'ทนายอั๋น' ยื่น 'สว.นันทนา'
สอบ 'อุดม-ตุลาการศาลรธน.' ผิดจริยธรรม ปมเสียดสียุบก้าวไกล 'นันทนา'จ่อยื่นญัญติด่วน หนุนตั้งสสร.ร่างรธน.รื้อองค์กรอิสระ
วันนี้
(23 สิงหาคม 2567) ที่รัฐสภา นายภัทรพงศ์ ศุภักษร
หรือทนายอั๋น บุรีรัมย์ เข้ายื่นหนังสือต่อ รศ.ดร.นันทนา นันทวโรภาส สมาชิกวุฒิสภา
(สว.) เพื่อขอให้ตรวจสอบจริยธรรมของนายอุดม สิทธิวิรัชธรรม ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ
ที่กล่าวถึงการยุบพรรคก้าวไกล ในงานบรรยายเรื่อง ศาลรัฐธรรมนูญกับการคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพของประชาชน
ภายใต้รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 ที่
จ.สุราษฎร์ธานี เมื่อวันที่ 15 ส.ค.ที่ผ่านมา
โดยนายภัทรพงศ์
กล่าวว่า นายอุดม เป็นหนึ่งในตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ และเป็นบุคคลที่ยุบพรรค
และตัดสิทธิ์กรรมการบริหารพรรคก้าวไกล ที่แสดงความคิดเห็นไม่เหมาะสม
ตนเองในฐานะประชาชนขอตั้งคำถามว่า
พฤติกรรมของนายอุดมเหมาะสมกับการเป็นตุลาการศาลรัฐธรรมนูญหรือไม่ และผิดจริยธรรมร้ายแรงหรือไม่
"การมายื่น สว. ในครั้งนี้ เพราะ สว.เป็นผู้ให้ความเห็นชอบในการสรรหาบุคคล
มาดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระ และศาลรัฐธรรมนูญ จึงอยากให้ดำเนินการตรวจสอบ
หรือใช้กลไกในทางอำนาจอื่นในการตรวจสอบ โดยหลังจากนี้ ตนเองจะไปยื่นต่อที่
คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ (ป.ป.ช.) ต่อไป"
ด้าน
รศ.ดร.นันทนา กล่าวว่า ทางกฎหมายไม่ได้ให้อำนาจ สว. ในการถอดถอน
แต่สามารถยื่นญัตติเพื่อจะนำเรื่องดังกล่าวไปอภิปรายกันในสภา
เพื่อให้เกิดการถกเถียงกันเรื่องจริยธรรม และบทบาทของตุลาการ
เพื่อดำเนินการไปตามขั้นตอน โดยอาจจะยื่นตรงไปที่ศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อให้มีการตรวจสอบจริยธรรมกันเอง
โดยเรื่องนี้ถือเป็นเรื่องที่ประชาชนให้ความสนใจ เราก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ
ส่วน
ฝั่ง สว.จะมีการยื่นญัติด่วนเพื่อให้ถกเถียงกันหรือไม่นั้น รศ.ดร.นันทนา ยืนยันว่า
จะยื่นญัติในเรื่องนี้ด้วยเช่นกัน แต่ขึ้นอยู่กับประธานวุฒิสภา
ว่าจะวินิจฉัยว่าเป็นญัตติด่วนหรือจะให้อภิปรายในสภาได้หรือไม่
เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงคำพูดของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญคนดังกล่าว
ถือว่าผิดจริยธรรมหรือไม่ รศ.ดร.นันทนา กล่าวว่า
ถ้าจะใช้คำที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยในการถอดถอนนายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรี
ก็ต้องใช้คำว่า “วิญญูชน” ย่อมตระหนักได้ว่าคำกล่าวนั้น เหมาะสมหรือไม่กับสถานะที่เป็นตุลาการ
ส่วนที่มีกระแสวิพากษ์วิจารณ์ให้ตุลาการคนดังกล่าวลาออกจากตำแหน่ง
เพราะถือเป็นกาดำในตุลาการศาลรัฐธรรมนูญนั้น รศ.ดร.นันทนา กล่าวว่า
หากอยู่ในสถานะที่เป็นคนให้คุณให้โทษ มีอำนาจอย่างกว้างขวาง
มาแสดงบทบาทที่อาจจะไม่เป็นที่เหมาะสมในสถานะ และทำให้สังคมมีการวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างรุนแรง
ถ้าเป็นการพิจารณาตนเองก็เป็นสิ่งที่สาธารณะชนอยากจะเรียกร้อง
แต่ขึ้นอยู่กับตัวผู้ที่สื่อสารออกมาว่า จะหันกลับไปพิจารณาตนเองหรือไม่
สำหรับกรณีที่
สส. ระบุว่า จะต้องร่วมมือกัน
เพื่อช่วยกันแก้ไขกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับองค์กรอิสระนั้น ในส่วนของ สว.
จะมีการร่วมกันรวมเสียงเพื่อแก้ไขเรื่องนี้ด้วยหรือไม่ รศ.ดร.นันนทนา ระบุว่า
ส่วนตัวมีความเห็นด้วย ว่าโครงสร้างที่ทำให้เกิดปัญหาทางการเมืองคือรัฐธรรมนูญ ปี 60 ทำให้เกิดองค์กรอิสระที่ไม่ได้ยึดโยงกับประชาชน
และมีขอบเขตอำนาจที่ล้นเกิน จึงต้องกลับมามองว่ารัฐธรรมนูญข้อบัญญัติที่มีปัญหา
หากจะแก้ปัญหาที่สาเหตุ คือต้องเริ่มต้นจากการแก้ไขรัฐธรรมนูญ
และยกร่างรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับ รวมทั้งให้ผู้ที่เข้ามาทำหน้าที่ร่างคือ สภาร่างรัฐธรรมนูญ
(สสร.) เพื่อให้ตอบโจทย์ที่ตรง