วันอังคารที่ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2565

ลุงบุกชก "ศรีสุวรรณ" ขณะร้อง"โน้ส อุดม" ปม "เดี่ยว 13" ชี้ ทำเพื่อสั่งสอนหมดความอดทน ร้องทุกเรื่องจนเกินเลย ลั่น พร้อมถูกดำเนินคดี

 


ลุงบุกชก "ศรีสุวรรณ" ขณะร้อง"โน้ส อุดม" ปม "เดี่ยว 13" ชี้ ทำเพื่อสั่งสอนหมดความอดทน ร้องทุกเรื่องจนเกินเลย ลั่น พร้อมถูกดำเนินคดี

 

วันนี้ (18 ต.ค. 2565) เมื่อเวลา 10.30 น. ที่ บก.ปอท. นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ได้เดินทางมาพบพนักงานสอบสวน กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) เพื่อขอให้ดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ตามครรลองของกฎหมาย กรณีมีบุคคลทอล็คโชว์เดี่ยวไมโครโฟน-13 ซึ่งเผยแพร่ในสื่อสังคมออนไลน์ โดยมีการใช้ถ้อยคำบางคำพูดอันอาจมีลักษณะส่งเสริมให้บุคคลร่วมชุมนุมสาธารณะที่ผิดกฎหมาย ซึ่งอาจขัดต่อความมั่นคงของรัฐและหรือละเมิดสิทธิและเสรีภาพของบุคคลอื่น และหรือขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน อันเข้าข่ายความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา ประกอบ พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทําความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ 2550 แก้ไขเพิ่มเติม ฉบับที่ 2 พ.ศ.2560 หรือไม่ อย่างไร

 

ทั้งนี้ บทพูดของการโชว์เดี่ยวไมโครโฟนดังกล่าว มีบางคำพูด อาทิ "วันนี้รถติดเยอะหน่อย มีม็อบไล่คนที่เราอยากจะไล่เขา ก็ให้อภัยเขาไปนะครับ ถือว่าเขาทำงานแทนเรา" นั้น จะสื่อความหมายไปอย่างอื่นมิได้ นอกเสียจากการพูดเพื่อที่จะสื่อหรือโฆษณาให้ผู้ฟังหรือผู้ชม ได้เข้าใจตรงกันว่ามีเจตนาหรือจงใจที่จะให้ทุกคนที่รับฟังและรับชมให้อภัยกลุ่มผู้ที่ออกมาชุมนุมสาธารณะที่เกิดขึ้นหลาย ๆ ครั้ง เมื่อช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมานั่น "ทำงานแทนเรา" นั่นเอง

 

โดยที่การชุมนุมเหล่านั้นล้วนผิดกฎหมาย ฝ่าฝืนข้อกำหนดใน ม.9 แห่ง พรก.ฉุกเฉิน 2548 และมีการสอดใส้การชุมนุมเป็นเรื่องการยกเลิก ปอ.112 และการปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ มิใช่การชุมนุมเพื่อขับไล่ผู้นำรัฐบาลแต่อย่างใดไม่

 

กรณีดังกล่าวจึงไม่ใช่เป็นเรื่องส่วนตัวของบุคคลใดบุคคลหนึ่งแต่อย่างใด หากแต่อาจเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับความผิดต่อแผ่นดิน อาจกระทบต่อความมั่นคง และอาจขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน อันเข้าข่ายความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา ม.84 ม.85 และหรือ ม.87 ประกอบ ม.14 แห่งพรบ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ 2550 แก้ไขเพิ่มเติม ฉบับที่ 2 พ.ศ.2560 ต้องระวางโทษกึ่งหนึ่งของโทษที่กำหนดไว้สำหรับความผิดนั้นด้วย และหรือต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปีหรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

 

ด้วยเหตุดังกล่าว สมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย จึงต้องนำความพร้อมพยานหลักฐานมาแจ้งต่อ บก.ปอท. ให้ใช้อำนาจตามกฎหมายในการตรวจสอบ สอบสวน กรณีดังกล่าวว่าเข้าข่ายความผิดอาญาต่อแผ่นดินหรือไม่ หากพบว่าเป็นความผิดให้ดำเนินการตามครรลองของกฎหมายต่อไป

 

ทั้งนี้นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า การที่มาร้องวันนี้ไม่ได้เกี่ยวกับรัฐบาล ที่ผ่านมาถ้ารัฐบาลทำไม่ถูกต้องตนก็ร้องมาอยู่แล้วตลอด ส่วน "โน๊ส อุดม" เขาก็เคยวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลมาทุกยุคทุกสมัยอยู่แล้ว แต่บางคำพูดที่เป็นการยุยงส่งเสริมม๊อบ ตนไม่เห็นด้วย นายศรีสุวรรณ กล่าว

 

ทั้งนี้ระหว่างการให้สัมภาษณ์ของนายศรีสุวรรณ ได้เกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดขึ้น โดยมีชายรายหนึ่งบุกเข้าต่อยที่หน้าของนายศรีสุวรรณต่อหน้าผู้สื่อข่าวที่กำลังสัมภาษณ์นายศรีสุวรรณอยู่ จนเกิดการชุลมุน ซึ่งนายศรีสุวรรณได้เดินเข้าไปให้ปากคำกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจทันที

 

สำหรับเหตุการณ์ดังกล่าวนั้น ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างที่นายศรีสุวรรณ กำลังยืนให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนที่มาเฝ้าติดตามอยู่นั้น ปรากฎว่านายวีรวิชญ์ รุ่งเรืองศิริผล ในนามของ" ศักดินาเสื้อแดงต่อต้านเผด็จการ" ซึ่งได้มาสอบถามประเด็นการร้องเรียนของนายศรีสุวรรณ ว่าหลังจากที่ศาลรัฐธรรมนูญ ตัดสินคดี 8 ปีนายกรัฐมนตรี จะมีการแจ้งความคนเห็นต่างหรือไม่ แต่ยังไม่ทันจะถามจบนายวีรวิชญ์ ได้เข้าไปชกต่อยนายศรีสุวรรณ ทันทีกลางวงสัมภาษณ์ ทำให้นักข่าวอึ้งกันทั้งวงสัมภาษณ์

 

หลังจากนั้น นายวีรวิชญ์ ให้สัมภาษณ์ว่า ตนคาใจเพราะหลังจากศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยปม 8 ปี นายกรัฐมนตรี นายศรีสุวรรณ ออกมาประกาศว่า ใครชุมนุมจะแจ้งความจะแจ้งจับหมด ซึ่งตนเป็นคนหนึ่งที่ชุมนุม วันนี้ตั้งใจมาตบเพื่อสั่งสอน ซึ่งมีตำรวจที่รู้จักฝากมาตบด้วย กราบขอโทษกองปราบที่มาทำแบบนี้ เพราะไม่มีโอกาสเลย ตนเฝ้าและแอบดูว่านายศรีสุวรรณจะไปร้องอะไรบ้าง เมื่อเช้าตนยอมทิ้งงาน ตนอายุ 62 ปี จะเป็นอะไรไม่สนใจ อยากให้เห็นว่า คำว่าประชาธิปไตย ทุกคนต้องยอมรับความเห็นต่าง ประเทศนี้เป็นของประชาชน ไม่ใช่ของคนใดคนหนึ่ง ถ้าถูกดำเนินคดีพร้อมเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม และที่มาวันนี้ไม่ได้มีใครจ้างมาแต่ตั้งใจมาด้วยตัวเอง

 

#UDDnews #ยูดีดีนิวส์ #เดี่ยว13 #โน้สอุดม #ศรีสุวรรณ