วันอาทิตย์ที่ 11 สิงหาคม พ.ศ. 2567

“พิธา” ลุยต่อ! ลงพื้นที่โพธาราม-บ้านโป่ง ช่วย “ชัยรัตน์” หาเสียงนายก อบจ.ราชบุรี ย้ำ 1 กันยา กาเบอร์ 1 ให้ถล่มทลาย สานต่ออุดมการณ์ก้าวไกลผ่านพรรคประชาชน เชื่อมท้องถิ่นสู่การเมืองระดับชาติแบบไร้รอยต่อ


“พิธา” ลุยต่อ! ลงพื้นที่โพธาราม-บ้านโป่ง ช่วย “ชัยรัตน์” หาเสียงนายก อบจ.ราชบุรี ย้ำ 1 กันยา กาเบอร์ 1 ให้ถล่มทลาย สานต่ออุดมการณ์ก้าวไกลผ่านพรรคประชาชน เชื่อมท้องถิ่นสู่การเมืองระดับชาติแบบไร้รอยต่อ 


วันที่ 11 สิงหาคม 2567 พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ผู้ช่วยหาเสียงของพรรคประชาชน ลงพื้นที่ตลาดนัดเกษตรกร ตำบลบ้านสิงห์ อำเภอโพธาราม จังหวัดราชบุรี เพื่อช่วยหาเสียงให้กับ “หวุน-ชัยรัตน์ ศักดิ์อิสระพงศ์” ผู้สมัครรับเลือกตั้งนายก อบจ.ราชบุรี เบอร์ 1 ในนามพรรคประชาชน โดยมีพ่อค้า แม่ค้า และประชาชนในตลาดเดินเข้ามาทักทาย รับใบปลิวนำเสนอนโยบาย พร้อมกับร่วมถ่ายภาพชูนิ้วเลข 1 ให้กำลังใจพิธาและชัยรัตน์อย่างอบอุ่น  


พิธากล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า วันนี้ตนมาในฐานะผู้ช่วยหาเสียงของพรรคประชาชน มาช่วยเป็นกระบอกเสียงและสื่อสารนโยบายเพื่อเปลี่ยนแปลงราชบุรีให้ดีกว่าเดิม จึงขอความไว้วางใจจากพี่น้องประชาชนราชบุรี วันที่ 1 กันยายนนี้ เข้าคูหากาเบอร์ 1 เลือกหวุน-ชัยรัตน์ ศักดิ์อิสระพงศ์ เป็นนายก อบจ.ราชบุรี ร่วมสานต่ออุดมการณ์ก้าวไกลผ่านพรรคประชาชน ทำงานอย่างไร้รอยต่อระหว่างการเมืองท้องถิ่นและการเมืองระดับชาติ


ต่อมาในช่วงเย็นที่ตลาดริมน้ำแม่กลอง อำเภอบ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี พิธา ชัยรัตน์ และ สส.พรรคประชาชนขึ้นเวทีปราศรัย โดยมีประชาชนเข้าร่วมรับฟังอย่างหนาแน่นเต็มลาน ชัยรัตน์กล่าวว่า ตนเป็นคนบ้านโป่งโดยกำเนิด แต่ต้องจากบ้านจากครอบครัวไปเรียนหนังสือที่กรุงเทพฯ กว่า 10 ปี เพราะราชบุรีไม่มีโรงเรียนที่ดีพอ ผ่านไปหลาย 10 ปีคุณภาพการศึกษาของราชบุรีก็ยังคงเหมือนเดิม ไม่พัฒนาไปไหนเลย หลายจังหวัดมีโรงเรียนสองภาษาที่บริหารโดย อบจ. แต่ราชบุรีไม่มี นี่คือมรดกตกทอดของการเมืองท้องถิ่นที่ย่ำแย่มายาวนาน


ชัยรัตน์กล่าวต่อไปว่า ราชบุรียังมีปัญหาอื่นๆ อีกมากมายที่รอการแก้ไข ทั้งปัญหาระบบสาธารณสุขพื้นฐานที่ไม่มีคุณภาพ ทำให้คนต้องเดินทางเป็นวันๆ เพื่อเข้าไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลขนาดใหญ่ หากตนได้เป็นนายก อบจ.ราชบุรีจะพัฒนาโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) ให้มีคุณภาพ เป็นคลินิกชุมชนใกล้บ้านที่ดูแลประชาชน ผู้สูงอายุ และผู้ป่วยติดเตียงได้อย่างเพียงพอ เช่นเดียวปัญหาคุณภาพน้ำประปาที่ย่ำแย่ สีขุ่น ไหลอ่อน หากตนได้เป็นนายก อบจ.จะทำนโยบายน้ำประปาใสสะอาด ดื่มได้ ไหลแรงตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมกับการวางระบบชลประทานเพื่อดูแลพี่น้องเกษตรกรอย่างทั่วถึง


