อ.ธิดา
ถาวรเศรษฐ : รำลึกเสื้อแดง “ไม่ใช่งานเช็งเม้ง” เดินหน้าทวงความยุติธรรม
เร่งรัดคดี-แก้กฎหมาย
ในงานรำลึก #14ปีเมษาพฤษภา53
19
พฤษภาคม 2567 ณ ราชประสงค์
สวัสดีค่ะ
10เมษา เราเจอกันกลางวัน เป็นงานพิธีเต็มรูปแบบ มีการวางพวงหรีด มีปาฐกถาสั้น
แล้วก็มีการเชิญกลุ่มบุคคลและพรรคการเมือง แต่งาน 19พฤษภา เป็นงานมวลชน
เราถือเป็นงานมวลชน ไม่มีพิธีการใด ๆ แต่ว่าเราก็ยังต้องคงมีการทำบุญอุทิศส่วนกุศลเหมือนที่เคยมา
วันนี้มีหลายเวที
ไม่เป็นไร แต่ตอนที่ผ่านมา อาจารย์ธิดาเป็นประธานนปช. ตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม
2553 ในช่วงที่แกนนำติดคุก 9 เดือน ในช่วงนั้นเราจัดเวทีรำลึกทุกเดือน วันที่ 10
เดินจากอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยมาราชประสงค์ วันที่ 19
เดินจากราชประสงค์ไปอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย จำได้หรือเปล่า? อาจารย์ยืนบนรถ
ลมมันต้านจนกระทั่งเสมหะส่วนลึกยังมีขี้ฝุ่น เหตุผลเพราะว่าเรายืนแล้วต้าน
ลมมันพัดมา ฝุ่นก็เข้าปอดเข้าจมูก ขบวนของเรามีทั้งเดินและมีทั้งรถ
จำได้ว่าขณะนั้นแกนนำสำคัญทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นคุณหมอเหวง คุณณัฐวุฒิ คุณก่อแก้ว
คุณวีระกานต์ ต่าง ๆ เหล่านี้ 9 เดือน อาจารย์ธิดาต้องเอาภรรยาของหลายคนขึ้นเวที
แล้วราชประสงค์ตรงนี้ตอนนั้นเอารถมาถึงประตูน้ำ เข้าไม่ได้ คนเต็มเลย
มวลชนยกรถที่มีอาจารย์ธิดาและภรรยาแกนนำ รถลอยมาจนกระทั่งถึงกลางสี่แยก
ดังนั้นหมายความว่าอะไร?
คือจะเล่าให้ฟังว่า เราจัดงานรำลึกและทำบุญอุทิศส่วนกุศลตั้งแต่ปี 2553
มาจนปัจจุบัน โดยอาจารย์ธิดาทั้งในฐานะประธานนปช.และหลังจากนั้นในฐานะประธานที่ปรึกษาตั้งแต่วันที่ 15 มีนาคม 2557 ครั้งสุดท้ายในการชุมนุมของนปช. เราจัดงานที่ถนนอักษะ เราจัด 19 พอ 22 มันทำอะไร? รัฐประหาร!!! เลย
เห็นมั้ยคะ ที่พูดนี้เพื่อจะบอกให้รู้ว่า ตราบใดที่อาจารย์ธิดายังมีชีวิตอยู่
และตราบใดที่ญาติวีรชนทั้งหลายก็ยังมีชีวิตอยู่ เราจึงจำเป็นต้องตั้ง “คณะประชาชนทวงความยุติธรรม
2553” เพื่อใช้เป็นหน่วยงานหรือองค์กรในการขับเคลื่อนทวงความยุติธรรม
เราจะทำจนกว่าชีวิตจะหาไม่!!!
