“ก้าวไกลชายแดนใต้”
เรียกร้องทหารหยุดละเมิดสิทธิประชาชน กรณีทหารเก็บ DNA เด็กทารก
ญาติอับดุลเลาะ อีซอมูซอ วัย 10 เดือน
วันนี้
(17 ต.ค. 2565) รอมฎอน ปันจอร์ คณะทำงานยุทธศาสตร์และนโยบายชายแดนใต้/ปาตานี
พรรคก้าวไกล ได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวถึงความน่าเป็นห่วงของสถานการณ์ในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้
ที่มีเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงมาขอเก็บ DNA เด็กน้อยวัย 10 เดือนใน อ.สายบุรี จ.ปัตตานี ซึ่งถือเป็นการละเมิดสิทธิเด็ก
ทำลายหลักการของมนุษยชนอย่างร้ายแรง
และบั่นทอนความไว้วางใจของประชาชนที่อาจทำให้สถานการณ์ลุกลามบานปลายได้
กรณีดังกล่าวเกิดเมื่อวันที่
11 ตุลาคม 2565 มีรายงานว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.
สายบุรีและทหารพราน ฉก. 44 ได้นำกำลังเข้าตรวจค้นบ้านประชาชนแห่งหนึ่งซึ่งภายในบ้านมีผู้หญิง
2 คน และเด็กชายอายุ 10 เดือน 1
คน ซึ่งแม่ของเด็กหญิงเป็นญาติของนายอับดุลเลาะ อีซอมูซอ
ชายมุสลิมที่เสียชีวิตระหว่างถูกควบคุมตัวในค่ายทหาร ทำอาชีพตัดเย็บเสื้อผ้า
รายได้ประมาณ 4,000 บาท/เดือน
โดยภายหลังในวันเดียวกันได้มีการเชิญตัวไปให้ข้อมูลเพิ่มเติมที่ สภ.สายบุรี
โดยทางเจ้าหน้าที่พยายามขอเก็บ DNA ของเด็กอายุ 10 เดือน แต่ฝ่ายแม่ยืนกรานไม่ยินยอม
เจ้าหน้าที่จึงมีการข่มขู่ว่าจะมาทุกวันและจะควบคุมตัวตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน
รอมฎอน
กล่าวว่า กรณีดังกล่าวนี้ทำให้บรรยากาศความไม่ไว้วางใจระหว่างประชาชนในพื้นที่และเจ้าหน้าที่รัฐเกิดขึ้นอีกครั้ง
เพราะคนทั้งสังคมไม่ว่าจะเป็นไทยพุทธหรือมุสลิมล้วนเห็นตรงกันว่าเด็กๆ
ซึ่งเป็นสมาชิกของสังคมที่เปราะบางที่สุดนั้นไม่ควรเข้ามาเกี่ยวข้องกับความรุนแรงหรือความขัดแย้งของผู้ใหญ่
เรื่องทำนองนี้ยังเกิดขึ้นอีกซ้ำแล้วซ้ำเล่า
การเก็บดีเอ็นเอผู้บริสุทธิ์ นั้นเป็นสิ่งที่ไม่มีกฎหมายใด ๆ อนุญาต
ต่อให้อ้างกฎหมายพิเศษทั้ง 3 ฉบับ
ก็ยังไม่มีข้อบัญญัติส่วนไหนที่ให้อำนาจกับเจ้าหน้าที่ทั้งตำรวจและทหาร
สนธิกำลังกันล้อมบ้านประชาชนหรือเรียกตัวไปที่ตั้งและชี้นิ้วขอเก็บตัวอย่างของเด็กชายอายุเพียงแค่
10 เดือนได้
แม้เจ้าหน้าที่จะจับตาและระแวงสงสัยคนเป็นพ่อหรือใครก็ตาม
ก็ไม่มีสิทธิใช้อำนาจที่เกินเลยเช่นนี้
แม้แต่นักโทษเด็ดขาดก็ยังไม่มีกฎหมายให้อำนาจที่จะเก็บดีเอ็นเอ ไม่ต้องพูดถึงการเก็บข้อมูลชาวบ้านธรรมดาและเด็กที่ยังเดินไม่ได้เลยด้วยซ้ำ
พฤติการณ์ของเจ้าหน้าที่รัฐ
สะท้อนภาพที่ใหญ่กว่าก็คือปัญหา “ความไว้เนื้อเชื่อใจ”
ที่เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงในพื้นที่แห่งนี้ไม่ค่อยจะให้ความสำคัญเท่าไหร่
ที่เป็นเช่นนั้นอาจเพราะการใช้อำนาจพิเศษจนคุ้นเคยคุ้นชิน
โดยไม่สนใจหัวจิตหัวใจของผู้คน
“นี่คือเหตุผลที่พรรคก้าวไกล เสนอนโยบายรื้อ โละ
บรรดากฎหมายความมั่นคงและกฎหมายพิเศษ แล้วยกร่างขึ้นมาใหม่
ทำให้การใช้อำนาจของรัฐชอบธรรมมากขึ้น ที่สำคัญคือเคารพสิทธิและเสรีภาพของประชาชน
มองชีวิตของผู้คนเป็นของศักดิ์สิทธิ์จะละเมิดสุ่มสี่สุ่มห้าไม่ได้ รวมทั้งต้องมีคนมาตรวจสอบการใช้อำนาจของผู้ถืออาวุธอย่างจริงจัง
ไม่ให้ทหารใช้อำนาจเหนือประชาชนได้อย่างตามอำเภอใจ
เพื่อสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจกันให้เกิดขึ้น
เราเชื่อว่าพักใต้จะสงบสุขได้ด้วยการยินยอมพร้อมใจ ไม่ใช่ด้วยการใช้อำนาจพิเศษเหนือกฎหมายมาบังคับ”
รอมฎอน กล่าว
#UDDnews #ยูดีดีนิวส์ #ก้าวไกล #ชายแดนใต้