“รอมฎอน” เตือนความจำอีก 64 วันหมดอายุความคดีตากใบ
ลุ้นคำสั่งศาลพรุ่งนี้ชี้มูล - ประทับรับฟ้องหรือไม่ หวังรัฐบาลใหม่มีทิศทางชัดเจน
- คืนความยุติธรรมให้ผู้สูญเสีย
วันที่
22 สิงหาคม 2567 ที่อาคารรัฐสภา รอมฎอน ปันจอร์
สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน
แถลงข่าวการเข้าร่วมสังเกตการณ์การอ่านคำสั่งไต่สวนมูลฟ้องในคดีตากใบ
ที่ผู้เสียหายยื่นฟ้องต่อเจ้าหน้าที่รัฐ ซึ่งจะมีการอ่านคำสั่งในวันที่ 23 สิงหาคม 2567 นี้
รอมฎอนระบุว่าวันนี้อายุความคดีอาญากรณีตากใบเหลือเวลาอีก
64 วัน โดยคดีดังกล่าวเริ่มต้นจากการที่ผู้เสียหาย 48 รายเป็นโจทก์ฟ้องต่อเจ้าหน้าที่รัฐที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการสลายการชุมนุมที่หน้า
สภ.ตากใบ เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 2547 โดยมีจำเลยในคดีดังกล่าวรวม
9 คน ทั้งทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครอง
ผลของคำสั่งในวันพรุ่งนี้
จะกำหนดทิศทางของการอำนวยความยุติธรรมในคดีตากใบ ภายใต้กรอบเวลาว่าอีก 2 เดือนอายุความจะขาดลง
หากศาลเห็นว่ามีมูลและประทับรับฟ้อง
ศาลต้องนำส่งหมายเรียกให้จำเลยตามที่ศาลเห็นว่ามีมูลให้มาเบิกตัวต่อศาลก่อนวันที่ 25
ตุลาคม จึงเป็นอันเริ่มต้นกระบวนการในชั้นศาลได้
แต่หากศาลมีคำพิพากษาไม่รับฟ้อง ก็ต้องติดตามว่าฝ่ายผู้ร้องจะอุทธรณ์หรือไม่
แต่ก็จะทำให้กระบวนการในการพิจารณาทอดยาวออกไปอีก
รอมฎอนกล่าวต่อไป
ว่าที่จริงแล้วยังมีการดำเนินคดีคู่ขนานกันไปอีกคดีหนึ่ง
นั่นคือคดีที่ดำเนินการโดยพนักงานสอบสวน สภ.หนองจิก
โดยมีที่มาจากการทักท้วงโดยคณะกรรมาธิการกฎหมายฯ สภาผู้แทนราษฎร
ว่าการดำเนินคดีอาญาไปถึงขั้นตอนไหนแล้ว ทำให้มีการตั้งคณะทำงานขึ้นมาพร้อมตั้งสำนวนคดีขึ้นมาเมื่อต้นปี
2567
โดยความคืบหน้าเมื่อวันที่
25 เมษายน 2567 ที่ผ่านมาพนักงานสอบสวนได้ส่งสำนวนให้อัยการสูงสุด
โดยมีความเห็นควรสั่งไม่ฟ้องเจ้าหน้าที่รัฐที่เป็นผู้ต้องหาจำนวน 8 คน และล่าสุดเท่าที่ตรวจสอบ
ได้มีการส่งพยานหลักฐานเพิ่มเติมตามที่อัยการร้องขอไปเมื่อวันที่ 14 สิงหาคมที่ผ่านมา
ซึ่งก็ต้องติดตามต่อไปว่าอัยการจะมีความเห็นต่อคดีนี้อย่างไร
ทั้งนี้
หลังมีการส่งสำนวนให้อัยการไปแล้ว เมื่อวันที่ 12 มิถุนายน 2567 ตัวแทนญาติผู้เสียชีวิตได้ขอความเป็นธรรมต่ออัยการสูงสุดว่าการดำเนินคดีมีความล่าช้าและไม่เป็นธรรม
พร้อมขอให้อัยการสูงสุดมีการเร่งรัดคดี แต่เมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม
2567 ที่ผ่านมา
อัยการสูงสุดกลับมีหนังสือส่งกลับมาว่าทางอัยการสูงสุดได้พิจารณาคำร้องขอความเป็นธรรมแล้ว
