วันจันทร์ที่ 31 ตุลาคม พ.ศ. 2565

ธิดา ถาวรเศรษฐ : ลุงนวมทองเป็นเชื้อเพลงของคบไฟแห่งการต่อสู้ของประชาชน และการต่อสู้ประชาชนไม่ได้ขาดหาย : รำลึก #16ปีนวมทองไพรวัลย์

 


#16ปีนวมทองไพรวัลย์ : อ.ธิดา ถาวรเศรษฐ

 

สวัสดีค่ะ พี่น้องประชาชน สื่อมวลชน ผู้รักประชาธิปไตยทุกท่าน

 

31 ตุลาคม เป็นวันที่เรารำลึกถึงสามัญชนคนหนึ่ง ก็คือ ลุงนวมทอง ไพรวัลย์

 

ลุงนวมทอง ไพรวัลย์ เป็นสามัญชนธรรมดา แต่ว่าสิ่งที่ทำนั้นยิ่งใหญ่และสูงส่ง เพราะยินดีพลีชีพเพื่ออุดมการณ์ในการต่อต้านรัฐประหาร นั่นเป็นประการสำคัญก็คือการขับแท็กซี่เพื่อชนรถถัง นี่คือวิถีทางของลุงนวมทอง ซึ่งมีแต่เพียงแท็กซี่คันเดียวและร่างกาย ลุงนวมทองต้องการบอกให้โลกรู้ว่าคนธรรมดาขับแท็กซี่ จะแสดงออกถึงการต่อต้านรัฐประหารได้อย่างไร ก็คือทรัพย์สินที่มี ก็คือรถแท็กซี่และร่างกาย แต่เมื่อมันไม่สำเร็จ นั่นก็คือท่านยังไม่ได้เสียชีวิต ปรากฏว่ามาถึงประการที่สอง นอกจากท่านจะต้องการสร้างประวัติศาสตร์โดยเอาแท็กซี่ชนรถถังแล้ว

 

ในประการที่สองก็คือท่านต้องการรักษาศักดิ์ศรีของฝ่ายประชาธิปไตยทุกท่าน เพราะมีการหมิ่นจากยศพันเอกอัคร ทิพโรจน์ (เวลานั้น) ว่าไม่มีใครที่มีอุดมการณ์พอที่จะสละชีวิตได้ นี่เป็นวิธีคิดของฝ่ายอำนาจจารีตนิยม ซึ่งดูหมิ่นดูแคลนฝ่ายประชาธิปไตย การดูหมิ่นดูแคลนอันนี้นี่แหละ ลุงนวมทองจึงต้องตัดสินใจพลีชีพให้สำเร็จอีกครั้งหนึ่ง ณ ที่นี้ การพลีชีพครั้งนี้ไม่ใช่เป็นเพียงสร้างประวัติศาสตร์ของสามัญชนในการต่อต้านรัฐประหาร แต่เป็นเนื้อหาอันที่สองก็คือ รักษาศักดิ์ศรีของฝ่ายประชาธิปไตย ฆ่าได้ หยามไม่ได้! ต้องการชี้ให้เห็นว่าอุดมการณ์ที่มีอยู่ในสามัญชนนั้นมีมากพอที่ยินดีสละชีพได้ นี่จึงเป็นความสูงส่งซึ่งมนุษย์คนหนึ่ง การสละชีวิตเป็นสิ่งที่สำคัญและยิ่งใหญ่ที่สุด ไม่มีอะไรยิ่งใหญ่มากไปกว่านี้แล้ว

 

ดังนั้นท่านได้ทำเป้าหมายสองเป้าหมายคือสร้างประวัติศาสตร์สามัญชนต่อต้านรัฐประหาร คือเอาแท็กซี่ชนรถถัง และการพลีชีพเพื่อที่จะรักษาศักดิ์ศรีของฝ่ายประชาธิปไตยว่า มีอุดมการณ์มากพอที่จะพลีชีพจริง นี่จึงเป็นสิ่งที่เราควรศึกษาจิตใจที่สูงส่ง ยอมสละได้กระทั่งชีวิต แม้เรื่องนี้จะไม่ใช่เป็นเรื่องที่เราควรจะ หลายคนแม้กระทั่งตัวดิฉันเองก็คิดว่าเราไม่เห็นด้วย แต่ว่าสำหรับลุงนวมทองซึ่งมีความคิดของตัวเอง ทำเองคนเดียว ท่านก็คิดว่าชีวิตท่านดีที่สุดที่จะทำให้กับส่วนรวมได้ก็คือสละชีวิต

