วันพุธที่ 3 สิงหาคม พ.ศ. 2565

ศาลอาญาธนบุรี ยกคำร้องถอนประกัน "มิ้นท์ นาดสินปฏิวัติ" คดี 112 เหตุปราศรัย "ใครฆ่าพระเจ้าตาก" ให้ประกันในชั้นพิจารณา เพิ่มหลักทรัพย์เป็น 3 แสน เจ้าตัวเผยจะทำกิจกรรมต่อไป แต่จะระวังให้สอดคล้องเงื่อนไข เรื่องเร่งด่วนคือเรียกร้องสิทธิประกันตัว "บุ้ง-ใบปอ" และนักโทษการเมืองทุกคน

 


ศาลอาญาธนบุรี ยกคำร้องถอนประกัน "มิ้นท์ นาดสินปฏิวัติ" คดี 112 เหตุปราศรัย "ใครฆ่าพระเจ้าตาก" ให้ประกันในชั้นพิจารณา เพิ่มหลักทรัพย์เป็น 3 แสน เจ้าตัวเผยจะทำกิจกรรมต่อไป แต่จะระวังให้สอดคล้องเงื่อนไข เรื่องเร่งด่วนคือเรียกร้องสิทธิประกันตัว "บุ้ง-ใบปอ" และนักโทษการเมืองทุกคน

 

วันนี้ (3 ส.ค. 65) เวลา 10.00 น. ที่ศาลอาญาธนบุรี นัดหมายไต่สวนเพิกถอนการปล่อยตัวชั่วคราว "มิ้นท์ กัลยมน" นักกิจกรรมกลุ่ม “นาดสินปฏิวัติ” ผู้ต้องหาในคดีมาตรา 112 จากกรณีร่วมปราศรัยในกิจกรรม “ฟื้นฝอยหาตะเข็บ 240 ปี ใครฆ่าพระเจ้าตาก” ซึ่งจัดโดยกลุ่มโมกหลวงริมน้ำ เมื่อวันที่ 6 เม.ย. 2565 บริเวณอนุสาวรีย์พระเจ้าตากสิน วงเวียนใหญ่

 

ต่อมา 12.30 น. ศาลพิเคราะห์ว่าคำร้องที่พนักงานสอบสวน สน.บุปผาราม ยื่นถอนประกัน "มินท์" ในชั้นสอบสวน ได้สิ้นสุดสัญญาประกัน และอัยการได้สั่งฟ้องคดีแล้ว ไม่มีเหตุให้ศาลต้องไต่สวนคำร้องขอเพิกถอน จึงให้ยกคำร้อง

 

ทำให้ทนายได้ทำเรื่องขอประกันตัวต่อไปเพื่อสู้ในชั้นศาล

 

ต่อมาศาลอนุญาตให้ประกันตัว "มินท์" ในชั้นพิจารณาโดยเรียกหลักประกันเพิ่มอีก 100,000 บาท รวมเป็น 300,000 บาท กำหนดเงื่อนไขเดิมเช่นเดียวกับที่ได้ประกันในชั้นสอบสวน

 

กระทั่งเวลา 16.30 น. "มิ้น" ได้เดินออกมาหน้าศาลเพื่อให้สัมภาษณ์ ระบุว่า คำร้องขอถอนประกันของตำรวจไม่สามารถร้องถอนประกันได้แล้ว เนื่องจากเรื่องไปถึงอัยการแล้ว แต่ในกรณีที่ถูกร้องถอนประกันนั้น ศาลก็จะนำไปพิจารณาต่อว่าจะได้รับการประกันตัวต่อหรือไม่

 

"มิ้นท์" กล่าวต่อไปอีกว่า ขอบคุณศาลที่ให้ความเป็นธรรม ในเรื่องการทำกิจกรรมต่าง ๆ ศาลไม่ได้ห้าม แต่กำชับให้นึกถึงเงื่อนไขที่มีการตกลงไว้กับศาล และไม่ให้กระทำซ้ำในประเด็นต่าง ๆ ทั้งนี้ ในครั้งนี้ศาลได้มีการเพิ่มในส่วนของหลักประกัน อีก 100,000 บาท จากของเดิมประกันด้วยหลักทรัพย์เป็นเงินสดจำนวน 200,000 บาท รวมเป็น 300,000 บาท ส่วนเงื่อนไขยังคงเดิมไม่ได้เพิ่มเติมจากครั้งที่แล้ว ซึ่งได้แก่ ห้ามกระทำการในลักษณะที่ถูกกล่าวหาอีกหรือกระทำการอันเสื่อมเสียต่อสถาบันพระมหากษัตริย์, ห้ามเข้าร่วมกิจกรรมที่ก่อความวุ่นวายในบ้านเมือง และห้ามเดินทางออกนอกราชอาณาจักร

