“ชัยธวัช” เยือนอุบลฯ ร่วมกิจกรรมตั้ง ตทอ. ศรีเมืองใหม่-ตาลสุม ย้ำ
“ก้าวไกล” มุ่งสร้างพรรคเป็นสถาบันทางการเมืองของประชาชน
ชี้คดียุบพรรคเป็นเรื่องการเมือง ไม่แน่นอน สิ่งสำคัญคือพรรคต้องเข้มแข็งที่ฐานราก
สมาชิกพรรคเหนียวแน่น
วันที่
11 พฤษภาคม 2567 ชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกล
ลงพื้นที่ จ.อุบลราชธานี
โดยช่วงเช้าเข้าร่วมการประชุมเลือกตั้งตัวแทนพรรคประจำอำเภอ (ตทอ.) ศรีเมืองใหม่
และบรรยายหัวข้อ “ความสำคัญของ ตทอ. ในการสร้างพรรคของมวลชน” กล่าวช่วงหนึ่งว่า พรรคก้าวไกลให้ความสำคัญกับสมาชิกพรรคและตัวแทนพรรคประจำอำเภอ
(ตทอ.) แม้กฎหมายพรรคการเมืองไม่ได้บังคับให้มี แต่ก้าวไกลกำหนดกลไกนี้ขึ้นมาเอง
ต่างจากพรรคการเมืองอื่นที่ตั้งกลไกหรือโครงสร้างต่างๆ
เพียงเพื่อให้เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด
ที่มาของการออกแบบโครงสร้าง
ตทอ. เพราะก้าวไกลเชื่อว่าพรรคการเมืองไม่ได้มีหน้าที่แค่ส่งคนลงเลือกตั้ง
แต่ต้องการให้พรรคการเมืองเป็นสถาบันทางการเมืองของประชาชนจริงๆ
ยึดโยงกับประชาชนและสมาชิก
ซึ่งจะเกิดขึ้นได้ต้องอาศัยการที่สมาชิกพรรคเข้ามามีส่วนร่วมกับกิจกรรมของพรรค
เริ่มตั้งแต่หาสมาชิก
ออกแบบและตัดสินใจร่วมกันในการบริหารจัดการพรรคในระดับพื้นที่
หรือมีบทบาทเป็นตัวแทนของสมาชิกพรรคที่จะรับเอาประเด็นปัญหามาสื่อสารกับพรรคและผลักดันร่วมกัน
อีกด้านหนึ่ง
โครงสร้าง ตทอ. ทำให้พรรคมีความเข้มแข็งในระดับฐานรากอย่างจริงจัง
จึงกลายเป็นเป้าหมายในการตั้ง ตทอ. ทุกอำเภอทั่วประเทศ
โดยให้เป็นตำแหน่งที่มาจากการเลือกตั้ง เป็นแกนนำในการทำงานร่วมกับสมาชิกพรรค
และในอนาคต พรรคก้าวไกลจะต้องไปถึงการมีตัวแทนพรรคระดับตำบล (ตทต.)
แลถเมื่อมีการเลือกตั้ง ตทอ. จนครบ ก็จะนำไปสู่การตั้งคณะกรรมการจังหวัด
พรรคก้าวไกลให้ความสำคัญกับการที่พี่น้องเข้ามามีส่วนร่วมกับพรรค
มุ่งมั่นทำให้พรรคกลายเป็นสถาบันทางการเมืองที่มีชีวิตชีวา
มีกิจกรรมร่วมกับประชาชนตลอดเวลา
ไม่ใช่พรรคการเมืองที่เจอหน้ากันแค่สี่ปีครั้งหรือเฉพาะฤดูกาลหาเสียง
ที่สำคัญที่สุด เราต้องการเป็นพรรคการเมืองที่เป็นเหมือน “พื้นที่กลาง”
เป็นเครื่องมือที่พร้อมให้ประชาชนมาหยิบใช้เพื่อขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหา
ชัยธวัชกล่าวว่า
สำหรับคดียุบพรรค
หลายคนอาจสงสัยว่าในห้วงเวลาแบบนี้ทำไมเรายังมุ่งมั่นทำงานสร้างพรรค
