วันศุกร์ที่ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2563

"ดาวดิน สามัญชน" ในนามกลุ่ม #เราคือเพื่อนกัน จัดกิจกรรม #นอนแคมป์ไม่นอนคุก ณ อนุสรณ์สถาน 14 ตุลา ร่วมอ่าน #คำประกาศของราษฎร 5 ข้อเรียกร้อง ก่อนนัดชุมนุมใหญ่ 19 กันยา มธ.ท่าพระจันทร์


"ดาวดิน สามัญชน" ในนามกลุ่ม #เราคือเพื่อนกัน จัดกิจกรรม #นอนแคมป์ไม่นอนคุก ณ อนุสรณ์สถาน 14 ตุลา ร่วมอ่าน #คำประกาศของราษฎร 5 ข้อเรียกร้อง ก่อนนัดชุมนุมใหญ่ 19 กันยา มธ.ท่าพระจันทร์

16.00 น. ที่บริเวณอนุสรณ์สถาน 14 ตุลา สี่แยกคอกวัว ถนนราชดำเนิน มีประชาชนทยอยเดินทางมาร่วมให้กำลังใจ นายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา (ไผ่ ดาวดิน) ซึ่งจัดกิจกรรมภายใต้ชื่อ "นอนแคมป์ไม่นอนคุก" ปักหลักค้างคืนบริเวณอนุสรณ์ 14 ตุลาหนึ่งคืน ก่อนที่ช่วงเช้าวันรุ่งขึ้น (28 สิงหาคม ) จะเดินทางไปยังสน.สำราญราษฎร์ เพื่อรับทราบข้อกล่าวหาชุมนุมกับม็อบเยาวชนปลดแอก

ขณะที่บริเวณเวที มีการผลัดเปลี่ยนกันขึ้นปราศรัยจากตัวแทนกลุ่มต่าง ๆ

อาทิเช่น "กานต์นิธิ ลิ้มเจริญ" ตัวแทนคณะประชาชนปลดแอกกล่าวเริ่มต้นด้วยการสารภาพบาปว่า ตัวเองเป็นลูกชนชั้นกลาง และเคยเป็นสลิ่มมาก่อน เคยเห็นด้วยกับการฆ่าคนกลางเมือง แต่ไม่นานมานี่ได้ลองเปิดใจเรียนรู้กับประวัติศาสตร์นอกตำรา จึงทำให้รู้ว่าที่ผ่านมา ตัวเองก็คือฆาตกรทางอ้อม วันนี้จึงออกมาขอโทษ และปราศรัยเน้นย้ำเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยย้ำว่าสิ่งที่มวลชนออกมาเรียกร้องกันคือ 3 ข้อเรียกร้อง 2 จุดยืน และ 1 ความฝัน โดยทั้งหมดนี้จะได้มาจากการร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ซึ่งมีความชอบธรรมและมาจากประชาชน และขอส่งเสียงฝากไปยังฝ่ายค้านว่าให้คุยกันให้จบว่าจะเอายังไง เพราะประชาชนคุยกันจบไปแล้วว่า ต้องเอา ส.ว. ออกก่อน แล้วร่างรัฐธรรมนูญใหม่ และทั้งสองเรื่องนี้ ต้องจบภายในสมัยประชุมนี้ !!!

อีกทั้ง "ผุสดี งามขำ" ผู้ซึ่งเป็นคนสุดท้ายที่อยู่ในราชประสงค์ในห้วงเวลาการสลายชุมนุม 19 พฤษภา 53 เป็นตัวแทนคนเสื้อแดง 

