระทำที่เข้าข่ายการก่ออาชญากรรมออนไลน์ที่เกี่ยวข้องกับโครงการเติมเงิน
10,000 บาท ผ่าน Digital Wallet หรือ
โครงการ “ดิจิทัลวอลเล็ต” โดยตรวจสอบพบ การเผยแพร่ข่าวปลอม เรื่อง “ลงทะเบียนแอปฯ
ทางรัฐ เสี่ยงข้อมูลในบัตรประชาชนรั่วไหลไปสู่แอปฯ ใหม่ ที่ชื่อ SupperApp” โดยกระทรวงดีอีได้ประสานการทำงานร่วมกับสำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล
(องค์การมหาชน) (สพร.) หรือ DGA สำนักนายกรัฐมนตรี
ตรวจสอบข้อมูลดังกล่าวพบว่า เป็น “ข้อมูลเท็จ” โดย DGA ได้ชี้แจงข้อมูลที่ถูกต้องว่า
แอปพลิเคชัน “ทางรัฐ” ที่ สพร. หรือ DGA ได้พัฒนาขึ้น
เพื่อเป็นศูนย์รวมบริการต่างๆ ของภาครัฐ ที่ ง่าย จบ ครบทุกช่วงวัย
ในแอปพลิเคชันเดียว เพื่อให้ประชาชนสามารถเข้าถึงบริการภาครัฐได้อย่างสะดวก
รวดเร็ว และปลอดภัย ช่วยอำนวยความสะดวก ลดขั้นตอน ลดการใช้กระดาษ ตอบรับสังคม Paper
less รวมถึงทำให้การทำงานโปร่งใส ตรวจสอบได้
และลดการเกิดปัญหาคอร์รัปชัน
นายประเสริฐ
กล่าวว่า ขณะที่ข้อมูลและบริการต่าง ๆ
จะเชื่อมโยงไปยังหน่วยงานรัฐผู้รับผิดชอบข้อมูลและบริการนั้น โดยตรง
ผ่านแพลตฟอร์มที่ติดตั้งอยู่บนระบบคลาวด์ภาครัฐ (Government Cloud) ที่ให้บริการ
และบริหารจัดการ โดย DGA ซึ่งไม่มีการคัดลอกและสำเนาข้อมูล
ไว้ที่ DGA แต่อย่างใด
สำหรับระบบคลาวด์ภาครัฐ
มีระดับเสถียรภาพ (SLA)
ไม่น้อยกว่า 99.5%
และเป็นระบบที่มีมาตรการป้องกันการโจรกรรมข้อมูลอย่างรัดกุม มีความปลอดภัยสูง
ได้รับการรับรองมาตรฐาน ISO/IEC 27001:2013
ระบบการบริหารจัดการความมั่นคงปลอดภัยสารสนเทศ (Information Security
Management Systems – ISMS)
ในส่วนของแอปฯ
ทางรัฐ และระบบงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง
มีการดำเนินการตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์
(ฉบับที่ 2)
พ.ศ. 2560
พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 และ
พระราชบัญญัติการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ พ.ศ. 2562
โดยข้อมูลส่วนบุคคลที่แสดงในแอปฯ ทางรัฐ
สามารถเข้าถึงได้เฉพาะเจ้าของข้อมูลและผู้มีอำนาจตามกฎหมายในการเข้าถึงข้อมูลเท่านั้น
ดังนั้นขอเตือนให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อข้อมูลดังกล่าว
และขอความร่วมมือ ไม่ส่งหรือแชร์ข้อมูลดังกล่าวต่อในช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ต่าง ๆ
โดยประชาชนสามารถติดตามข้อมูลข่าวสารอย่างเป็นทางการที่เกี่ยวข้องกับแอปฯ ทางรัฐ
จากสำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล ได้ที่เว็บไซต์ www.dga.or.th หรือ โทร. 02-612-6060
ขณะเดียวกัน
ประชาชนผู้สนใจเข้าร่วมโครงการดิจิทัลวอลเล็ต
สามารถติดตามข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับการเตรียมการลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการ
ซึ่งเป็นข้อมูลโดยตรงจากรัฐบาลที่เชื่อถือได้ ผ่านเว็บไซต์ www.digitalwallet.go.th หรือ www.กระเป๋าเงินดิจิทัล.รัฐบาล.ไทย และสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมผ่านศูนย์บริการข้อมูลโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่าน Digital Wallet โทรสายด่วน Digital
Wallet 1111 พร้อมให้บริการและคำแนะนำปรึกษาแก่ประชาชนตลอด 24 ชั่วโมง
“กระทรวงดีอี ขอความร่วมมือประชาชน อย่าหลงเชื่อ อย่าแชร์ส่งต่อข้อมูล
ซึ่งมีที่มาคลุมเครือ และไม่ชัดเจน ในช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ต่างๆ
โดยขอให้ติดตามข้อมูลและข่าวสารอย่างเป็นทางการของโครงการ “ดิจิทัลวอลเล็ต”
จากหน่วยงานรัฐ อาทิ กระทรวง ดีอี กระทรวงการคลัง โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
(โฆษกรัฐบาล) กระทรวงพาณิชย์ และ DGA ฯลฯ
โดยผู้ที่เผยแพร่ข้อมูลดังกล่าวมีเจตนาที่จะบิดเบือน ต้องการสร้างความกังวลสับสน
ซึ่งถือว่าเป็นภัยคุกคามร้ายแรงทางไซเบอร์ร้ายแรง
ส่งผลกระทบต่อประชาชนในสังคมเป็นวงกว้าง โดยกระทรวง ดีอี
จะติดตามตรวจสอบแหล่งที่มาของข้อมูลข่าวปลอมดังกล่าว และจะดำเนินคดีกับมิจฉาชีพ
ผู้ไม่หวังดี อย่างถึงที่สุด ” นายประเสริฐ กล่าว
พี่น้องประชาชนสามารถสอบถามข้อมูลข่าวสารโครงการ
“ดิจิทัลวอลเล็ต” โทรสายด่วน Digital Wallet 1111 (24 ชั่วโมง)