วันจันทร์ที่ 17 ตุลาคม พ.ศ. 2565

“เห็นต่าง ต้องไม่ติดคุก” หมอทศพร นำจุดเทียนรำลึก 2 ปี จุดเริ่มต้นรัฐใช้ความรุนแรงหน้าสยามสแควร์วัน เสนอ พ.ร.บ.นิรโทษกรรมความผิดเกี่ยวเนื่องชุมนุมทางการเมือง ตั้งแต่ปี 2557-ปัจจุบัน

 



“เห็นต่าง ต้องไม่ติดคุก” หมอทศพร นำจุดเทียนรำลึก 2 ปี จุดเริ่มต้นรัฐใช้ความรุนแรงหน้าสยามสแควร์วัน เสนอ พ.ร.บ.นิรโทษกรรมความผิดเกี่ยวเนื่องชุมนุมทางการเมือง ตั้งแต่ปี 2557-ปัจจุบัน


เมื่อช่วงเย็นวันนี้ (17 ต.ค. 2565) นพ.ทศพร เสรีรักษ์ จัดกิจกรรมรำลึก 2 ปี ชุมนุมเดือนตุลา 2563 รัฐใช้ความรุนแรงกับประชาชน เรียกร้องให้หยุดดำเนินคดีทางการเมืองกับประชาชน 1,860 คน ใน 1,139 คดี บริเวณหน้าศูนย์การค้าสยามสแควร์วัน


โดย นพ.ทศพร เสนอให้มีร่างพระราชบัญญัตินิรโทษกรรมแก่ผู้ซึ่งกระทำความผิดเนื่องจากการชุมนุมทางการเมือง พ.ศ. …. สาระสำคัญกำหนดให้ประชาชนผู้ต้องคดีทางการเมือง ตั้งแต่วันที่ 22 พฤษภาคม 2557 จนถึงปัจจุบัน ไม่มีความผิดอีกต่อไป โดยจะแต่งตั้งคณะทำงานที่มาจากผู้ต้องคดี ผู้ได้รับบาดเจ็บ และนักกฎหมาย เพื่อเข้าหารือกับพรรคการเมืองต่าง ๆ  โดยเร็วที่สุด


นพ.ทศพร กล่าวว่า “ผมเข้าร่วมชุมนุมในฐานะแพทย์ เดินฉีดเจลแอลกอฮอล์ แต่โดนแจ้งข้อหา 8 คดี บางคดีมีเพียงภาพผมถือขวดเจลแอลกอฮอล์ พร้อมปลอกแขนสีเขียว เป็นเรื่องที่ตลกมาก”


การผลักดันร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรมฉบับนี้ อยู่ที่ความจริงใจของพรรคการเมือง ไม่ใช่ดีแต่พูด “เอา แต่ขอเป็นรัฐบาลก่อน” เรื่องที่จำเป็นเร่งด่วนต้องพิจารณาก่อนได้


“ เห็นต่างต้องไม่ตาย เห็นต่างต้องไม่ติดคุก เห็นต่างต้องมีชีวิตอย่างมีความสุข เห็นต่างต้องไปทำมาหากิน เห็นต่างต้องไปเรียนหนังสือได้” นพ.ทศพร กล่าว


ทั้งนี้ นพ.ทศพร ยังได้นำภาพของผู้ได้รับบาดเจ็บจากการใช้ความรุนแรงของรัฐ และภาพวาดของ “วาฤทธิ์ สมน้อย” เยาวชนอายุ 15 ปี ที่เสียชีวิตจากการถูกยิงบริเวณหน้า สน.ดินแดง เมื่อวันที่ 16 สิงหาคม 2564 มาวางหน้าลานศูนย์การค้าสยามสแควร์วัน เพื่อจุดเทียนรำลึกด้วย โดยมีนักเคลื่อนไหวทางเมืองที่ได้รับผลกระทบจากการใช้อำนาจของรัฐเดินทางมาร่วมกิจกรรม อาทิ นายสิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์ (จ่านิว) นายชินวัตร จันทร์กระจ่าง หรือ ไบรท์ และนางสาววรรณวลี ธรรมสัตยา หรือ ตี้ พะเยา เป็นต้น


#UDDnews #ยูดีดีนิวส์ #หยุดคุกคามประชาชน