 

ซึ่งตนก็คงจะมีการเคลื่อนไหวในการทำกิจกรรมต่อไป แต่ต้องคำนึงและให้สอดคล้องกับเงื่อนไข ซึ่งก็จะระวังตัวให้มากขึ้น เพื่อไม่ให้นำมาเป็นประเด็นในการที่จะยื่นถอนประกันอีก

 

สำหรับการเคลื่อนไหวในช่วงนี้ "มิ้นท์" กล่าวว่าจะเน้นไปที่การเรียกร้องสิทธิประกันตัว "บุ้ง-ใบปอ", ทะลุแก๊ส, ทะลุฟ้า และนักโทษการเมืองทุกคน ซึ่งรายล่าสุดคือ "ไบร์ท ชินวัตร" ซึ่งเป็นสิทธิในการที่เราจะออกมาเรียกร้องได้ ปัญหาไม่ได้อยู่ที่ผู้เรียกร้อง แต่ปัญหาอยู่ที่ตำรวจ ตำรวจจะไม่สบายใจ มีความระแวงต่อนักกิจกรรม ซึ่งแค่ชูป้ายยกเลิก 112 ตำรวจก็ไปร้องถอนประกันเราแล้ว ซึ่ง "มิ้นท์" เชื่อว่าการออกไปรณรงค์ย่อมทำได้และทำได้ในทุกพื้นที่ ถ้าเราบอกว่าประเทศเราปกครองในระบอบประชาธิปไตย

 

และตอนนี้สภาวะ "บุ้ง-ใบปอ" เป็นสภาวะที่เร่งด่วน ซึ่งตนได้กล่าวกับศาลว่า เรื่องนี้ทำให้ตนหยุดเคลื่อนไหวไม่ได้ เพราะทั้งสองอาการไม่สู้ดีนัก รอเวลาไม่ได้แล้ว แต่ก็ได้ยืนยันกับศาลว่าจะระมัดระวังตัวขึ้น ซึ่งศาลก็แจ้งว่าไม่ได้ห้ามเลยที่จำเลยจะไปรณรงค์ยกเลิกมาตรา 112 แต่ข้อความที่หมิ่นเหม่ที่กระทบต่อสถาบัน ศาลกำชับว่าไม่อยากให้เกิดขึ้น ศาลกล่าวว่าอยากให้ตนได้สู้คดีอยู่ด้านนอก เพราะการอยู่ข้างในจะมีความยากลำบากในการต่อสู้คดี

 

ดังนั้นสิ่งที่จะเรียกร้องไม่ใช่แค่สิทธิประกันตัวให้กับ “บุ้ง-ใบปอ” แต่คือนักโทษการเมืองทุกคน ให้ทุกคนได้รับสิทธิการประกันตัวออกมาสู้คดีด้านนอก ซึ่งมิ้นท์ย้ำว่า ตอนนี้ “ใบปอ” มีค่าเลือดต่ำและ “บุ้ง” มีอาการเจ็บที่หัวใจ มันเป็นขั้นวิกฤตซึ่งทำให้ตนหยุดเคลื่อนไหวไม่ได้

 

ช่วงท้าย"มิ้นท์"ได้แจ้งว่า 8 สิงหาคมนี้ เป็นวันคล้ายวันเกิดของ"บุ้ง เนติพร" ซึ่งก็จะจัดกิจกรรมเพื่อร่วมอวยพรวันเกิด "บุ้ง" ที่หน้าเรือนจำกลางคลองเปรม ส่วนเวลานัดหมายโปรดติดตามรายละเอียดอีกครั้งหนึ่ง และฝากพี่น้องประชาชนช่วยจับตาและเฝ้าระวังการปักหลักของพี่น้องที่อยู่หน้าศาลอาญากรุงเทพฯใต้ เกรงจะถูกเจ้าหน้าที่สลาย และขอขอบคุณทุกกำลังใจที่มอบให้ตน จะไม่หยุดสู้แน่นอน มิ้นท์กล่าวในที่สุด

 

#UDDnews #ยูดีดีนิวส์ #นาดสินปฏิวัติ