ผู้ว่าฯ
ชัชชาติ สร้างแรงบันดาลใจให้เด็กบดินทรเดชา บอกเล่าประสบการณ์ 5 ข้อ
เชื่อชีวิตเปลี่ยนได้ เพราะตัวเราเอง
วันที่
20 ส.ค. 2565 นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์
ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ร่วมเป็นวิทยากร ในพิธีเปิดการประชุมสัมมนาผู้ปกครองและนักเรียนระดับมัธยมศึกษา
ปีที่ 3 เรื่อง "กระตุ้นความคิด ต่อยอดความฝัน"
โดยมี นายอนุรักษ์ เลิศวัฒนาไพบูลย์ ส.ก.เขตวังทองหลาง น.ส.อัญชนา บุญสุยา
ผู้อำนวยการเขตวังทองหลาง นายสุพัฒน์ อัตจริต รองผู้อำนวยการโรงเรียน
กลุ่มบริหารงานบุคคล คณะครู นักเรียน และผู้ปกครอง ร่วมรับฟังการบรรยาย ณ
หอประชุมบดินทรพิพัฒน์ โรงเรียนบดินทรเดชา (สิงห์ สิงหเสนี) เขตวังทองหลาง
•
สิ่งสำคัญที่ทุกคนมีเท่ากัน คือ เวลา
ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร
กล่าวว่า หัวใจของการประสบความสำเร็จในชีวิต ส่วนหนึ่งคือการบริหารเวลา
ที่เรามีเท่ากันทุกคนอย่างไร ซึ่งความแตกต่างในชีวิตมาจากการบริหารเวลา
โดยยกตัวอย่างเรื่องโถแห่งชีวิต (jar of life) ชีวิตของคนเราทุกคนเหมือนโถแก้วว่างเปล่า
1 ใบ หน้าที่ของเราคือจะต้องนำสิ่งของ 3 สิ่งใส่ลงไป ได้แก่ หินก้อนใหญ่ แทนสิ่งที่สำคัญที่สุดในชีวิต กรวด
แทนสิ่งที่สำคัญรองลงมา และทราย แทนสิ่งที่ไม่สำคัญในชีวิต
ถ้าเราใส่ทรายลงไปในโถแก้วก่อน แล้วค่อยใส่กรวดและหิน
เราอาจไม่มีที่ว่างเหลือสำหรับหิน แต่ถ้าเราใส่หินก่อน ตามด้วยกรวดและทราย
กรวดจะแทรกตามช่องว่างของหินและทรายแทรกลงในช่องว่างที่เหลือ
ดังนั้นเราต้องกำหนดว่าอะไรคือสิ่งสำคัญในชีวิต
และจัดลำดับความสำคัญก่อนหรือหลังให้ดี ต้องจัดความสมดุลให้กับชีวิต
และรู้จักแบ่งเวลาให้ดี
"ชีวิตเราก็คือ เวลา ถ้าชีวิตมีค่ามหาศาล
เวลาแต่ละวินาทีก็มีค่ามหาศาลเหมือนกัน
เพราะฉะนั้นอย่าให้เวลาผ่านไปโดยไม่มีประโยชน์" ผู้ว่าฯ ชัชชาติ กล่าว
•
ระเบียบวินัยทำให้เรามีอิสระในการเลือกทางเดินในชีวิต
ต่อมาเป็นเรื่องการมีวินัยในชีวิต
โดยสร้างวินัยในตนเอง จัดสรรเวลาในชีวิตให้ดี ดังคำกล่าวของ Eliud Kipchoke นักวิ่งชาวเคนย่า ซึ่งได้กล่าวไว้ว่า “คนที่มีระเบียบวินัยในตัวเอง
เท่านั้นถึงจะมีอิสระในชีวิต” ถ้าไม่มีระเบียบวินัยเราจะต้องเป็นทาสของอารมณ์และความรู้สึก
•
เอาใจเขามาใส่ใจเรา
จากนั้น
ได้ให้ข้อคิดว่า ปัญหาของโลก คือ เราเอาตัวเองเป็นที่ตั้ง
ไม่ได้คิดถึงคนอื่นไม่ได้คิดถึงสาธารณะ ซึ่งส่วนใหญ่ค่านิยมจะเน้นที่ตัวเอง (Self) การจะประสบความสำเร็จในอนาคตได้
