“วรวัจน์” จี้ กกต. ออกระเบียบผ่อนปรนกรณีให้ความช่วยเหลือ ปชช.
ที่ประสบอุทกภัย
เมื่อวันที่
17 ตุลาคม นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล คณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย (พท.)
ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีสถานการณ์น้ำท่วมล่าสุดที่จังหวัดภูเก็ต
ว่าตั้งแต่มีสถานการณ์พายุโนรูที่ทำให้น้ำท่วมบริเวณภาคอีสาน ภาคเหนือ
และภาคกลางไปแล้ว วันนี้น้ำก็ท่วมหนักอีกที่จังหวัดภูเก็ต ซึ่งสถานการณ์ขณะนี้กฎหมายเลือกตั้งคุมฝ่ายการเมืองทำให้ไม่สามารถลงไปดำเนินการให้ความช่วยเหลือพี่น้องประชาชนได้
แต่ทางรัฐบาลที่มีอำนาจหน้าที่ทำได้
กลับไม่ได้แสดงท่าทีอะไรที่เป็นความใส่ใจในการลงไปช่วยเหลือพี่น้องประชาชนอย่างทันท่วงทีเลย
นายวรวัจน์
กล่าวต่ออีกว่า นอกจากนี้ยังไม่เห็นแนวทางการแก้ปัญหาที่ชัดเจนจากทางรัฐบาล
ไม่รู้ว่าทางรัฐบาลมัวแต่ห่วงเรื่องของตัวเองอยู่หรือไม่
จนละเลยพี่น้องประชาชนเช่นนี้
วันนี้น้ำท่วมทั่วทุกพื้นที่ตั้งแต่เหนือจรดใต้แล้วแต่ทางรัฐบาลก็ยังไม่ได้ขยับดำเนินการอะไรที่จริงจัง
ขณะเดียวกันก็มีข่าวว่าให้อีก 8 จังหวัดภาคใต้ เตรียมรับมือน้ำ
ซึ่งขณะนี้เองฝนก็ยังไม่หยุดตก
วันนี้รัฐบาลทำให้คนไทยรู้สึกเหมือนกับว่าไม่มีรัฐบาล
เรายังไม่เคยเห็นแผนการจัดการน้ำทั้งระยะสั้นและระยะยาวจากรัฐบาลนี้เลย ทั้งนี้
ภาคใต้จัดว่าเป็นเมืองท่องเที่ยวหลัก และเป็นเมืองเศรษฐกิจสำคัญ
วันนี้จังหวัดหลัก
ๆ เช่น ภูเก็ต กระบี่ พังงา สตูล สุราษฎร์ธานี และนครศรีธรรมราช
กำลังได้รับผลกระทบทั้งหมด แต่กลับไม่ได้รับความสนใจจากรัฐบาลเท่าที่ควร
ที่ผ่านมาเราเข้าใจได้ว่าพื้นที่ภาคเหนือและภาคอีสานทางรัฐบาลอาจมองว่าไม่ใช่พื้นที่ฐานเสียงของพรรคการเมืองฝ่ายตน
แต่ขณะนี้ปัญหาก็เกิดที่ภาคใต้แต่รัฐบาลยังกลับนิ่งนอนใจ
และไม่ได้สนใจสถานการณ์ที่เกิดขึ้นอยู่ดี
วันนี้รัฐบาลโยนภาระการช่วยเหลือประชาชนให้เป็นหน้าที่ของท้องถิ่นเท่านั้น
ส่วนตัวเองกลับไม่มีใจให้ประชาชน เท่าที่ควรจะเป็น นายวรวัจน์ กล่าว
นายวรวัจน์
กล่าวอีกว่า ตนขอเสนอให้รัฐบาลเข้ามาเยียวยา
และเร่งให้ความช่วยเหลือประชาชนให้มากกว่าที่ท้องถิ่นทำอยู่
อาจจะดำเนินการโดยการมีงบประมาณพิเศษจัดสรรลงไปให้
หรือเปิดช่องให้จังหวัดสามารถใช้งบกรณีฉุกเฉินล่วงหน้าเพื่อป้องกันน้ำท่วมได้ไม่ใช่ให้ยึดเพียงแต่กรอบงบประมาณเยียวยาแบบเดิม
อย่างไรก็ตาม สมัยรัฐบาลน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เคยจัดวางงบประมาณโดยแบ่งเป็น 2 กรอบ
คือ กรอบป้องกันน้ำท่วม คือให้มีการเตรียมการก่อนที่น้ำจะท่วม
และกรอบที่จะใช้หลังจากเกิดสถานการณ์น้ำท่วมแล้ว รัฐบาลนี้ก็น่าจะผลักดันให้มีมติเหมือนสมัย
ครม. น.ส.ยิ่งลักษณ์ คือให้จังหวัดสามารถใช้วงเงินงบประมาณได้ก่อนจะเกิดเหตุ เช่น
อาจจะวางช่องทางการระบายน้ำ การทำแผงกั้นน้ำ
หรือการขุดลอกเพิ่มเติมเพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้สถานการณ์หนัก
ในช่วงที่พายุลูกใหม่กำลังจะเข้ามานี้รัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์
ควรดูแบบอย่างของรัฐบาลน.ส.ยิ่งลักษณ์ว่า คนที่คิดถึงประชาชนเป็นหลักก่อนนั้น
เขาทำงานกันอย่างไร
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า
ช่วง 2-3 วันที่ผ่านมามีข่าวว่าประชาชนเรียกร้องให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)
ทบทวนกฎเหล็ก 180 วัน พร้อมกับแสดงความต้องการที่จะให้ส.ส.เข้าช่วยเหลือด้วย
นายวรวัจน์ กล่าวว่า เราเห็นว่า ทาง กกต. ควรทบทวนเช่นกัน เอาเข้าจริง ๆ
แล้วมาทบทวนเอาตอนนี้ก็เกือบจะไม่ทันแล้ว การป้องกันไม่สามารถทำได้ก่อน
ขณะนี้เหลือเพียงช่วยเหลือเรื่องของอาหารและสิ่งของจำเป็นแต่ก็ยังไม่เห็นรัฐบาลเข้าไปดำเนินการใด
ๆ ขณะที่ท้องถิ่นเองก็ไม่ได้มีงบประมาณและมีศักยภาพเพียงพอที่จะดูแลในส่วนนี้
หากมีการผ่อนปรนระเบียบตรงนี้ไม่ได้ทำให้ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งได้เปรียบ
แต่ทุกพรรคสามารถดำเนินการได้อย่างเท่าเทียมกันหมด
การที่กกต.เข้มงวดกับฝ่ายการเมืองในภาวะวิกฤต ก็ยังไม่ได้เห็นภาพว่ารัฐบาลลงไปช่วยเหลืออะไรประชาชนอยู่ดีสุดท้าย
อยากให้ กกต.ดูว่า ในกรณีที่เกิดภัยพิบัติ
หรืออุทกภัยลักษณะนี้ฝ่ายการเมืองจะสามารถดำเนินการช่วยเหลือประชาชนในช่องทางใดได้บ้าง
โดย กกต.เขียนออกมาเป็นข้อยกเว้น หรือข้อกำหนดเลยก็ได้ว่าให้ทำอะไรได้บ้าง
เพื่อผ่อนคลายกรอบการให้ความช่วยเหลือประชาชน ซึ่งอาจจะไม่ใช่การแจกของก็ได้
#UDDnews #ยูดีดีนิวส์ #เพื่อไทย #น้ำท่วม