ลุงบุกชก
"ศรีสุวรรณ" ขณะร้อง"โน้ส อุดม" ปม "เดี่ยว 13" ชี้ ทำเพื่อสั่งสอนหมดความอดทน ร้องทุกเรื่องจนเกินเลย ลั่น
พร้อมถูกดำเนินคดี
วันนี้
(18 ต.ค. 2565) เมื่อเวลา 10.30 น.
ที่ บก.ปอท. นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย
ได้เดินทางมาพบพนักงานสอบสวน กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี
(บก.ปอท.) เพื่อขอให้ดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ตามครรลองของกฎหมาย
กรณีมีบุคคลทอล็คโชว์เดี่ยวไมโครโฟน-13 ซึ่งเผยแพร่ในสื่อสังคมออนไลน์
โดยมีการใช้ถ้อยคำบางคำพูดอันอาจมีลักษณะส่งเสริมให้บุคคลร่วมชุมนุมสาธารณะที่ผิดกฎหมาย
ซึ่งอาจขัดต่อความมั่นคงของรัฐและหรือละเมิดสิทธิและเสรีภาพของบุคคลอื่น
และหรือขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน
อันเข้าข่ายความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา ประกอบ
พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทําความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ 2550 แก้ไขเพิ่มเติม
ฉบับที่ 2 พ.ศ.2560 หรือไม่ อย่างไร
ทั้งนี้
บทพูดของการโชว์เดี่ยวไมโครโฟนดังกล่าว มีบางคำพูด อาทิ
"วันนี้รถติดเยอะหน่อย มีม็อบไล่คนที่เราอยากจะไล่เขา ก็ให้อภัยเขาไปนะครับ
ถือว่าเขาทำงานแทนเรา" นั้น จะสื่อความหมายไปอย่างอื่นมิได้
นอกเสียจากการพูดเพื่อที่จะสื่อหรือโฆษณาให้ผู้ฟังหรือผู้ชม
ได้เข้าใจตรงกันว่ามีเจตนาหรือจงใจที่จะให้ทุกคนที่รับฟังและรับชมให้อภัยกลุ่มผู้ที่ออกมาชุมนุมสาธารณะที่เกิดขึ้นหลาย
ๆ ครั้ง เมื่อช่วง 2-3
ปีที่ผ่านมานั่น "ทำงานแทนเรา" นั่นเอง
โดยที่การชุมนุมเหล่านั้นล้วนผิดกฎหมาย
ฝ่าฝืนข้อกำหนดใน ม.9
แห่ง พรก.ฉุกเฉิน 2548 และมีการสอดใส้การชุมนุมเป็นเรื่องการยกเลิก
ปอ.112 และการปฏิรูปสถาบันกษัตริย์
มิใช่การชุมนุมเพื่อขับไล่ผู้นำรัฐบาลแต่อย่างใดไม่
กรณีดังกล่าวจึงไม่ใช่เป็นเรื่องส่วนตัวของบุคคลใดบุคคลหนึ่งแต่อย่างใด
หากแต่อาจเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับความผิดต่อแผ่นดิน อาจกระทบต่อความมั่นคง
และอาจขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน
อันเข้าข่ายความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา ม.84 ม.85 และหรือ
ม.87 ประกอบ ม.14 แห่งพรบ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์
2550 แก้ไขเพิ่มเติม ฉบับที่ 2 พ.ศ.2560
ต้องระวางโทษกึ่งหนึ่งของโทษที่กำหนดไว้สำหรับความผิดนั้นด้วย
และหรือต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปีหรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท
หรือทั้งจำทั้งปรับ
ด้วยเหตุดังกล่าว
สมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย จึงต้องนำความพร้อมพยานหลักฐานมาแจ้งต่อ บก.ปอท.
ให้ใช้อำนาจตามกฎหมายในการตรวจสอบ สอบสวน
กรณีดังกล่าวว่าเข้าข่ายความผิดอาญาต่อแผ่นดินหรือไม่
หากพบว่าเป็นความผิดให้ดำเนินการตามครรลองของกฎหมายต่อไป
ทั้งนี้นายศรีสุวรรณ
กล่าวว่า การที่มาร้องวันนี้ไม่ได้เกี่ยวกับรัฐบาล
ที่ผ่านมาถ้ารัฐบาลทำไม่ถูกต้องตนก็ร้องมาอยู่แล้วตลอด ส่วน "โน๊ส อุดม"
เขาก็เคยวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลมาทุกยุคทุกสมัยอยู่แล้ว
แต่บางคำพูดที่เป็นการยุยงส่งเสริมม๊อบ ตนไม่เห็นด้วย นายศรีสุวรรณ กล่าว
ทั้งนี้ระหว่างการให้สัมภาษณ์ของนายศรีสุวรรณ
ได้เกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดขึ้น โดยมีชายรายหนึ่งบุกเข้าต่อยที่หน้าของนายศรีสุวรรณต่อหน้าผู้สื่อข่าวที่กำลังสัมภาษณ์นายศรีสุวรรณอยู่
จนเกิดการชุลมุน
ซึ่งนายศรีสุวรรณได้เดินเข้าไปให้ปากคำกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจทันที
สำหรับเหตุการณ์ดังกล่าวนั้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างที่นายศรีสุวรรณ
กำลังยืนให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนที่มาเฝ้าติดตามอยู่นั้น ปรากฎว่านายวีรวิชญ์
รุ่งเรืองศิริผล ในนามของ" ศักดินาเสื้อแดงต่อต้านเผด็จการ"
ซึ่งได้มาสอบถามประเด็นการร้องเรียนของนายศรีสุวรรณ ว่าหลังจากที่ศาลรัฐธรรมนูญ
ตัดสินคดี 8
ปีนายกรัฐมนตรี จะมีการแจ้งความคนเห็นต่างหรือไม่
แต่ยังไม่ทันจะถามจบนายวีรวิชญ์ ได้เข้าไปชกต่อยนายศรีสุวรรณ ทันทีกลางวงสัมภาษณ์
ทำให้นักข่าวอึ้งกันทั้งวงสัมภาษณ์
หลังจากนั้น
นายวีรวิชญ์ ให้สัมภาษณ์ว่า ตนคาใจเพราะหลังจากศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยปม 8 ปี
นายกรัฐมนตรี นายศรีสุวรรณ ออกมาประกาศว่า ใครชุมนุมจะแจ้งความจะแจ้งจับหมด
ซึ่งตนเป็นคนหนึ่งที่ชุมนุม วันนี้ตั้งใจมาตบเพื่อสั่งสอน
ซึ่งมีตำรวจที่รู้จักฝากมาตบด้วย กราบขอโทษกองปราบที่มาทำแบบนี้
เพราะไม่มีโอกาสเลย ตนเฝ้าและแอบดูว่านายศรีสุวรรณจะไปร้องอะไรบ้าง
เมื่อเช้าตนยอมทิ้งงาน ตนอายุ 62 ปี จะเป็นอะไรไม่สนใจ
อยากให้เห็นว่า คำว่าประชาธิปไตย ทุกคนต้องยอมรับความเห็นต่าง
ประเทศนี้เป็นของประชาชน ไม่ใช่ของคนใดคนหนึ่ง ถ้าถูกดำเนินคดีพร้อมเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม
และที่มาวันนี้ไม่ได้มีใครจ้างมาแต่ตั้งใจมาด้วยตัวเอง
#UDDnews #ยูดีดีนิวส์ #เดี่ยว13 #โน้สอุดม #ศรีสุวรรณ