“ณัฐวุฒิ”
ตอกกลับโฆษกรบ. บอกนิรโทษกรรมมันจบแล้ว ชี้เป็นทฤษฎีสมคบคิดคนนอก-ในวงการเมือง อ้างรัฐประหารเป็นทางออกประเทศ
แนะ “ประยุทธ์” ถามใจตัวเอง อยู่หรือไป ลั่นประเทศไทยขาดพล.อ.ประยุทธ์ได้แต่
พล.อ.ประยุทธ์ขาดอำนาจไม่ได้
14
ส.ค. 2565 นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวก่อนขึ้นเวทีเสวนา
กล่าวถึงกรณีที่นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
ออกแถลงว่านายณัฐวุฒิควรโทษตนเอง
หลังจากที่นายณัฐวุฒิโพสต์ข้อความวิพากษ์วิจารณ์การดำรงตำแหน่งของพลเอกประยุทธ์
จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี 8 ปี
โดยนายณัฐวุฒิ
กล่าวว่าไม่มีเหตุการณ์อะไรที่เอามาอ้างไม่ให้พลเอกประยุทธ์รัฐประหารได้
ในประเทศที่บอกว่าปกครองโดยระบอบประชาธิปไตย การมีพ.ร.บ.นิรโทษกรรมและถูกประชาชนต่อต้านโดยเป็นการไม่ยอมรับของประชาชนกลุ่มหนึ่งมันจบไปแล้ว
ตั้งแต่นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีประกาศยุบสภา
คืนอำนาจให้กับประชาชน แต่กระบวนการที่เกิดขึ้นหลังจากนั้น
ทั้งการบอยคอตการเลือกตั้ง การขัดขวางการสมัครรับเลือกตั้ง รวมถึงอีกหลาย ๆ วิธีการ
เป็นการจงใจให้เกิดรัฐประหารขึ้น เป็นการฉายหนังซ้ำเรื่องเดิม
ขั้นตอนเดิมกับการรัฐประหารปี 2549
ดังนั้นสิ่งที่นำพาประเทศไทยมาถึงวันนี้เป็นการสมคบคิดกันระหว่างคนกลุ่มหนึ่งที่อยู่ทั้งในและนอกระบบการเมือง
แล้วเอาการรัฐประหารอ้างว่าเป็นวิธีการแก้ปัญหาความขัดแย้งในสังคมไทย
ซึ่งที่จริงแล้วมองว่าเป็นทางที่ซ้ำเติมปัญหา เห็นได้จากระยะเวลา 10
กว่าปีรัฐประหารไป 2 ครั้งไม่ได้ทำอะไรดีขึ้น
นายณัฐวุฒิ
ย้ำว่าพลเอกประยุทธ์มีเวลาถึง 8 ปีเต็มในการแก้ปัญหาตามที่ได้ประกาศไว้หลังจากยึดอำนาจ
แต่สุดท้ายเมื่อไปถามมีแต่ชาวบ้านไม่อยากให้ไปต่อ ดังนั้น เมื่อถึงวันที่ 23
สิงหาคม ครบวาระการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของพลเอกประยุทธ์ หากไปถามศาลรัฐธรรมนูญ
ก็ยังมีข้อถกเถียงกันอยู่ เพราะตัวบทกฎหมายแต่ละคนอธิบายไม่เหมือนกัน
หรือบางคนตั้งใจตะแบงช่วยก็เห็นกันอยู่ ตนอยากให้พลเอกประยุทธ์ถามใจตัวเองว่าเป็นนายกรัฐมนตรีมาแล้วกี่ปีแล้ว
หาคำตอบกับตัวเองว่าจำนวน 8 ปีที่อยู่มา ได้แก้ปัญหาอะไรได้ตามที่พูดไว้หรือไม่
“อยากให้พลเอกประยุทธ์ถามใจตัวเองว่าท่านเป็นนายกฯ
มาแล้วกี่ปี แล้วหาคำตอบกับตัวเองว่าจำนวน 8 ปีที่ท่านอยู่มา
ได้แก้ปัญหาอะไรได้ตามที่พูดไว้หรือไม่ เศรษฐกิจเป็นอย่างไร
ความเป็นอยู่ของประชาชนเป็นอย่างไร ปฏิรูปประเทศ
ปฏิรูปการเมืองที่หลายฝ่ายเรียกร้อง มันเป็นรูปธรรมหรือไม่
วันนี้ถ้าพลเอกประยุทธ์ไม่รู้จักประชาชน หรือถึงขั้นไม่รู้จักตัวเอง
ก็ควรจะรู้จักพอ แล้วก็ลงจากอำนาจเสีย ประเทศไทยขาดพลเอกประยุทธ์ได้
แล้วก็ไปต่อได้แน่นอน แต่ดูเหมือนว่าตอนนี้พลเอกประยุทธ์จะขาดอำนาจไม่ได้”
เมื่อถามว่าหากศาลวินิจฉัย
ไม่ว่าจะออกมาทางไหนจะเป็นชนวนเหตุทางการเมือง มองอย่างไร นายณัฐวุฒิ ตอบว่า
ถ้ามีคำวินิจฉัยให้พลเอกประยุทธ์พ้นจากอำนาจ จะไม่มีชนวนความขัดแย้งอะไรเลย
อาจจะมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์บ้าง แต่เชื่อว่าเป็นสิ่งที่ชอบด้วยกฎหมาย
ในทางกลับกันถ้าหากอยู่ต่อจะเป็นชนวนเหตุที่ทำให้บานปลาย พลเอกประยุทธ์ควรเสียสละให้กับประเทศตามที่ได้พูดหรือบ่นไว้
“ท่านบ่นมาตลอดว่าไม่อยากมาบ่น
ถ้าเหนื่อยแล้วบ่นว่าที่ทำทั้งหมดท่านเสียสละก็ ควรจะเสียสละเพื่อบ้านเพื่อเมืองอีกครั้งในการลงจากอำนาจเสีย
แล้วก็ให้พี่น้องประชาชนคนไทยส่วนใหญ่เค้าตัดสินใจในการเลือกตั้ง”
ส่วนความเป็นไปได้ที่ประชาชนจะลงถนนหรือออกมาเคลื่อนไหว
นายณัฐวุฒิ เชื่อว่า
คงมีหลายฝ่ายที่ไม่เห็นด้วยเพียงแต่คำวินิจฉัยของศาลยังไม่เกิดขึ้น
ตนไม่อยากวิพากษ์วิจารณ์ไปก่อนล่วงหน้า
แต่ในทัศนคติส่วนตัวมองว่าพลเอกประยุทธ์ควรจบได้แล้ว และจะเป็นคุณูปการอย่างยิ่งสำหรับประเทศไทยหากตัดสินใจลงจากอำนาจ
#UDDnews
#ยูดีดีนิวส์ #2ปีWevolunteer
#Wevo #Wevolunteer