เห็นควรให้ยุติเรื่องขอความเป็นธรรมโดยไม่มีการระบุเหตุผลหรือคำอธิบายใด ๆ
รอมฎอนกล่าวต่อไป
ว่าจากการร่วมวงเสวนาที่ จ.นราธิวาส เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม 2567 ที่ผ่านมา มีหนึ่งในประเด็นที่ถูกยกขึ้นมาถามผู้เสียหาย
ว่าทำไมถึงได้ตัดสินใจมาฟ้องคดีในช่วงคดีกำลังจะหมดอายุความลง
ซึ่งหนึ่งในญาติของผู้เสียชีวิตมีการระบุว่าพวกเขายังอยากได้ความยุติธรรม
แม้จะได้รับการเยียวยาจากทั้งการไกล่เกลี่ยในชั้นศาลและรัฐบาลแล้ว แต่การได้ความยุติธรรมหรือการฟ้องคดีที่ผ่านมาชาวบ้านไม่มีความรู้
อำนาจ หรือโอกาส และยังถูกติดตามจากเจ้าหน้าที่รัฐจนรู้สึกกลัว
ที่ผ่านมาทำได้แค่จัดงานรำลึก
แต่เมื่อปีล่าสุดจึงเริ่มมีการหารือและตกลงกันว่ารอไม่ได้แล้ว
และจะขอฟ้องดำเนินคดีเอง
คดีตากใบเป็นปมปัญหาสำคัญของความขัดแย้งในชายแดนใต้
เพราะวางอยู่บนสายสัมพันธ์ระหว่างรัฐกับประชาชน ถ้าสถาบันต่างๆ
ในสังคมไทยไม่อาจอำนวยความยุติธรรมได้ก็ยากที่จะฟื้นฟูความสัมพันธ์ระหว่างรัฐกับประชาชนได้
ที่สำคัญความยุติธรรมในคดีตากใบยังเกี่ยวข้องกับอนาคตกระบวนการสันติภาพ
ที่ต้องการพื้นฐานของความไว้เนื้อเชื่อใจและความมั่นใจต่อสถาบันต่างๆ
ในสังคมการเมืองไทยด้วย
รอมฎอนกล่าวต่อไป
ว่าปมปัญหาตากใบเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคงของชาติ ความรุนแรง
และกระบวนการสันติภาพ ซึ่งเดิมตนตั้งใจจะตั้งกระทู้ถามอดีตนายกรัฐมนตรี เศรษฐา
ทวีสิน
แต่เสียดายที่คำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญทำให้นายกรัฐมนตรีต้องพ้นจากตำแหน่งไปเสียก่อน
แต่ตนก็เชื่อว่าภายใต้รัฐบาลใหม่
ไม่ว่าจะมาช้าหรือเร็วก็ต้องเตรียมคำตอบสำคัญเกี่ยวกับคดีตากใบไว้
คดีตากใบเกิดขึ้นภายใต้การบริหารของอดีตนายกรัฐมนตรี
ทักษิณ ชินวัตร ซึ่งเมื่อ 2
ปีที่แล้วก็เคยกล่าวคำขอโทษและขออภัย แม้จะถือว่าเป็นหมุดหมายสำคัญ
แต่ตนก็ยังคาดหวังว่าคณะรัฐมนตรีใหม่น่าจะทำอะไรได้มากกว่านี้
“ผมคาดหวังว่าภายใต้รัฐบาลแพทองธารจะมีความชัดเจน ความมุ่งมั่น
และเจตจำนงที่ชัดเจน รัฐบาลต้องชี้ทิศทางว่าจะไปทางไหน
ถ้าหากปราศจากทิศทางเช่นนี้การแก้ไขปัญหาก็จะอยู่ภายใต้ระบบราชการปกติ
ที่มีวิธีคิดและมุมมองต่อปัญหาที่แตกต่างหลากหลายและขัดแย้งกันเอง รัฐบาลใหม่น่าจะดำเนินการได้มากกว่าการนั่งรอเฉยๆ
ปมปัญหาสำคัญคือความยุติธรรมและข้อเท็จจริง ว่าผู้เสียชีวิตตายเพราะอะไร ตายโดยใคร
และใครต้องรับผิดชอบ ไม่ใช่แค่คำสั่งชันสูตรพลิกศพ
ว่าผู้เสียชีวิตบนรถเสียชีวิตเพราะขาดอากาศหายใจ คำตอบแต่นั้นไม่เพียงพอ
ถ้าทิศทางคือการแก้ปัญหาและสร้างสันติภาพ ปมเหล่านี้ควรได้รับการคลี่คลาย ใส่ใจ
และแสดงความชัดเจน” รอมฎอน กล่าว