 

ดังนั้นการสละชีวิตของลุงนวมทองจึงเปรียบเสมือนการจุดคบไฟของการต่อสู้ ต่อต้านรัฐประหาร 2549 ด้วยเชื้อเพลิงที่เป็นร่างกายของท่าน ตัวท่านเป็นเชื้อเพลิงของคบไฟแห่งการต่อสู้ของประชาชน และคบไฟอันนี้จะยังดำรงอยู่ในหัวใจของพวกเราทุกคน เพราะท่านได้เอาตัวท่านเป็นประหนึ่งน้ำมันเชื้อเพลงในการหล่อเลี้ยง และคบไฟแห่งการต่อสู้ ต่อต้านรัฐประหารมันได้เกิดขึ้นนับจากบัดนั้นมาจนกระทั่งถึงปี 2553 และมาจนกระทั่งบัดนี้ การต่อสู้ประชาชนไม่ได้ขาดหาย

 

ดังนั้น สิ่งที่อยากฝากไว้ก็คือ ศึกษาจิตใจกล้าต่อสู้ กล้าเสียสละของท่าน แต่รูปแบบที่ท่านทำมันไม่ใช่สิ่งที่พวกเราจะทำเช่นนั้น เพราะการรักษาชีวิตและจิตวิญญาณเพื่อการต่อสู้เพื่อให้ได้อำนาจเป็นของประชาชนนั้น มันใช้เวลาในประเทศนี้ ดังนั้นการรักษาชีวิตไว้เพื่อทำงานต่อไปมันจึงเป็นเรื่องที่ควรทำมากกว่า แต่อย่างไรก็ตาม นอกจากเราศึกษาจิตใจกล้าต่อสู้ กล้าเสียสละ ไม่มีประโยชน์ส่วนตัวแม้แต่น้อยแม้กระทั่งชีวิต แปลว่าอุทิศให้ส่วนรวมทั้งหมด แต่เสื้อที่ลุงนวมทองใส่ก็ประหนึ่งคำบอก คำสั่งต่อคนรุ่นต่อมาก็คือ ที่มีบทกวีของศรีบูรพาที่ว่า

 

“อันประชาสามัคคีมีจัดตั้ง

เป็นพลังแกร่งกล้ามหาศาล

แสนอาวุธแสนศัตรูหมู่อันธพาล

ไม่อาจต้านแรงมหาประชาชน”

 

นี่คือมรดกที่เป็นคำสั่ง ดังนั้นศึกษาจิตใจกล้าต่อสู้ ศึกษาจิตใจกล้าเสียสละ แต่อย่าใช้รูปแบบของลุงนวมทองเลย แต่ว่าเอามรดกที่ลุงมีอยู่ที่เสื้อนั่นแหละเป็นคำชี้แนะของลุงนวมทอง

 

ดังนั้น เรามาวันนี้เราก็มาเพื่อคารวะจิตวิญญาณของลุงนวมทอง และเราตั้งใจที่จะสืบสานเจตนารมณ์ของลุงนวมทองต่อไป พร้อมที่จะส่งมอบคบไฟแห่งการต่อสู้ของประชาชนซึ่งเกิดจากร่างกายของลุมนวมทองหล่อเลี้ยงคบไฟอันนี้มันได้จุดตั้งแต่วันที่ 31 ตุลาคม 2549 ตั้งแต่บัดนั้นมาจนบัดนี้ การต่อสู้ประชาชนยังไม่หยุด และนี่ก็คือแบบอย่างของนักต่อสู้ของประชาชนที่แท้จริงค่ะ ขอบคุณมากค่ะ

 

#UDDnews #ยูดีดีนิวส์ #ธิดาถาวรเศรษฐ

#16ปีนวมทองไพรวัลย์ #นวมทองไพรวัลย์