“เพื่อไทย” จัดอีเวนต์ใหญ่ “10 เดือนที่ไม่รอ
ทำต่อให้เต็ม 10” เปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร นายกอบจ. “แพทองธาร”
ยันตัดสินใจถูกต้องมาก ที่จัดตั้งรัฐบาลผสม เมื่อ 10 เดือนที่แล้ว
ชี้ “ครม.เศรษฐา 2” ถูกฝาถูกตัว นโยบายการเงิน
ต้องดันเศรษฐกิจประเทศ ด้วย
วันนี้
(3 พฤษภาคม 2567) เวลา 10.00 น. ณ
ที่ทำการพรรคเพื่อไทย สำนักงานใหญ่ พรรคเพื่อไทย จัดงาน ‘10 เดือนที่ไม่รอ
ทำต่อให้เต็ม 10’ งานแสดงวิสัยทัศน์และความคืบหน้านโยบายต่าง
ๆ ของพรรคเพื่อไทย หลังจากจัดตั้งรัฐบาลเข้าสู่เดือนที่ 9 พร้อมประกาศเป้าหมายการทำงานในอนาคต
โดยภายในงาน มีนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี นางสาวแพทองธาร ชินวัตร
หัวหน้าพรรคเพื่อไทย คณะรัฐมนตรีสัดส่วนของพรรคเพื่อไทย กรรมการบริหารพรรค
ผู้บริหารพรรค, สส., ว่าที่ผู้สมัครนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดของพรรคเพื่อไทย
และ บุคลากรของพรรค เข้าร่วมงานกันอย่างคับคั่ง
น.ส.แพทองธาร
ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ในนามหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ขอยืนยันว่าเราตัดสินใจถูกต้องมากที่จัดตั้งรัฐบาลผสมเมื่อ
10 เดือนที่แล้ว ปัญหาปัจจุบันที่หมักหมมไว้จากการปฏิวัติรัฐประหาร
ทั้งระบบราชการที่โตเกินไป ความอืดอาดในการทำงาน
ด้วยโครงสร้างที่ไม่ทันต่อเหตุการณ์ที่เปลี่ยนไป เทคโนโลยี เศรษฐกิจ
และภัยคุกคามทางความมั่นคงที่พัฒนาไปเร็วมาก รวมถึงภัยต่อเยาวชนชาติ จากยาเสพติด ทำให้ประชาชนของชาติอ่อนแอ
ประชาชนขาดโอกาสในการทำมาหากิน เศรษฐกิจใต้ดินสูงเป็นประวัติการณ์
เพื่อไทยเป็นพรรคการเมืองที่มีประสบการณ์ในการบริหารประเทศมากที่สุด
หากไม่เป็นแกนนำรัฐบาลผสม คงยากที่ปัญหาหมักหมมจะแก้ไขได้
กฎหมายพยายามจะให้ธนาคารแห่งประเทศไทยเป็นอิสระจากรัฐบาล
เรื่องนี้เป็นปัญหาและอุปสรรคในการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ เพราะนโยบายการคลังถูกใช้งานข้างเดียวอย่างหนัก
จนทำให้หนี้สูงขึ้นทุกปี จากการตั้งงบประมาณขาดดุล
ถ้านโยบายการเงินที่บริหารโดยธนาคารแห่งประเทศไทยไม่ยอมเข้าใจและร่วมมือ
ประเทศจะไม่มีทางลดเพดานนี้ได้ 10 เดือนที่ผ่านมา
เราใช้ความพยายามในการวิเคราะห์ เข้าใจ เพื่อแก้ปัญหาที่ยาก และซับซ้อน
และก้าวเดินต่อในทุกมิติ เพราะเราเสียเวลาและโอกาสไปถึงเกือบ 2 ทศวรรษจากการรัฐประหาร เรามั่นใจว่าเราทำได้ และจะทำให้ได้คะแนนเต็ม 10
ก่อนการเลือกตั้งครั้งหน้า
น.ส.แพทองธาร
กล่าวว่า ในมิติทางเศรษฐกิจ เริ่มต้นด้วยการเติมเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ
เพราะเงินถูกดูดออกจากระบบไปมาก
จึงเป็นเหตุหนึ่งที่ทำให้เศรษฐกิจโตต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของประเทศในอาเซียน
และค่าแรงที่เพิ่มขึ้นเป็น 400 บาท จะทำให้ทุกคนต้องปรับตัว
เพิ่มผลผลิตจากความพอกินของพนักงาน พรรคเพื่อไทยจะผลักดันเศรษฐกิจในทุกมิติ