ตนขอว่าอย่าเพิ่งด่วนสรุปว่าพรรคจะถูกยุบแน่นอน
แม้ว่าคดียุบพรรคจะเป็นเรื่องการเมืองมากกว่าเรื่องกฎหมาย
จะยุบหรือไม่เป็นประเด็นการเมือง เอาเข้าจริงการยุบพรรคการเมืองตามรัฐธรรมนูญนี้ไปยืมมาจากเยอรมัน
แต่เยอรมันกำหนดเนื้อหานี้ขึ้นเพื่อป้องกันปัญหากรณีพรรคนาซีในอดีต
แต่ของไทยเมื่อเอามาใช้ก็น่าสงสัยว่าบรรดาพรรคการเมืองที่ถูกยุบนั้น
กระทำความรุนแรงล้มล้างระบอบประชาธิปไตยอย่างนั้นหรือ ในทางกลับกัน
บรรดานายพลทหารที่นิยมชมชอบการออกมาทำรัฐประหารล้มระบอบประชาธิปไตย กลับลอยนวล
“เมื่อเรื่องยุบพรรคเป็นเรื่องการเมือง
เราไม่มีทางรู้ว่าพรรคจะถูกยุบหรือไม่ เพราะการเมืองเปลี่ยนทุกวัน
สถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงทำให้เกิดความไม่แน่นอน วันนี้อยากยุบ
วันถัดมาอาจรู้สึกไม่อยากยุบแล้วเพราะกลัวก้าวไกลโตกว่าเดิม
แต่สิ่งสำคัญที่สุดคือความเข้มแข็งของพรรค ถ้าพรรคมีความเข้มแข็งจากฐานราก
จากสมาชิกพรรคที่เหนียวแน่น ต่อให้พรรคถูกยุบเราก็จะไม่ล่มสลาย
ทั้งยังกลับมาได้อย่างเข้มแข็งและรวดเร็วกว่าเดิม” หัวหน้าพรรคก้าวไกลกล่าว
จากนั้นชัยธวัชเดินทางไปพบสมาชิกที่วัดบ้านหนองแสง
ต.คำไฮใหญ่ อ.ดอนมดแดง พูดคุยหัวข้อ “การกระจายอำนาจเพื่อการพัฒนาโดยท้องถิ่น”
โดยกล่าวว่าพรรคก้าวไกลให้ความสำคัญกับการพบปะสมาชิกของพรรคอย่างมาก
ทุกวันวันหยุดสุดสัปดาห์จะต้องมีการจัดกิจกรรมส่งแกนนำ สส. หรือทีมงานไปพบปะพูดคุย
เราต้องการให้พรรคก้าวไกลมีความเป็นสถาบันทางการเมือง
ดึงพี่น้องประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมให้ได้มากที่สุด
ชัยธวัชกล่าวว่า
ต้องยอมรับว่าการเมืองท้องถิ่นมีความสำคัญมาก
เรื่องร้องเรียนจำนวนมากที่ประชาชนยื่นมานั้น
เป็นประเด็นที่อยู่ในขอบเขตอำนาจหน้าที่ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นแทบทั้งนั้น
การเมืองท้องถิ่นจึงเป็นเรื่องที่ใกล้ชิดและมีอิทธิพลต่อชีวิตประชาชนมากที่สุด
แต่กลับเป็นการเมืองที่ดูห่างไกลจากพี่น้องประชาชนมาก การมีส่วนร่วมก็น้อยมาก
พรรคก้าวไกลจึงให้ความสำคัญกับการเมืองท้องถิ่นและการกระจายอำนาจ
เพราะอยากทำให้ประชาชนสนใจและมีส่วนร่วมทางการเมืองมากขึ้น
สร้างความเปลี่ยนแปลงร่วมกัน โดยไม่ต้องใช้อำนาจ อิทธิพล หรือเงินในการทำงานเป็นหลัก
ส่วนนโยบายกระจายอำนาจ
เป็นนโยบายหลักของพรรคมาตั้งแต่สมัยอนาคตใหม่ ลองพิจารณาดูว่าทุกวันนี้เรามี อบต.
