เปิดแถลงการณ์
ม็อบ10สิงหา65 #10สิงหาประชาธิปไตยต้องไปต่อ
แถลงการณ์
10 สิงหาประชาธิปไตยต้องไปต่อ
นับตั้งแต่การเคลื่อนไหวของขบวนการศึกษา
ในช่วง 14 ตุลา 2516 การเคลื่อนไหวในช่วง 6 ตุลาคม 2519
เรื่อยมาจนกระทั่งการเคลื่อนไหวต่อต้านการรัฐประหารของ คสช.
รวมไปถึงการเคลื่อนไหวเรียกร้องประชาธิปไตยในหมู่นักเรียน นิสิต นักศึกษา
และประชาชน ในปี 2563 การต่อสู้เหล่านี้
แม้บ่อยครั้งจะเริ่มต้นขึ้นในพื้นที่มหาวิทยาลัย แต่ถึงที่สุด
ผลลัพธ์แห่งการต่อสู้ของนิสิตนักศึกษาได้ส่งผลสะเทือนออกไปในวงกว้าง
ความเปลี่ยนแปลงทางสังคมคือผลลัพธ์ที่ก่อตัวขึ้น มันคือความจริงที่ไม่อาจถูกปฏิเสธ
นักเรียน นิสิต นักศึกษา พวกเขาคือส่วนหนึ่งของสังคม
และดอกผลแห่งการต่อสู้ของพวกเขา คือหนึ่งในแรงสนับสนุนรากฐานของสังคมประชาธิปไตย
ย้อนกลับไปในวันที่
10 สิงหาคม 2563 ณ ที่แห่งนี้
จิตวิญญาณแห่งนิสิตนักศึกษาได้ถูกปลุกขึ้นอีกครั้งหนึ่ง
พวกเรานักศึกษาและประชาชนได้มารวมตัวกัน ณ ที่แห่งนี้
เพื่อเรียกร้องและใฝ่ฝันถึงอนาคตของสังคมที่ดีกว่า
พวกเราประกาศการต่อสู้ด้วยจิตใจอันบริสุทธิ์ เพื่อหวังจะเห็นสังคมไทยที่ประชาชนเสมอหน้า
และอำนาจอธิปไตยเป็นของประชาชนอย่างแท้จริง จากวันนั้นจนถึงวันนี้ เป็นเวลากว่า 2 ปีแล้ว ที่แนวทางการต่อสู้และข้อเรียกร้องของพวกเรา
ได้ถูกชูขึ้นต่อหน้ารัฐบาล และผู้มีอำนาจที่แท้จริง แน่นอนว่า
ตลอดการต่อสู้ที่ผ่านมา มีความเปลี่ยนแปลงจำนวนมากเกิดขึ้น
แต่ก็ยังมีอีกหลายสิ่งที่ยังคงดำรงอยู่
วันนี้
พวกเรานักศึกษาและประชาชนจึงได้มารวมตัวกัน ณ ที่แห่งนี้อีกครั้ง
เพื่อประกาศเจตจำนง ยึดมั่น และยืนยันใน 3 ข้อเรียกร้อง ซึ่งประกอบด้วย
1)
พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและองคาพยพ ต้องลาออก
2) ร่างรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน
3) ปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ให้อยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญตามระบอบประชาธิปไตย
ภายใต้ช่วงเวลาของการต่อสู้ที่ยาวนาน
แน่นอนว่าความท้อแท้และความเหนื่อยล้า
ย่อมเป็นสิ่งธรรมดาสามัญที่สามารถเกิดขึ้นได้
มันเป็นเรื่องปกติของการต่อสู้ที่ยาวนาน
โดยเฉพาะเมื่อพวกเรากำลังต่อสู้กับโครงสร้างอำนาจที่ใหญ่ที่สุด
และฝังรากลึกอย่างมหาศาลในสังคมไทย แม้มันจะดูเหมือนการเดินทางบนพื้นที่เวิ้งว้างและปราศจากจุดสิ้นสุด
แต่อย่างไรก็ดี พวกเราขอยืนยันว่า ในความเป็นจริงนั้น
ชัยชนะจำนวนมากทั้งที่ถูกพูดถึงและยังไม่ถูกพูดถึงในวันนี้ ทั้งหมดคือข้อยืนยันว่า
พวกเราไม่ได้กำลังเดินอยู่ท่ามกลางความว่างเปล่า แต่พวกเรากำลังมุ่งใกล้เป้าหมาย
พร้อม ๆ กับปักหลักชัยไปตลอดเส้นทางการต่อสู้ของเรา
ทั้งหมดนี่คือข้อยืนยันอย่างเป็นรูปธรรมถึงความสำเร็จในการเคลื่อนไหวเรียกร้องของพวกเรา
แน่นอนว่าความเปลี่ยนแปลงในสังคมประชาธิปไตย
เป็นสิ่งที่ไม่อาจเกิดขึ้นเพียงช่วงระยะเวลาชั่วข้ามคืน และแม้จะมีบางส่วนที่ขบวนการเคลื่อนไหวยังสำเร็จไม่พอ
แต่ในวันนี้ พวกเราขอให้พี่น้องประชาชนทุกท่านลองนึกย้อนกลับไป ถึงวันนี้เมื่อ 2 ปีก่อน
คือวันที่ 10 สิงหาคม 2563
ในช่วงระยะเวลาเพียง 2 ปี
สังคมการเมืองไทยในวันนี้ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไปแล้วความเปลี่ยนแปลงในวันนี้เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างไม่มีวันหวนกลับ
