แอมเนสตี้ฯ ร่วมครย. และมูลนิธิผสานวัฒนธรรม จัดเสวนาวันผู้สูญหายสากล "คนต้องไม่หาย ออกกฎหมายต้องเป็นธรรม" จุดเทียนรำลึกถึงผู้สูญหายและการถูกละเมิดสิทธิมนุษยชน จี้ผลักดันกฎหมาย เพื่อคืนความยุติธรรมให้ครอบครัวผู้สูญหาย
วันนี้ (27 ส.ค. 65) ที่ อนุสรณ์สถาน 14 ตุลา แยกคอกวัว แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย ร่วมกับ มูลนิธิผสานวัฒนธรรม และ คณะราษฎรยกเลิก 112 หรือ ครย. จัดกิจกรรมเนื่องในวันผู้สูญหายสากล ที่จะมีขึ้นในวันที่ 30 สิงหาคม ของทุกปี
.
16.00 น. ที่ห้องประชุม อนุสรณ์สถาน 14 ตุลา เริ่มต้นด้วย ปาฐกถาโดย อังคณา นีละไพจิตร คณะทำงานด้านการบังคับสูญหายโดยไม่สมัครใจของสหประชาชาติ UNWGEID
ตามด้วยวงเสวนา “คนต้องไม่หาย ออกกฏหมายต้องเป็นธรรม” ณ ห้องประชุมอนุสรณ์สถาน 14 ตุลา โดย ส.ส.เบญจา แสงจันทร์, สมยศ พฤกษาเกษมสุข, อัญชนา หีมมีหน๊ะ, ป้าน้อย ภรรยาของ 'สุรชัย แซ่ด่าน' ดำเนินรายการโดย อานนท์ ชวาลาวัณย์ จาก ilaw
ด้านสมยศ ได้เปิดวิดิโอบอกเล่าความรู้สึกของผู้ลี้ภัย พร้อมภาพร่างกลุ่มผู้ลี้ภัยที่ถูกอุ้มหาย รวมถึงภาพต่าง ๆ ที่ระบุว่าสามารถใช้เป็นหลักฐาน ในการอุ้มหายของผู้ลี้ภัย
พร้อมทั้งกล่าวว่า ลักษณะการอุ้มฆ่าแล้วถ่วงน้ำเกิดตั้งแต่สมัยเผ่า ศรีนานนท์ ซึ่งเหมือนกับกรณีของ 3 ศพที่พบที่แม่น้ำโขง 3 ศพนี้คือผู้ลี้ภัยทางการเมืองที่สูญหายไปที่ลาวในวันที่ 13 ธันวา และเป็นช่วงเวลาเดียวที่ประยุทธ์ไปร่วมประชุมที่ลาวช่วงเดียวกัน
ขณะที่ เบญจา แสงจันทร์ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล ระบุถึง พรบ.ทรมานอุ้มหายฉบับที่ผ่านสภาฯ นี้ อาจไม่ใช่ยาวิเศษทั้งหมด แต่เป็นยาที่ช่วยเยียวยารักษาสำหรับผู้เสียหาย และทำให้เกิดความยุติธรรมในอนาคต การให้ผ่านสภาเป็นชัยชนะยกแรกเท่านั้น เราจะแก้ต้องแก้ที่กระบวนการยุติธรรมทั้งหมด และเราจะต้องสู้ต่อ
สังคมแบบไหนกันที่ปล่อยให้เกิดการทรมานอุ้มหาย ปล่อยให้ผู้ถูกกระทำกับผู้เสียหายต้องสู้โดยลำพังต่อสู้กับอำนาจรัฐอิทธิพลที่มองไม่เห็นจากเจ้าหน้าที่รัฐ แล้วเราต่างทนมองหน้าเพื่อนร่วมชาติ เราทนมองหน้าเพื่อนมนุษย์ ผู้หญิง เด็ก ที่อยู่กับความหวาดกลัวได้อย่างไร ส.ส.เบนจากล่าว
ด้านปราณี ด่านวัฒนานุสรณ์ หรือป้าน้อยภรรยา สุรชัย แซ่ด่าน กล่าวถึง นายสุรชัยได้ลี้ภัยทางการเมือง ในช่วงที่เกิดการรัฐประหาร 2557 ก่อนที่จะหายตัวไป และได้พบศพปริศนา 2 ศพ ที่ลอยมาตามแม่น้ำโขง ในจังหวัดนครพนม โดยได้ระบุถึง วิธีที่ดำเนินการในการตามหา นายสุรชัย และการเสียค่าปรับให้กับศาลจังหวัดพัทยา ในกรณีที่นายสุรชัย ไม่ได้มาศาลจากคดีล้มประชุมอาเซียนในปี 2552 โดยจะต้องผ่อนให้ศาลเดือนละ 3 พันบาท โดยได้ฝากไปถึงรัฐบาลที่เป็นประชาธิปไตยว่า อยากให้ปรับเปลี่ยนเรื่องของเงินประกันต่อผู้ที่ลี้ภัยที่ไม่ได้กระทำผิด แต่ไม่สามารถมาศาลได้ และดำเนินการกับเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการบังคับสูญหาย
เราต้องสู้เพื่อความเป็นธรรมเพราะรัฐบาลนี้ไม่มีความจริงใจในการสืบสวนสอบสวน ป้าน้อยกล่าวทิ้งท้าย
อัญชนา หีมมิหน๊ะ ประธานกลุ่มด้วยใจ กล่าวถึง ที่สามจังหวัด มีคำพูดของแม่ที่ออกมาเรียกร้องเพื่อลูกที่สูญหายไป เขาบอกว่า ขอให้ได้รับรู้ว่าเขาเสียชีวิตอย่างไร อยากได้ข้าวของของเขากลับมา และเพื่อนำตัวเขามาทำพิธีทางศาสนา"
ทั้งนี้กัญญา ธีรวุฒิ มารดาของสยาม ธีรวุฒิ ได้กล่าวว่า "แค่การที่ลูกชายไปเล่นละครเจ้าสาวมหาป่า ทำให้เค้าต้องโดนอุ้มหายเลยเหรอ ... เล่นละครมันไปทำให้ใครเจ็บปวดขนาดไหนแม่ไม่รู้ แต่ที่แม่รู้คือลูกแม่ถูกอุ้มหาย"
จากนั้น กลุ่มผู้จัดฯได้ย้ายออกมาจัดกิจกรรมต่อที่อนุสรณ์สถาน 14 ตุลา โดยเริ่มด้วยการแสดงจาก "มิ้นท์ นาดสินปฏิวัติ" "คืนความยุติธรรมในเพื่อนเรา"
ต่อมา ขบวนแห่เทียนพร้อมรูปและรายชื่อผู้สูญหายเดินเท้ามาถึงยังอนุสรณ์สถาน 14 ตุลา จากนั้นได้เปิดเพลงนักสู้ธุลีดิน จุดเทียนและกล่าวรำลึกถึงผู้สูญหาย
ปิดท้ายด้วย ธิษะณา ชุณหะวัณ หรือ แก้วตา ได้กล่าวรำลึกผู้สูญหายตั้งแต่ในอดีต และจบกิจกรรมในเวลา 19.15 น.
#วันผู้สูญหายสากล #ยูดีดีนิวส์ #UDDnews