เราไม่ได้มาทำตอนที่พรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาล
เวลาพรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาลทีไร โอ้โห...มีคนจัดงานเยอะมาก
ขอโทษ...เราทำมาตั้งแต่ปี 2553 อาจารย์ธิดาทำมาตลอด ญาติวีรชนที่อยู่ตรงนี้จะจำได้
แม้นว่าทำรัฐประหาร เราต้องไปร่อนเร่จัดอยู่ในวัด เราถูกคุกคาม แต่เราก็จัด
เพราะมันเป็นภาระหน้าที่ที่ยังไม่สิ้นสุด ไม่ใช่เป็นแกนนำชวนมาแล้วหลังจากนั้นสลัดทิ้งความรับผิดชอบ
อาจารย์ธิดาทำไม่ได้
“พวกเขาพลีชีพเพื่อการต่อสู้
นี่เป็นเรื่องที่เราต้องสดุดี แต่อาจารย์ธิดาพลีชีวิตเพื่อคนที่พลีชีพค่ะ”
อาจารย์ธิดาสู้มา
50 ปี และร่วมกอดคอกับคนเสื้อแดงเกิน 14 ปี เพราะตั้งแต่ปี 2549
สีแดงเป็นสีที่เกิดจากการต่อต้านรัฐประหารและไม่รับรัฐธรรมนูญ 2550
ไม่ใช่สีของพรรคใด ๆ ทั้งสิ้น สีแดงเป็นสัญลักษณ์ของบุคคลที่ต่อต้านเผด็จการ
ชื่อนปช. มันก็บอก “แนวร่วมต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ” แห่งชาติหรือไม่แห่งชาติก็ต่อต้านเผด็จการ
หรือการสืบทอดอำนาจเผด็จการก็ต้องต่อต้านเหมือนกัน ใช่หรือเปล่า?
นี่คือจุดยืนของคนเสื้อแดง เป็นเสื้อแดงที่มีอุดมการณ์
ไม่จำเป็นว่าเราจะรักพรรคไหนหรือไม่รักพรรคไหน
แต่ตราบที่เรามีหัวใจในการต่อสู้เผด็จการ เรายืนหยัดในการที่จะสร้างสังคมประชาธิปไตยที่อำนาจเป็นของประชาชนอย่างแท้จริง
เราคือคนเสื้อแดงร่วมกันแม้กระทั่งคนรุ่นใหม่ นี่จึงเป็นความสำคัญยิ่ง!
ใครอย่าบิดเบือนสีเสื้อในความคิดของอาจารย์
แต่ไม่ว่ากัน จะเอาไปใช้กันก็ไม่เป็นไร แต่ว่าแก่นของมันที่มาของมัน
อาจารย์ธิดาจำเป็นต้องพูดความจริง
และนี่คือสิ่งที่เราต้องยืนหยัดรักษาเกียรติยศศักดิ์ศรีของคนเสื้อแดงทั้งคนที่ตายแล้วและคนที่เป็นอยู่ค่ะ
เราไม่ใช่ควายแดง คนที่ตายก็มีเกียรติยศ คนที่ยังอยู่ก็ต้องมีศักดิ์ศรี
ไม่ใช่ว่าเป็นวีรชนแล้วได้รับเงินแล้วจบ ศักดิ์ศรีเกียรติยศอยู่ที่ไหน
มันเป็นเรื่องที่เราจำเป็นจะต้องต่อสู้พร้อมกับทวงความยุติธรรม
ดังนั้น
งานรำลึกคนเสื้อแดงไม่ใช่เป็นงานเช็งเม้ง ไม่ใช่เป็นการรำลึกอย่างเดียว
แต่ว่ามันจะต้องเป็นกระบวนการทางการเมืองในการต่อสู้เพื่อทวงความยุติธรรม
เพื่อทวงศักดิ์ศรีของคนที่เสียชีวิตไปแล้วและคนที่ยังอยู่ให้ได้คืนมา
นี่คือวัตถุประสงค์การจัดงานค่ะ มันไม่ใช่กองเชียร์อะไร อาจารย์ธิดาไม่มีอำนาจวาสนาอะไร
เพียงแต่อาจารย์ธิดายืนหยัดต่อสู้เพื่ออุดมการณ์ของประชาชน
ดังนั้น
เวลาผ่านมา 14 ปี ข้อเสนอของเรา 3 ข้อ ใคร ๆ ก็รู้ ข้อที่ 1
ก็คือตั้งคณะกรรมการเร่งรัดคดีความที่ยังไม่ได้กระทำตามกฎหมาย
นี่คือเป็นเรื่องของรัฐบาล เราจึงต้องประสานงานกับพรรครัฐบาล เรื่องที่ 2
เป็นเรื่องของการแก้กฎหมายที่จะทำให้นักการเมืองและทหารมีศักดิ์ศรีเท่ากับประชาชน
เมื่อคุณทำความผิดทางอาญาต่อประชาชน คุณต้องศาลเดียวกันกับประชาชนทั่วไปค่ะ
นี่คดีของเราไปไม่หมด ไปติดอยู่ที่อัยการศาลทหาร ดังนั้นจึงจำเป็นที่เราจะต้องมีการแก้ไขกฎหมาย
แล้วการแก้ไขกฎหมายแปลว่าเราต้องขอความร่วมมือพรรคการเมืองทั้งฝ่ายค้านและรัฐบาล ใช่หรือเปล่า?