"ผุสดี"กล่าวว่าวันนี้มาในฐานะตัวแทนของคนเสื้อแดงเพื่ออยากมาขอโทษเด็ก ๆ เยาวชนที่ออกมาต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย ที่เคยดูถูกว่า เด็กสมัยนี้ไม่สนใจการเมือง ได้แต่เที่ยวเล่น ดูหนัง ช็อปปิ้ง เล่นเกม ไม่สนใจว่าบ้านเมืองจะเป็นอย่างไร แล้วเราจะฝากอนาคตของบ้านเมืองไว้กับเขาได้อย่างไร  จนมาถึงวันนี้ก็อยากจะกล่าวขอโทษที่เราเคยดูถูกพวกคุณ พร้อมชูผ้าโพกหัวที่ได้เตรียมไว้ประกอบการปราศรัย โดยกล่าวว่า ในช่วงเคลื่อนไหวคนเสื้อแดงไม่ได้ใช้กระดาษเหมือนคนรุ่นใหม่เหมือนตอนนี้ แต่เราจะแสดงออกจากเสื้อผ้าที่เราใส่ หรือผ้าโพกหัว โดยมีข้อความ เช่นอย่าเพิ่งยิงกูเพิ่งมา,เอาความยุติธรรมกลับคืนมา, ลมหายใจที่ไม่แพ้, กูทำอะไรก็ผิด, หยุดสองมาตราฐาน, ต่อต้านเผด็จการ ป้องประชาธิปไตย เป็นต้น

นอกจากการปราศรัยก็มีดนตรีสลับสับเปลี่ยน พร้อมทั้งละครใบ้ที่แสดงโดยนักเรียนนักศึกษาหญิง ที่ตอบจบการแสดง ชูป้าย"ใครฆ่าประชาชน"

20.00 น. ทนายอานนท์ นำภา ขึ้นปราศรัย กล่าวถึงทวิตเตอร์ติ่งเพื่อไทยกับติ่งก้าวไกล ปะทะทางความคิดกัน (ด่า)  อานนท์กล่าวว่าในระบอบประชาธิปไตยการด่ากันเป็นสิ่งที่งดงามมาก ด่ากันจะเป็นจะตายพอมีชุมนุมใหญ่พวกนี้มาจับมือกันเหมือนเดิม ถ้านักการเมืองทำไม่ดีเราต้องทำให้เขากลับมาอยู่กับร่องกับรอย

20.40 น. ผู้ชุมนุมร่วมอ่านประกาศคณะราษฎรร่วมกัน โดยมีข้อเรียกร้องทั้งหมด 5 ข้อ ซึ่งข้อเรียกร้องทั้ง 5 ข้อเป็นเจตจำนงของราษฎรที่ได้รวมตัวกัน เพื่อสู้ต่อกับรัฐบาลของคณะเผด็จการ พรรคการเมืองอันเป็นตัวแทนของราษฎรจะต้องรับฟังและร่วมแรงกับราษฎรผลักดันข้อเรียกร้องทั้ง 5 ข้อ นอกจากนี้ยังขอให้ประชาชนมาร่วมชุมนุมในวันที่ 19 กันยายนนี้ ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ ที่จะถึงนี้ด้วย

ทั้งนี้ด้านข้างอนุสรณ์สถาน 14 ตุลา มีซุ้มของหน่วยปฐมพยาบาลอาสามาตั้งศูนย์อำนวยการดูแล นอกจากนั้นยังมีโต๊ะอาหารและเครื่องดื่ม รวมถึงรถห้องน้ำที่ผู้จัดงานเตรียมมาคอยให้บริการผู้มาร่วมงานด้วย อีกทั้งยังมีการตั้งโต๊ะเชิญชวนประชาชนร่วมลงชื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญกับโครงการอินเทอร์เน็ตเพื่อกฎหมายประชาชน ( iLaw )

และบริเวณด้านนอกของ อนุสรณ์สถาน 14 ตุลา มีนิทรรศการรัฐธรรมนูญฉบับต่าง ๆ ของไทยวางรายรอบ พร้อมทั้งมีประชาชนปูเสื่อนั่งฟังการปราศรัยและร่วมกิจกรรมกันอย่างคึกคัก โดยพบว่าประชาชนเหล่านี้พก หัวใจตบ ตีนตบ สีแดงมาด้วย 

ซึ่งโดยตลอดเวลาของกิจกรรมมีเจ้าหน้าที่ตำรวจจาก สน.ชนะสงคราม และเจ้าหน้าที่หน่วยงานความมั่นคงนอกเครื่องแบบร่วมสังเกตการณ์ 

ทั้งนี้หลังจากอ่านคำประกาศของราษฎรจบ ก็ยังมีกิจกรรมอย่างต่อเนื่อง ทั้งดนตรี เสวนา และการฉายหนัง ก่อนที่ช่วงเช้าจะเดินทางไป สน.สำราญราษฏร์

#UDDnews #ประชาชนปลดแอก

ชมประมวลภาพกิจกรรม