วันอังคารที่ 9 สิงหาคม พ.ศ. 2565

ศาลแขวงสระบุรี ยกฟ้อง ฝ่าฝืนพ.ร.ก.ฉุกเฉิน “ไหม ธนพร” และ “มายด์ ภัสราวลี” คดีคาร์ม็อบสระบุรี สั่งปรับข้อหาเครื่องเสียง คนละ 150 บาท

 


ศาลแขวงสระบุรี ยกฟ้อง ฝ่าฝืนพ.ร.ก.ฉุกเฉิน “ไหม ธนพร” และ “มายด์ ภัสราวลี” คดีคาร์ม็อบสระบุรี สั่งปรับข้อหาเครื่องเสียง คนละ 150 บาท

 

วันที่ 9 สิงหาคม 2565 ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน รายงานว่า ศาลแขวงสระบุรียกฟ้องคดี คาร์ม็อบสระบุรี ของ "ไหม ธนพร-มายด์ ภัสราวลี" ในข้อหา ฝ่าฝืนพ.ร.ก.ฉุกเฉิน แต่ปรับข้อหาเครื่องเสียงคนละ 150 บาท

 

โดยศาลพิเคราะห์ว่า ในข้อหาฝ่าฝืนพ.ร.ก.ฉุกเฉิน จำเลยไม่ได้เป็นผู้จัดการชุมนุม เพียงปราศรัยโจมตีการทำงานของรัฐบาลเท่านั้น อีกทั้งขณะปราศรัยยังอยู่ในพื้นที่เปิดโล่ง-ไม่แออัด-ใส่หน้ากากอนามัยตลอดการปราศรัย ทั้งรายงานการสืบสวนของโจทก์ก็มีภาพจำเลยทั้งสองสวมใส่หน้ากากตลอด

 

ส่วนในข้อหา พ.ร.บ.เครื่องขยายเสียง ศาลพิเคราะห์ว่า แม้จำเลยทั้งสองจะไม่ใช่ผู้จัดการชุมนุมก็ตาม แต่ตามบทกฎหมายที่บัญญัติไว้ มีบทลงโทษแก่ผู้ที่โฆษณาโดยใช้เครื่องขยายเสียง ศาลจึงปรับจำเลยทั้งสองคนละ 200บาท เนื่องจากให้การเป็นประโยชน์อยู่บ้าง จึงลดโทษ1 ใน 4 เหลือคนละ 150 บาท

 

คดีนี้สืบเนื่องมาจากการเข้าร่วมในกิจกรรมคาร์ม็อบเมื่อวันที่ 1 ส.ค. 64 ซึ่งราษฎรสระบุรีได้นัดรวมพลที่ใต้สะพานข้ามแยกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสระบุรี เวลา 15.00 น. เพื่อร่วมชุมนุม #ม็อบ1สิงหา หรือ #Carmob จุดประสงค์คือเพื่อเรียกร้องและต่อต้านการบริหารงานของรัฐบาล รวมทั้งการจัดสรรวัคซีนป้องกันไวรัสโควิด-19 หลังกิจกรรม พ.ต.ต.ยศธเดช สุขเทียบ ได้แจ้งความกล่าวหาทั้งสองคน

 

กิจกรรมคาร์ม็อบสระบุรี เมื่อวันที่ 1 ส.ค. 64 นั้น จัดขึ้นพร้อมอีกกว่า 30 จังหวัด ทั่วประเทศ ภายใต้สโลแกน “1 สิงหา คาร์ม็อบทั่วไทย ขับไล่ประยุทธ์ จันทร์โอชา” นอกจากนี้ ในจังหวัดต่างๆ ยังจัดกิจกรรมในรูปแบบดังกล่าว อีกหลายต่อหลายครั้งตั้งแต่เดือนกรกฎาคมเป็นต้นมา เพื่อแสดงออกถึงความไม่พอใจต่อการบริหารงานที่ล้มเหลวของรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ โดยเฉพาะในสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด

 

#UDDnews #ยูดีดีนิวส์ #TLHR #ม็อบ1สิงหา64