เราจึงไม่เป็นศัตรูกับพรรคไหนทั้งสิ้น
แม้จะมีการก้าวข้ามขั้วเราก็ไม่ได้ถือเป็นศัตรู
เพราะเวลาและการกระทำมันจะพิสูจน์ว่าคุณเป็นฝ่ายประชาธิปไตย หรือฝ่ายเผด็จการ
เวลาและการกระทำจะพิสูจน์ว่าคุณทำเพื่อผลประโยชน์ส่วนตัว ผลประโยชน์หมู่คณะ
หรือผลประโยชน์ประเทศชาติ ไม่ต้องพูดเรื่อง ICC ยากมาก
แต่ว่าเราก็ยังเรียกร้อง
ดังนั้น
อยากให้เข้าใจว่าเราไม่ได้เป็นศัตรูกับพรรคไหน แต่เราต้องการให้ทุกพรรคที่มาจากการเลือกตั้งได้ช่วยกันคืนความยุติธรรมให้คนเสื้อแดง
วีรชนที่เสียชีวิต แล้วพวกเราด้วย
ประการที่
3 ซึ่งเป็นประการสุดท้ายและสำคัญก็คือว่า เราต้องมาเน้นจุดยืน อุดมการณ์ของเรา
เพื่อมิให้มันลื่นไถลไปกับการรับผลประโยชน์ใด ๆ ทั้งสิ้น
เราจำเป็นต้องมีเวทีของเราซึ่งบางคนอาจจะคิดว่าไม่เป็นไร ก็มีแดงเยอะแยะ
อาจารย์ธิดาก็ไม่ได้มีปัญหากับแดงอื่น ๆ ใครจะเชียร์พรรคไหนก็ได้ แต่ลึก ๆ
ในใจยังยืนอยู่กับฝ่ายประชาชน ต่อต้านเผด็จการ คุณรู้มั้ย?