ต้องคิดถึงคนอื่นด้วย คือ มีความเข้าอกเข้าใจ (Empathy) เอาใจเขามาใส่ใจเรา
อย่าเอาตนเองเป็นที่ตั้ง ความสุขจะเกิดขึ้นได้
เมื่อเรามีความเข้าใจความรู้สึกของผู้อื่น
ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญที่ทำให้เรามีอนาคตที่ดีขึ้นได้ด้วย
•
เคารพความคิดเห็นของคนอื่น
ต่อมาได้บรรยายถึงปัญหาที่เจอในสังคม
คือ การรีบตัดสินคนจากสิ่งที่เราเห็น เพราะเราไม่รู้ว่าชีวิตเขาผ่านอะไรมาบ้าง
เรื่องราวในชีวิตคนทุกคนล้วนมีเบื้องหลัง อย่าวิจารณ์ด่าคนอื่น
ถ้าอยากชนะใจเพื่อนต้องหาจุดร่วม เปรียบเหมือนการเต้นรำเป็นจังหวะเดินไปด้วยกัน
ไม่ใช่การฟันดาบที่ค่อย ๆ ขยับ สังเกตว่าเพื่อนต้องการอะไร หาข้อดีของเพื่อน
ชื่นชมเพื่อน รอยยิ้มคือสิ่งที่สร้างไมตรีจิตได้ ฟังเพื่อนให้เยอะ ๆ
แล้วเราจะมีเพื่อนมากขึ้น และมีศัตรูน้อยลง
•
Growth Mindset เราเป็นเจ้านายของชะตาชีวิต
เรื่องสุดท้ายคือ
ความฝัน จะตามความฝันเป็นเรื่องที่ใจและความคิด เพราะจิตเป็นนายกายเป็นบ่าว
ต้องสร้าง Mindset
เชื่อว่าความฉลาดไม่สำคัญเท่ากับความขยันและความพยายาม
เคยอ่านหนังสือของ Carol S. Dweck ซึ่งได้กล่าวไว้ว่า Mindset
(กรอบความคิด) ประกอบด้วย Fixed Mindset และ Growth
Mindset โดย Fixed Mindset คือความเชื่อว่าคนเราเก่งมาแต่กำเนิด
คนกลุ่มนี้มักเชื่อว่าความฉลาดเป็นเรื่องพรสวรรค์ ปรับปรุงไม่ได้
ซึ่งเป็นกรอบที่ยึดติด ขณะที่ Growth Mindset เชื่อว่าทุกอย่างความสามารถปรับปรุงและพัฒนาได้
"เราควรที่จะมี Growth Mindset เชื่อในความพยายาม
ซึ่งจะมีความสำคัญในระยะยาวและมีผลกับความสำเร็จในชีวิต
อย่าคิดว่าโชคชะตากำหนดชะตาชีวิต เพราะเราจะเป็นผู้กำหนดชะตาชีวิตของเราเอง"
ผู้ว่าฯ ชัชชาติ กล่าวในช่วงท้ายของการบรรยาย
สำหรับการประชุมสัมมนาผู้ปกครองและนักเรียนระดับมัธยมศึกษา
ปีที่ 3 ในวันนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างแรงบันดาลใจในการเรียนต่อ อันนำไปสู่การวางแผนการศึกษาต่อ
และประกอบอาชีพ ตลอดจนการพัฒนาด้านความฉลาดทางอารมณ์ (EQ) ความฉลาดทางคุณธรรมและจริยธรรม
(MQ) และความฉลาดทางสังคม (SQ) ในยุคดิจิทัล
โดยมี ดร.กุลชาติ จุลเพ็ญ อาจารย์ประจำคณะวิศวกรรมศาสตร์
มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี ร่วมเป็นวิทยากรบรรยายด้วย
ที่มา : กรุงเทพมหานคร
โดยสำนักงานประชาสัมพันธ์
#UDDnews
#ยูดีดีนิวส์ #ชัชชาติสิทธิพันธุ์ #ผู้ว่าฯกทม