ไม่ใช่แค่เติมเงินและเพิ่มค่าแรง
แต่รวมไปถึงเม็ดเงินใหม่จากต่างประเทศจะเข้ามาจากการลงทุนและการสร้างโอกาสให้คนไทยทุกคน
โดยการนำของนายกรัฐมนตรี เศรษฐา ทวีสิน
ในมิติของการบริหารราชการแผ่นดิน
จะเปลี่ยนจากรัฐบาลอุ้ยอ้าย อืดอาด ไม่โปร่งใส เป็นรัฐบาลดิจิทัล
บริหารด้วยความรวดเร็ว โปร่งใสตรวจสอบการทำธุรกรรมต่างๆได้ และมี super app ในการบริการ ทุกมิติของภาครัฐ และเราจะปรับโครงสร้างกระทรวง ทบวง กรม
ใหม่อีกครั้งหนึ่งเร็วๆ นี้ พร้อมจะแก้กฎหมายทางเศรษฐกิจอีกหลายฉบับ ทั้งการยกเลิกกฎหมายล้าสมัย
เขียนกฏหมายใหม่ให้ไทยกลับมาเป็น Hub ทั้งการบินและการเงิน
ของอาเซียนให้ได้
ในด้านความมั่นคงและการต่างประเทศ
จะผูกมิตรกับทุกมหาอำนาจ และยินดีให้ไทยเป็นที่เจรจาความขัดแย้งจากทุกฝ่าย
“พรรคเพื่อไทยจะเป็นพรรคการเมืองที่เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลที่มีศักยภาพ
มีนโยบายที่ดี มีรัฐมนตรีที่เก่ง สร้างอนาคตให้ประเทศไทย และที่สำคัญ
จะต้องสามารถผลักดันนโยบายให้เกิดขึ้นจริงในอนาคต
แม้คู่แข่งพยายามทำลายความเชื่อมั่นของประชาชนที่มีต่อเรา ด้อยค่าในสิ่งที่เราทำ
ซึ่งไม่ใช่เรื่องใหม่ ในสมัยไทยรักไทย เกิดวาทกรรม “30 บาทตายทุกโรค”
แต่ทุกอย่างผ่านไป ด้วยการทำงานนโยบายสำเร็จ ผลงานเท่านั้นจะพิสูจน์ ไม่ใช่วาทกรรม
หรือการใส่ความต่อว่าจากใคร เพราะ 30 บาทรักษาทุกโรคใช้ได้จริง
และกำลังเดินหน้าพัฒนาครั้งใหญ่ในรอบ 20 ปี เป็น 30 บาทรักษาทุกที่”หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าว
น.ส.แพทองธาร
ยังได้ประกาศวิสัยทัศน์ พรรคเพื่อไทยในอนาคต
จะเป็นพรรคการเมืองที่เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลที่มีศักยภาพ มีนโยบายที่ดี สร้างอนาคตให้ประเทศไทย
พร้อมเปิดตัว ทีม PTP
Academy อย่างไม่เป็นทางการ (Soft Launch) หน่วยงานพัฒนาศักยภาพบุคลากร
สร้างองค์ความรู้ทางวิชาการ
เปิดพื้นที่เชื่อมโยงการทำงานของพรรคกับหน่วยงานข้างนอก
ซึ่งได้เริ่มดำเนินการแล้วระยะหนึ่ง มีการจัดอบรมเพิ่มองค์ความรู้ให้กับ
สส.ของพรรค เพื่อให้การทำงานการเมืองมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
พรรคเพื่อไทยจะครองสติ
ไม่หวั่นไหว ไม่เล่นเกมส์โต้ตอบไปมาเพราะไม่เป็นประโยชน์ต่อประชาชน
เรามีอำนาจหน้าที่และความรับผิดชอบอยู่ในมือซึ่งกำลังลงมือทำ และเราทำได้
อย่างแน่นอน ในขณะที่นโยบายกำลังเดินไปข้างหน้า
พรรคเพื่อไทยก็กำลังพัฒนาไม่หยุดยั้งเพื่ออนาคตของประเทศไทย รัฐบาลเพิ่งปรับ ครม. ซึ่งมีเสียงจากนักวิชาการหลายท่านที่น่าเชื่อถือได้ให้คำยืนยันว่า
ถูกฝาถูกตัวมากที่สุด ทุกอย่างกำลังขับเคลื่อนไปข้างหน้า
ไม่มีทางเลยที่เราจะแย่กว่าเดิม เรารู้ว่าการทำงานให้บ้านเมืองนั้น เป็นงานที่ Thank Less and End
Less ต้องทุ่มเทและไม่มีวันสิ้นสุด แต่เราเต็มใจที่จะทำ
เพราะเราเป็นพรรคการเมืองแห่งการเปลี่ยนแปลงเพื่อความเจริญของประเทศ
นางสาวแพรทองธาร กล่าว