ราชบุรียังเผชิญกับปัญหาระบบขนส่งสาธารณะที่ไม่เพียงพอและไม่ครอบคลุม โดยแต่เดิมในจังหวัดราชบุรีมีผู้ได้รับใบอนุญาตให้เดินรถประจำทางกว่า 30 เส้นทาง แต่ปัจจุบันแทบไม่มีเหลือแล้ว เพราะการจัดการที่ไร้ประสิทธิภาพ เราจะปล่อยให้เอกชนเป็นผู้บริหารระบบขนส่งสาธาณะอย่างสมบูรณ์ไม่ได้ ท้องถิ่นต้องเข้ามาจัดการและรับภาระขาดทุนเพื่อประชาชน โดยปัจจุบันรถไฟทางคู่สายใต้ที่ผ่านจังหวัดราชบุรีเสร็จสมบูรณ์แล้ว แต่เรากลับใช้ทางคู่นั้นอย่างไม่เต็มประสิทธิภาพ โดยชัยรัตน์มองว่า อบจ.ควรมีบทบาทเข้าไปเจรจาให้เกิดรถไฟท้องถิ่นที่วิ่งระหว่างอำเภอเมืองฯ โพธาราม และบ้านโป่ง ประชาชนและนักเรียนจะเดินทางระหว่างอำเภอได้อย่างสะดวก ในระยะเวลาไม่เกิน 40 นาที นี่คือสิ่งที่สามารถเกิดขึ้นได้ หากเราลุกขึ้นมาเปลี่ยนแปลงและไม่เคยชินอยู่กับปัญหาเดิม ๆ


“คนไม่ค่อยรู้ว่านายก อบจ.มีอำนาจอะไร ทำอะไรได้บ้าง ผมจะเข้าไปทำ อบจ.ราชบุรีให้โปร่งใส ตรวจสอบได้ ใช้ภาษีปีละ 700 ล้านทุกบาททุกสตางค์ให้คุ้มค่า แก้ปัญหาสาธารณสุข การศึกษา น้ำประปา น้ำเพื่อการเกษตร และการขนส่งสาธารณะ 1 กันยา กาเบอร์ 1 ให้โอกาสผมเข้าไปทำนโยบายดีๆ ให้กับพี่น้องประชาชน” ชัยรัตน์กล่าว


ขณะที่พิธากล่าวว่า วันนี้ดีใจที่เห็นพี่น้องชาวราชบุรีมาให้กำลังใจกันอย่างคับคั่ง สะท้อนให้เห็นว่าพรรคยุบ แต่คนไม่ยุบตาม จึงขอฝากประชาชนที่อยู่ ณ ที่นี้ให้ช่วยกันกระจายข่าวสาร ว่าการเลือกตั้งนายก อบจ.ราชบุรีที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 1 กันยายนนี้ไม่มีการเลือกตั้งล่วงหน้า ไม่มีการเลือกตั้งนอกเขต ต้องกลับมาเลือกที่ราชบุรีเท่านั้น จึงขอให้ชาวราชบุรีที่ไม่ได้อยู่ในจังหวัดเดินทางกลับมาพบหน้าครอบครัว ชวนกันไปเลือกตั้งนายก อบจ. กาเบอร์ 1 เพื่อสร้างความเปลี่ยนแปลงไปพร้อม ๆ กัน


“มีเพื่อนบอกเพื่อน มีพี่บอกพี่ มีน้องบอกน้อง มีแฟนบอกแฟน มีคนข้างบ้านบอกคนข้างบ้าน บอกเขาว่าวันที่ 1 มันสำคัญ กลับบ้านมากินข้าวด้วยกัน ตื่นกันเช้า ๆ ไปเลือกตั้งพร้อมกันให้ถล่มทลาย อย่าให้แพ้การเลือกตั้งใหญ่ คนราชบุรีหัวใจประชาธิปไตย” พิธากล่าว


พิธากล่าวต่อไปว่า ชัยรัตน์เป็นผู้ที่มีอุดมการณ์แบบอดีตพรรคก้าวไกลแน่นอน เป็นผู้ที่เข้าใจหัวจิตหัวใจของพี่น้องราชบุรีเป็นอย่างดี หากได้รับเลือกตั้งเป็นนายก อบจ.ราชบุรี เขาจะสามารถทำงานร่วมกับหัวหน้าพรรคประชาชน ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ได้อย่างไร้รอยต่อแน่นอน เพราะณัฐพงษ์เป็นคนที่รู้ลึกในด้านการนำเทคโนโลยีมาแก้ปัญหา แต่ก็เข้าใจประเด็นสังคมในแนวกว้าง เป็นคนสุภาพแต่เข้มแข็ง เป็นคนที่นิ่ง พูดน้อย แต่ต่อยหนัก และเรียนรู้เร็วมาก ขณะที่ศรายุทธิ์ ใจหลัก เลขาธิการพรรคประชาชน ก็คือคนธรรมดาที่เข้าใจหัวอกพี่น้องประชาชนเป็นอย่างดี นี่คือส่วนผสมที่ลงตัวที่จะทำให้การทำงานการเมืองไร้รอยต่อ ขับเคลื่อนความฝันและความหวังแบบก้าวไกลร่วมกันต่อไปได้แน่นอน


พิธากล่าวทิ้งท้ายว่า เหลือเวลาอีก 20 กว่าวันก่อนถึงวันเลือกตั้ง ตนจะลงมาพบปะและขอความไว้วางใจจากพี่น้องชาวราชบุรีอย่างต่อเนื่อง แล้วพบกันในเวทีปราศรัยใหญ่ก่อนถึงวันเลือกตั้ง 1 กันยายน


#UDDnews #ยูดีดีนิวส์ #พรรคประชาชน #อบจราชบุรี