อีกไม่นานมันอาจจะมีรัฐประหารก็ได้ แล้วเอาไง? พอมันมีรัฐประหารแล้ว
มันจะมีแดงกี่แบบ มันก็ควรจะเหลือแดงต่อต้านรัฐประหาร
แต่ว่าตอนที่บางพรรคได้เป็นรัฐบาล มันปรากฏปัญหาของความแตกแยก ซึ่งไม่ใช่เรื่องที่ดีเลย
อาจารย์จะข้ามเรื่องนี้ จะมีการด่าทออะไรก็ตาม แต่บอกให้รู้ว่า
คุณต้องรู้ว่าในประเทศนี้ยังมีสงครามระหว่างฝ่ายจารีตอำนาจนิยม และฝ่ายเสรีนิยมประชาธิปไตยดำรงอยู่
มันยังดำรงอยู่ มันพิสูจน์ให้เห็นเป็นระยะตลอดมา อย่านึกว่าไม่มีแล้วค่ะ
ปรองดองหมดแล้ว ไม่มี ใช่! เสื้อสีอาจจะลดดีกรีลง แต่ในความเป็นจริง สงครามระหว่างฝ่ายจารีตอำนาจนิยมกับฝ่ายประชาชนยังดำรงอยู่
ตราบเท่าทีอำนาจจารีตนิยมไม่คืนอำนาจให้ประชาชนจริง ๆ
อาจารย์จึงอยากจะฝากไว้ว่า
แล้วถ้าเมื่อไหร่เขาทำรัฐประหารอีกทีจะรู้ แต่ในตอนนี้เขาไม่ทำรัฐประหาร
ทำอะไรได้ให้ประชาชนก็ทำ แล้วประชาชนจะตัดสินนะคะ
สุดท้ายที่สุดเลยก็คือว่า
คนเสื้อแดงแก่แล้ว ป่วย ลำบากยากจน อายุมากแล้ว
ดังนั้นเราจำเป็นต้องส่งไม้ให้กับคนรุ่นใหม่ ดังนั้นเราจะเห็นเวทีของเรา
โฆษกก็เป็นคนรุ่นใหม่ ต่อไปนี้หลังจากมีคุณหมอเหวงซึ่งจะเน้นร้องเพลง
เพราะว่าฝ่ายที่มีปัญหาไม่พอใจ มีปัญหาไม่พอใจมาก
อาจารย์ก็จะสมมุติเอาว่าเขาไม่พอใจคุณหมอเหวงมากสักหน่อย
คุณหมอเหวงก็จะเน้นร้องเพลง แล้วก็มีคุณณัฐวุฒิ อาจารย์ก็เพียงแต่จะบอกว่า
ถึงเราไม่มีชีวิตอยู่ แต่ก็จะมีลูกหลานเรารับภารกิจอันนี้สืบไป
เพราะพวกเราอายุมากแล้ว ดังนั้นขอให้ภูมิใจว่า หลักการ จุดยืนของคนเสื้อแดง
คนรุ่นใหม่ยอมรับ คนรุ่นใหม่สรรเสริญ
และคนรุ่นใหม่ที่แท้จริงก็คือลูกหลานและเป็นคนเสื้อแดงเหมือนกับพวกเราค่ะ
ขอบคุณมากค่ะ
อ้อเดี๋ยว
เขาบอกให้โฆษณาหนังสือซะหน่อย หนังสือเล่มนี้ (หนังสือ การขับเคลื่อนทวงความยุติธรรม
2553 – 2566 จาก นปช. ถึง คปช.53”)
อาจารย์อยากจะบอกว่าเมื่อกี้เราพูดว่าเราไปหาทั้งรัฐบาลและฝ่ายค้าน
แต่ว่าถ้าพูดแล้วมันจะยาวก็คือ ส่วนหนึ่งมันจะฟ้องร้องประชาชน
หนังสือเล่มนี้ที่พิมพ์คือข้อมูลอัพเดตที่สุดของคนเสื้อแดงในคดีความต่าง ๆ
ทั้งที่ไต่สวนชันสูตรพลิกศพและยังไม่ได้ไต่สวนชันสูตรพลิกศพ และปัญหาต่าง ๆ
รวมทั้งสิ่งที่รัฐบาลและพรรคการเมืองตอบเรามา เราพิมพ์ขายในราคาที่ถูกมากก็คือจากราคาปก
250 บาท เราแถมอีกฉบับหนึ่งของมูลนิธิวีรชนประชาธิปไตย รวม 2 เล่ม 200 บาท
เป็นหนังสือที่ดีทั้ง 2 เล่ม อาจารย์ฝากเอาไว้นะคะ เพราะว่านี่คือถ้ารัฐบาลไม่เอาใจใส่
ถ้าพรรคฝ่ายค้านไม่สนใจ เราก็ฟ้องร้องประชาชน
เราก็จะเคลื่อนไหวต่อไปพร้อมกับคนรุ่นใหม่ ขอบคุณมากค่ะ
#UDDnews #ยูดีดีนิวส์ #คปช53 #คนเสื้อแดง