อบจ. เทศบาล เมื่อก่อนเราไม่มีหน่วยงานเหล่านี้
หรือถ้ามีก็ไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง
ที่ผ่านมาบางคนอาจรู้สึกว่านักการเมืองท้องถิ่นไม่มีคุณภาพ มีแต่ทุจริต แต่เอาเข้าจริงแล้วในหลายพื้นที่
การแข่งขันทางการเมืองที่ผ่านมาก็สร้างความเปลี่ยนแปลงผ่านการแข่งขัน
แต่ปัญหาไม่ใช่แค่เรื่องคน
ยังมีเรื่องงบประมาณ
ท้องถิ่นจำนวนมากมีงบประมาณไม่เพียงพอต่อการจัดบริการสาธารณะให้แก่พี่น้องประชาชน
ดังนั้นต่อให้เลือกตั้งได้คนดีมีฝีมือเข้ามา
แต่ถ้าไม่มีงบประมาณก็ไม่สามารถทำงานได้
อีกประการคือขอบเขตอำนาจหน้าที่ของท้องถิ่นมีน้อยมาก บางครั้งจะจัดทำโครงการ
ท้องถิ่นไม่สามารถตัดสินใจได้เอง ต้องส่งไปถามนายอำเภอ ผู้ว่าฯ
หรือบางครั้งต้องขออนุญาตกระทรวงในการตัดสินใจว่าจะให้ท้องถิ่นทำได้หรือไม่
เมื่อเป็นเช่นนี้ก็ทำให้ท้องถิ่นไม่กล้าที่จะทำโครงการใหม่ๆ
เพราะขาดอำนาจในการตัดสินใจและขาดการริเริ่มสิ่งใหม่
ชัยธวัชกล่าวว่า
หลายคนอาจคิดว่าถ้ากระจายอำนาจก็จะเสร็จบ้านใหญ่ เสร็จนักการเมืองเก่า
แต่ถ้าเราอยากแก้เรื่องนี้ก็ยิ่งต้องกระจายอำนาจ
เพราะระบบอุปถัมภ์แบบบ้านใหญ่ที่ยึดท้องถิ่นเอาไว้เป็นสมบัติส่งต่อกันเป็นทอดๆ
นั้น ดำรงอยู่ได้เพราะเรากระจายอำนาจไม่มากพอ เช่นเมื่อเงินน้อย อำนาจน้อย
แล้วไม่มีงบมาแก้ไขปัญหา
จึงกลายเป็นเงื่อนไขให้บรรดาผู้บริหารท้องถิ่นต้องไปวิ่งเต้นเส้นสายของบประมาณ
ขอทรัพยากร
จากผู้มีอำนาจกลายมาเป็นบุญคุณเป็นสายสัมพันธ์เครือข่ายอุปถัมภ์ต่อเนื่องกัน
มีแต่การกระจายอำนาจที่จะยุติวงจรระบบอุปถัมภ์นี้ลง และทำให้เมืองต่างๆ
จังหวัดต่างๆ ของไทย เติบโตได้อย่างรวดเร็ว เต็มศักยภาพ
และทัดเทียมกับเมืองใหญ่อื่นๆ ในต่างประเทศ
และนี่จะเป็นหนทางเดียวในการพัฒนาเมืองให้เติบโตไปในทิศทางที่ตอบสนองต่อความต้องการของพี่น้องประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่
เสร็จแล้ว
ชัยธวัชเดินทางต่อไปเข้าร่วมการประชุมเลือกตั้ง ตทอ.ตาลสุม
ก่อนที่ช่วงเย็นจะร่วมพูดคุยแลกเปลี่ยนความเห็นกับสมาชิกพรรคในพื้นที่ อ.เมือง
เกี่ยวกับการเมืองวิถีก้าวไกลกับการเลือกตั้งท้องถิ่น โดยกล่าวว่า
ที่ผ่านมาท้องถิ่นไม่มีอำนาจและงบประมาณ ขาดความเป็นอิสระในการตัดสินใจดำเนินการใดๆ
จะทำโครงการก็ต้องคอยไปถามไปขออนุญาตจากส่วนราชการระดับภูมิภาค หรือยิ่งกว่านั้น
การดำเนินการบางประการ อปท.
ต้องวิ่งเข้าไปขอการอนุมัติจากผู้มีอำนาจในกระทรวงด้วยซ้ำ เช่น
ถ้าจะขุดลอกคูคลองในบางจุด อาจต้องไปขออนุญาตจากกรมเจ้าท่าก่อน
หรือถ้าจะเอาที่ดินบางแห่งมาพัฒนา
ก็อาจต้องไปอนุญาตจากกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
วิธีแก้ไขในระยะสั้นและระยะกลาง
เช่น แก้กฎหมายเพื่อกำหนดขอบเขตอำนาจของท้องถิ่นให้ชัดเจน
ด้วยการเขียนกฎหมายในเชิง Negative
list แทน Positive list โดยกำหนดว่าท้องถิ่นห้ามทำอะไรบ้าง
และกิจการอื่นนอกจากนั้นท้องถิ่นทำได้ทั้งหมด, สำรวจและแก้ไขเนื้อหาของกฎหมายแม่บทและกฎหมายระดับรองเพื่อกระจายอำนาจให้แก่ท้องถิ่นมากขึ้น
เช่น แก้ พ.ร.บ.ถนน
ยกเลิกทางหลวงชนบทแล้วนำงบประมาณไปกระจายให้แก่ท้องถิ่นเป็นผู้ดูแลถนนเหล่านี้แทน
นอกจากการถ่ายโอนอำนาจหน้าที่แล้ว
จะต้องตามมาด้วยการถ่ายโอนทรัพยากรและงบประมาณ เช่น
ตอนนี้การดับไฟป่าเป็นภารกิจที่ได้รับถ่ายโอนมาเป็นของท้องถิ่น
แต่งบประมาณกลับไม่มีการอนุมัติตามมาด้วย
ทำให้ท้องถิ่นขาดศักยภาพในการป้องกันไฟป่าได้อย่างจริงจัง
#UDDnews #ยูดีดีนิวส์ #ก้าวไกล