วันพุธที่ 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2567

จม.จากแดน 4 “อานนท์” เขียนถึงลูก ฝากความคิดถึงไปกับฝนเม็ดแรก "เวลาชีวิตของลูกทั้งสองคนกำลังเดินไปข้างหน้าอย่างช้า ๆ พ่อทำได้แค่เฝ้ามองจากตรงนี้ อีกโลกที่หยุดนิ่งเหมือนนาฬิกาตาย"

 


จม.จากแดน 4 “อานนท์” เขียนถึงลูก ฝากความคิดถึงไปกับฝนเม็ดแรก "เวลาชีวิตของลูกทั้งสองคนกำลังเดินไปข้างหน้าอย่างช้า ๆ พ่อทำได้แค่เฝ้ามองจากตรงนี้ อีกโลกที่หยุดนิ่งเหมือนนาฬิกาตาย"


วันนี้ (7 พ.ค. 67) เพจเฟสบุ๊ค"อานนท์ นำภา" โพสรูปจดหมายจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ พร้อมข้อความระบุว่า


7 พฤษภาคม 2567 ฟ้าหม่น ฝนโปรย ผู้ต้องขังส่วนใหญ่ทยอยเข้ามาหลบฝนใต้ตึกเรือนนอน พ่อเดินออกไปขอใบเตยจากสวนผักในแดนมา 5 - 6 ใบ ต้มกับน้ำร้อนจิบแทนชา น้าธีร์บ่นว่าหนาว พ่อจึงกยิบเสื้อหนาวสีน้ำตาลจากล๊อกเกอร์พ่อมาให้ใส่ ลุงสมบัตินอนอย่างสบายใจอยู่ข้าง ๆ โต๊ะ น้าเก็ทเขียนจดหมาย ส่วนน้าแน็คทำน้ำใบเตยหวาน ๆ กินอย่างกะเด็ก เป็นเช้าเหงา ๆ ของเรานักโทษการเมือง วันนี้หลังจากหยุดยาว 3 วัน สิ่งที่รอคอยสุดท้ายของวันนี้คือ จะมีจดหมายจากข้างนอกมั้ยนะ เย็นนี้


แน่นอนเหมือนทุกครั้ง ฝนตกเมื่อไหร่ในคุกก็จะเหงา ๆ ซึม ๆ อบอวลไปด้วยความคิดถึง นี่ถ้ามีเครื่องมือวัดความคิดถึงได้ ในคุกน่าจะมีปริมาณความคิดถึงต่อตารางเมตรมากที่สุดในโลก ไม่รู้ตอนนี้เจ้าขาลฝึกพูดไปถึงไหนแล้ว ออกเสียง "แม่" "พ่อ" ตา - ยาย ได้หรือยัง จะดื้อจะซนวิ่งเล่นหกล้มถลอกไปกี่แผล เจ้าปราณคงตื่นเต้นกับการได้เลื่อนชั้นขึ้นป.3 และการเปิดเทอมใหม่ ไม่รู้ป่านนี้ผูกเชือกรองเท้าเองเป็นหรือยัง 


ในบรรดาความไม่รู้ทั้งหลาย ที่แน่ ๆ อีกกว่า 10 ปี ครอบครัวของพวกเราถึงจะได้อยู่ด้วยกันพร้อมหน้า เจ้าขาลคงอ่านจดหมายพ่อได้แล้ว ส่วนเจ้าปราณน่าจะกำลังเข้ามหาลัย ถึงวันนั้นแม่คงไม่ต้องไปส่งแล้วกระมัง มันน่าตื่นเต้นดีนะ ในขณะที่เวลาชีวิตพ่อถูกทำให้หยุดลง แต่เวลาชีวิตของลูกทั้งสองกำลังเดินไปข้างหน้าอย่างช้าๆ พ่อทำได้แค่เฝ้ามองจากตรงนี้ อีกโลกที่หยุดนิ่งเหมือนนาฬิกาตาย ที่น่าตื่นเต้นกว่านั้นคือ อีก 10 ปีข้างหน้า การเมืองการปกครองของเราจะเป็นเหมือนเช่นทุกวันนี้หรือจะเปลี่ยนแปลงไป การต่อสู้ของพวกคนรุ่นพ่อจะส่งผลให้สังคมเราเปลี่ยนแปลงไปหรือไม่


คูณดอกสุดท้ายร่วงไปพร้อมกับฝนหยดแรก ฤดูร้อนกำลังจะผ่านไป ฤดูฝนลุกลี้ลุกลนเข้ามาแทน ถ้าลูกทั้งสองอ่านจดหมายนี้อยู่ ฝนโปรยเหมือนตอนนี้ที่พ่อกำลังเขียนจดหมาย ขอให้ลูกทั้งสองรู้ว่า พ่อคิดถึงลูกมากและขอฝากความคิดถึงไปกับฝนเม็ดแรก เม็ดนั้น...


อานน์ นำภา


สำหรับ อานนท์ นำภา ทนายความจากศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน และหนึ่งในแกนนำกลุ่มคณะราษฎร 2563 วัย 39 ปี นั้น ขณะนี้ถูกคุมขังอยู่ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพ ภายหลังศาลอาญาพิพากษาจำคุก 4 ปี ปรับเป็นเงิน 20,000 บาท โดยไม่รอลงอาญา ในคดี #มาตรา112 เมื่อวันที่ 26 กันยายน 2566 เหตุจากการขึ้นปราศรัยใน #ม็อบ14ตุลา63


จากนั้น 17 ม.ค. 67 ศาลอาญาสั่งจำคุก "อานนท์ นำภา" เพิ่มอีก 4 ปี จากคดีมาตรา 112 กรณีโพสต์เฟซบุ๊กปี 2564 โดยให้บวกโทษเก่าอีก 4 ทำให้อานนท์มีโทษจำคุกรวมแล้ว 8 ปี


ต่อมา เมื่อวันที่ 29 เม.ย. 2567 เวลา 09.00 น. ศาลอาญากรุงเทพใต้ นัดฟังคำพิพากษาคดีของ อานนท์ นำภา หลังถูกฟ้องใน 4 ข้อกล่าวหา ได้แก่ หมิ่นประมาทกษัตริย์ฯ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112, ฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ, พ.ร.บ.โรคติดต่อฯ และ ใช้เครื่องขยายเสียงโดยไม่ได้รับอนุญาต เหตุมาจากการปราศรัยถึงข้อเรียกร้องปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ ในกิจกรรม ‘เสกคาถาผู้พิทักษ์ปกป้องประชาชน’ หรือ #ม็อบแฮร์รี่พอตเตอร์2 ที่ลานหอศิลปวัฒนธรรมกรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 3 ส.ค. 2564


โดยศาลพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดทุกข้อหาตามฟ้อง พิพากษาจำคุกรวม 3 ปี 1 เดือน ปรับ 150 บาท ก่อนลดเพราะให้การเป็นประโยชน์ เหลือจำคุก 2 ปี 20 วัน และปรับ 100 บาท


ทำให้อานนท์ถูกลงโทษจำคุกรวมทั้งสิ้น 10 ปี 20 วันแล้ว เมื่อรวมกับสองคดีในข้อหามาตรา 112 ที่ศาลอาญามีคำพิพากษาลงโทษจำคุกคดีละ 4 ปี ไปเมื่อวันที่ 26 ก.ย. 2566 และ 17 ม.ค. 2567 ที่ผ่านมา


#UDDnews #ยูดีดีนิวส์ #อานนท์นำภา #นิรโทษกรรมประชาชน