อำนาจทั้งหลายในสังคมถูกตั้งคำถาม ตั้งแต่อำนาจในระดับที่ใกล้ตัวที่สุด
ไปจนกระทั่งอำนาจที่ไม่เคยถูกพูดถึง หรือแม้แต่อำนาจที่ไม่เคยถูกมองว่าเป็นปัญหา
ทุกวันนี้ ผู้คนจำนวนมากออกมาร่วมเรียกร้องและใฝ่ฝันถึงสังคมการเมืองที่ดีกว่า
พวกเราขอยืนยันว่าสังคมการเมืองไทยในปัจจุบันนี้ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป
อย่างไรก็ดี
ในบรรดาความสำเร็จทั้งหลาย
ความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ที่สุดประการหนึ่งของการเคลื่อนไหวต่อสู้
คือความสำเร็จจากการเปลี่ยนแปลงความคิดความเชื่ออของผู้คนในสังคม
ซึ่งสิ่งเหล่านี้คือสิ่งที่กำลังเกิดขึ้น
และผลลัพธ์ของมันได้ผลิดอกออกผลแล้วในสังคมไทย
ภาพสะท้อนที่สำคัญที่สุดคือลลัพธ์จากการเลือกตั้งหลายครั้งที่ผ่านมา
โดยเฉพาะการเลือกตั้งในกรุงเทพมหานคร พวกเราเชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่า
ดอกผลของความเปลี่ยนแปลงนี้ คือชัยชนะที่เกิดขึ้นจริง และมันจะบานสะพรั่งขึ้นอีกครั้ง
ภายใต้การเลือกตั้งระดับชาติที่กำลังจะมาถึง
ดังนั้นแล้ว
ในวันนี้ พวกเราจึงขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนทุกท่าน ให้พิจารณาการเลือกตั้งครั้งนี้
ด้วยมุมมองที่แตกต่างออกไป การเลือกตั้งในครั้งนี้
มิใช่เพียงการออกมาใช้สิทธิ์เลือกผู้แทน หรือการเปลี่ยนแปลงตัวแสดงในสภา
แต่เราขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนทุกท่าน ร่วมกันมองการเลือกตั้งในครั้งนี้
ในฐานะปฏิบัติการทางการเมือง อันเป็นส่วนหนึ่งของการเคลื่อนไหวขนาดใหญ่ที่สุด
ที่ประชาชนผู้รักประชาธิปไตยทุกคนจะออกมารวมพลังพร้อมกัน
เพื่อเป็นประตูบานแรกสู่การอภิวัฒน์ทางสังคมการเมืองอย่างแท้จริง
ดังนั้น
เราจึงขอประกาศหลักคิด 6 ประการ เพื่อเป็นรากฐานแก่ฝ่ายประชาธิปไตย
ในการนำเราสู่ชัยชนะในสนามการต่อสู้ครั้งนี้
1)
การเลือกตั้งในครั้งนี้ ไม่ใช่เพียงการเลือกตั้งทั่วไป
แต่มันคือจุดเปลี่ยนที่สำคัญที่สุดในการเคลื่อนไหวต่อสู้ระลอกปัจจุบัน
2) การเลือกตั้งในครั้งนี้ ไม่ใช่เพียงการออกไปใช้สิทธิ์ใช้เสียงทั่ว ๆ ไป แต่มันคือปฏิบัติการทางการเมืองในการแสดงอำนาจในเชิงจำนวนที่แท้จริงของประชาชนฝ่ายประชาธิปไตย
3) การเลือกตั้งในครั้งนี้ ไม่ใช่เพียงการลงคะแนนนเสียง แต่คือตัวชี้วัดความเปลี่ยนแปลงความคิดความเชื่อโดยรวมทั้งหมดของสังคมการเมืองไทย
4) การเลือกตั้งในครั้งนี้ ไม่ใช่เพียงการเลือกผู้แทน
แต่มันคืออาวุธในการกลับขั้วอำนาจทางการเมืองที่ทรงพลังที่สุด
ซึ่งไม่มีอาวุธใดสามารถทดแทนได้
5) การเลือกตั้งในครั้งนี้ ไม่ใช่เพียงการเลือกตั้ง
แต่เป็นการเปิดโครงสร้างโอกาสทางการเมือง
และเป็นประตูบานแรกสู่การร่างรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับ
6) การเลือกตั้งในครั้งนี้ ไม่ใช่เพียงการเลือกตั้ง
แต่มันคือหนทางเดียวที่จะนำไปสู่การปฏิรูปในทุกองคาพยพขอสังคมอย่างแท้จริง
ดังนั้น
การเลือกตั้งในครั้งนี้ จึงไม่ใช่จุดสิ้นสุดของการต่อสู้ แต่มันคือจุดเริ่มต้น
คือหลักชัยแรกที่พวกเราฝ่ายประชาธิปไตยจำเป็นต้องได้มา
เพื่อให้ความมุ่งหวังของพวกเราในการสร้างสรรค์สังคมแห่งประชาธิปไตย
ซึ่งประชาชนทุกคนมี สิทธิ เสรีภาพ และความเสมอภาค สามารถเกิดขึ้นได้จริงบนแผ่นดินแห่งนี้
#UDDnews
#ยูดีดีนิวส์ #ม็อบ10สิงหา65
#10สิงหาประชาธิปไตยต้องไปต่อ