วันอาทิตย์ที่ 25 สิงหาคม พ.ศ. 2567

“ภูมิธรรม” สั่งการเตรียมรับมวลน้ำในพื้นที่ “อุตรดิตถ์/สุโขทัย” กำชับเสริมแนวป้องกันคันดินและเขื่อนรับน้ำ พร้อมเน้นย้ำกรมอุตุฯ พยากรณ์เจาะจงในพื้นที่ เพื่อเตรียมการป้องกัน ขณะเดียวกัน แจงแทนนายกฯ ยังไม่มีอำนาจสั่งการ เพราะต้องเข้าเฝ้าถวายสัตย์ฯ-แถลงนโยบายก่อน

 


“ภูมิธรรม” สั่งการเตรียมรับมวลน้ำในพื้นที่ “อุตรดิตถ์/สุโขทัย” กำชับเสริมแนวป้องกันคันดินและเขื่อนรับน้ำ พร้อมเน้นย้ำกรมอุตุฯ พยากรณ์เจาะจงในพื้นที่ เพื่อเตรียมการป้องกัน ขณะเดียวกัน แจงแทนนายกฯ ยังไม่มีอำนาจสั่งการ เพราะต้องเข้าเฝ้าถวายสัตย์ฯ-แถลงนโยบายก่อน


วันนี้ (25 สิงหาคม 2567) นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงสถานการณ์น้ำท่วมก่อนลงพื้นที่ไปติดตามสถานการณ์ที่ จ.น่าน, จ.เชียงราย ในวันนี้ว่า สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ จ.แพร่ น่าน และเชียงราย ขณะนี้น้ำลดลงบ้างแล้ว แต่ยังมีบางพื้นที่ที่ยังระดับน้ำสูงกว่าเขื่อนกั้น ซึ่งรายงานล่าสุดภาพรวมดีขึ้น แต่ยังมีความกังวล เนื่องจากมีฝนตกต่อเนื่องซ้ำในจุดเดิมที่แห้งไปแล้ว ดังนั้นจึงยังคงต้องเฝ้าระวังและไม่ได้นิ่งนอนใจ


ส่วนมวลน้ำก้อนใหญ่ที่จะไหลจากแม่น้ำยมลงมายังสุโขทัยและอุตรดิตถ์ ยังน่าเป็นห่วง จึงได้สั่งการให้ ร.อ.ธรรมนัส รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ไปติดตามสถานการณ์ เนื่องจากประชาชนกังวลที่จะต้องรับน้ำมวลนี้


ขอย้ำว่า น้ำท่วมครั้งนี้เกิดจากสภาพาอากาศที่เปลี่ยนแปลง หรือ climate change ทำให้ปริมาณน้ำฝนเพิ่มขึ้นในบางจุด ไม่ได้กระจายไปทั้งหมด ซึ่งจะทำให้เกิดฝนตกอย่างแรงในจุดนั้นมากถึง 200 มิลลิเมตร แม้หลายส่วนจะมีมาตรการป้องกันไว้แล้ว แต่ยังต้องเผชินกับภาวะที่มีปัญหา


ขณะเดียวกันแม่น้ำโขง ที่มีปริมาณเพิ่มมากขึ้น ก็เชื่อว่าจะคลี่คลายโดยเร็วเนื่องจากเป็นน้ำหลาก และย้ำว่ารัฐบาลนี้ได้สั่งการหน่วยงานทั้งหมดเข้ามาดูแลปัญหา เช่น กระทรวงมหาดไทย ได้จัดตั้งศูนย์ช่วยเหลือในพื้นที่ประสบอุทกภัย  รวมถึงพยายามป้องกันและแก้ไขปัญหาในพื้นที่ประสบอุทกภัย ขณะเดียวกันก็เตรียมรับมวลน้ำ โดยเฉพาะเขื่อนที่ต้องมีการคำนวณเพื่อรองรับฝนที่จะตกอย่างต่อเนื่องไปจนถึงเดือนตุลาคมนี้  ไม่ว่าจะเป็นเขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์ เขื่อนเจ้าพระยา จะต้องมีการวางแผนบริหารจัดการให้ดีเพื่อไม่ให้เกิดปัญหา ป้องกันการไหลของน้ำ


