“เห็นต่าง
ต้องไม่ติดคุก” หมอทศพร นำจุดเทียนรำลึก 2 ปี
จุดเริ่มต้นรัฐใช้ความรุนแรงหน้าสยามสแควร์วัน เสนอ
พ.ร.บ.นิรโทษกรรมความผิดเกี่ยวเนื่องชุมนุมทางการเมือง ตั้งแต่ปี 2557-ปัจจุบัน
เมื่อช่วงเย็นวันนี้
(17 ต.ค. 2565) นพ.ทศพร เสรีรักษ์ จัดกิจกรรมรำลึก 2 ปี
ชุมนุมเดือนตุลา 2563 รัฐใช้ความรุนแรงกับประชาชน
เรียกร้องให้หยุดดำเนินคดีทางการเมืองกับประชาชน 1,860 คน ใน 1,139 คดี
บริเวณหน้าศูนย์การค้าสยามสแควร์วัน
โดย
นพ.ทศพร เสนอให้มีร่างพระราชบัญญัตินิรโทษกรรมแก่ผู้ซึ่งกระทำความผิดเนื่องจากการชุมนุมทางการเมือง
พ.ศ. …. สาระสำคัญกำหนดให้ประชาชนผู้ต้องคดีทางการเมือง ตั้งแต่วันที่ 22 พฤษภาคม
2557 จนถึงปัจจุบัน ไม่มีความผิดอีกต่อไป โดยจะแต่งตั้งคณะทำงานที่มาจากผู้ต้องคดี
ผู้ได้รับบาดเจ็บ และนักกฎหมาย เพื่อเข้าหารือกับพรรคการเมืองต่าง ๆ โดยเร็วที่สุด
นพ.ทศพร
กล่าวว่า “ผมเข้าร่วมชุมนุมในฐานะแพทย์ เดินฉีดเจลแอลกอฮอล์ แต่โดนแจ้งข้อหา 8 คดี
บางคดีมีเพียงภาพผมถือขวดเจลแอลกอฮอล์ พร้อมปลอกแขนสีเขียว เป็นเรื่องที่ตลกมาก”
การผลักดันร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรมฉบับนี้
อยู่ที่ความจริงใจของพรรคการเมือง ไม่ใช่ดีแต่พูด “เอา แต่ขอเป็นรัฐบาลก่อน”
เรื่องที่จำเป็นเร่งด่วนต้องพิจารณาก่อนได้
“
เห็นต่างต้องไม่ตาย เห็นต่างต้องไม่ติดคุก เห็นต่างต้องมีชีวิตอย่างมีความสุข
เห็นต่างต้องไปทำมาหากิน เห็นต่างต้องไปเรียนหนังสือได้” นพ.ทศพร กล่าว
ทั้งนี้
นพ.ทศพร ยังได้นำภาพของผู้ได้รับบาดเจ็บจากการใช้ความรุนแรงของรัฐ และภาพวาดของ
“วาฤทธิ์ สมน้อย” เยาวชนอายุ 15 ปี ที่เสียชีวิตจากการถูกยิงบริเวณหน้า สน.ดินแดง
เมื่อวันที่ 16 สิงหาคม 2564 มาวางหน้าลานศูนย์การค้าสยามสแควร์วัน
เพื่อจุดเทียนรำลึกด้วย โดยมีนักเคลื่อนไหวทางเมืองที่ได้รับผลกระทบจากการใช้อำนาจของรัฐเดินทางมาร่วมกิจกรรม
อาทิ นายสิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์ (จ่านิว) นายชินวัตร จันทร์กระจ่าง หรือ ไบรท์
และนางสาววรรณวลี ธรรมสัตยา หรือ ตี้ พะเยา เป็นต้น
#UDDnews
#ยูดีดีนิวส์ #หยุดคุกคามประชาชน