นอกจากนี้ ได้สั่งการให้จังหวัดดูปริมาณน้ำอย่างใกล้ชิด นอกจากนี้การช่วยเหลือด้านเส้นทางคมนาคมขนส่งได้มีการเจาะรูระบายน้ำเพื่อให้น้ำไหลไปได้ และเสริมความแข็งแกร่งคอสะพานไม่ให้เส้นทางคมนาคมขาด


นายภูมิธรรม ยังกล่าวต่อไปว่า วันนี้จะไปติดตามสถานการณ์ดินโคลนถล่มที่ อำเภอท่าวังผา ซึ่งได้สั่งการให้องค์การบริหารส่วนจังหวัดนำรถดูดโคลนขึ้นไปแก้ไขปัญหา ซึ่งขณะนี้ทุกหน่วยงานได้ทำงานบูรณาการร่วมกัน อย่างดีที่สุด ขณะเดียวกันก็จะประชาสัมพันธ์อย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติจะประเมิน รวมถึงจะแจ้งเตือนให้ประชาชนได้รับทราบ เพื่อไม่ให้เกิดความตื่นตระหนก และย้ำว่าแผนการแจ้งเตือนสถานการณ์น้ำได้ดำเนินการมาตั้งแต่รัฐบาลของ นายเศรษฐา ทวีสิน แล้ว และได้สั่งการให้เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ขึ้นไปดูแนวร่องน้ำเพื่อนำมาประเมินสถานการณ์ แก้ไขปัญหาเพื่อที่จะรองรับน้ำ รวมถึงให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมไปดูแนวคันดินป้องกันน้ำ หากจุดไหนต้องซ่อมแซมก็เร่งดำเนินการ


นอกจากนี้ ยังให้กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศในลักษณะทั่วไป แต่ต้องระบุพื้นที่ที่มีปัญหาเพื่อที่จะได้ช่วยกันดำเนินการแก้ไข รวมถึงให้สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศ ภูมิสารสนเทศ หรือ GISTDA เก็บข้อมูลก่อนที่จะรายงานมายังศูนย์บัญชาการส่วนหน้า พร้อมกันนี้ ให้ GISTDA และกรมชลประทาน ช่วยกันเตรียมการรองรับปริมาณน้ำ รวมถึงเตรียมการเยียวยาอย่างเร่งด่วน ขณะเดียวกันได้สั่งการให้ดูเรื่องของราคาสินค้าที่จะต้องควบคุมไม่ให้จำหน่ายในราคาที่สูง


นายภูมิธรรม ยังชี้แจงกรณีที่นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีไม่เข้าไปปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรีว่า ยังต้องผ่านขั้นตอนการเข้าเฝ้าถวายสัตย์เพื่อปฏิบัติหน้าที่ และยังต้องแถลงนโยบายต่อรัฐสภาก่อน จึงจะมีอำนาจในการสั่งการ ซึ่งในตอนนี้ นางสาวแพทองธารทำได้เพียงแค่ห่วงใยและติดตามสถานการณ์ในนามพรรคเพื่อไทยและในนามส่วนตัว ขณะที่ตนเองในฐานะปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี ก็ลงพื้นที่แก้ไขปัญหาให้โดยตรง และจะสั่งการทุกอย่างอย่างเต็มที่ เพื่อให้ทุกอย่างเดินหน้าไปด้วยความเรียบร้อย อย่างไรก็ดี รัฐบาลนี้พร้อมรับทุกข้อเสนอแนะที่สร้างสรรค์


สำหรับวันนี้ นายภูมิธรรม เวชยชัย ได้ลงพื้นที่ไปติดตามสถานการณ์อุทกภัย โดยช่วงเช้าเดินทางไปยัง จ.น่าน พร้อมติดตามสถานการณ์ที่ อ.ท่าวังผา พร้อมมอบถุงยังชีพแก่ประชาชนที่ได้รับผลกระทบ จากนั้นในช่วงบ่าย เดินทางไปยังจ.เชียงราย ติดตามสถานการณ์น้ำที่ อ.เทิง, อ.เวียงแก่น ก่อนเดินทางกลับ กทม.


#UDDnews #ยูดีดีนิวส์ #สถานการณ์น้ำ #น้ำท่วม67