“อ.ธิดา”
ชี้ ปิด Voice
TV เหตุขาดทุนทางการเมืองและสังคม หนักกว่าขาดทุนเป็นจำนวนเงิน และเป็นอุทาหรณ์สำหรับ
“สายด่า” ของพรรคเพื่อไทย
วันนี้
27 เมษายน 2567 อ.ธิดา ถาวรเศรษฐ
ได้โพสต์ผ่านเพจเฟซบุ๊ก กรณี Voice TV ได้ประกาศยุติการออกอากาศและทำรายการผ่านโซเชียลมีเดียทุกแพลตฟอร์ม
ดังที่เป็นข่าวดังในทุกวงการเมื่อวานนี้ โดย อ.ธิดา ได้แสดงความคิดเห็นมีใจความว่า
เรื่องการปิด
Voice TV ได้รับการโจษจันกันมาก เพราะ Voice TV อยู่มานานแล้ว
และการเริ่มต้นก็คล้ายวิถีทางของคนเสื้อแดง คือต่อต้านเผด็จการ สนับสนุนระบอบประชาธิปไตย
ก็ได้รับความนิยมชมชื่นจากประชาชนผู้รักประชาธิปไตย และหมู่คนเสื้อแดง หมู่คนรักเพื่อไทย
รักทักษิณ ยอดผู้นิยมชมชื่นก็ค่อนข้างสูง และเป็นสื่อที่ถือว่าอยู่ฝ่ายประชาธิปไตยทีเดียว
ในทางเศรษฐกิจ
แน่นอนว่าขาดทุนมายาวนานและขาดทุนมากตอนประมูลช่องดิจิทัลทีวี รวม ๆ น่าจะนับพันล้าน
แต่ก็ยังพยายามรักษาช่องไว้ได้ โดยเฉพาะทางโลกออนไลน์และเคเบิลทีวี
แต่หลังจากเกิดการที่พรรคเพื่อไทยมาเป็นรัฐบาล ทำให้ผู้จัดรายการและพิธีกรจำนวนหนึ่งไม่อาจยอมรับสถานการณ์ใหม่ได้
เพราะถ้าอยู่ต่อก็เท่ากับสนับสนุนจุดยืนรัฐบาลที่ผสมข้ามขั้ว จากฝั่งประชาธิปไตยกับฝ่ายอนุรักษ์นิยมที่สืบทอดอำนาจเผด็จการรัฐประหาร
แน่นอนว่าประชาชนจำนวนมากก็ถอยห่างจาก
Voice TV เช่นกัน แต่ที่เป็นเอามากคือมีผู้จัดรายการบางคนต่อว่าผู้เห็นต่างถึงขั้นใช้คำด่าทอรุนแรง
ทำให้ Voice TV สร้างศัตรูให้กับรัฐบาลมากยิ่งขึ้น
เพิ่มความเกลียดชัง แทนที่จะเพิ่มความนิยมชมชื่น นี่น่าจะเป็นเหตุผลหลักที่ครอบครัวชินวัตรต้องยุติ
Voice TV เพราะไม่เพียงขาดทุนเงิน
มองไม่เห็นอนาคตสื่อที่จะทรงอิทธิพลอีกต่อไป ซ้ำร้าย ขาดทุนทางการเมืองและสังคม
นี่หนักกว่าขาดทุนเป็นจำนวนเงิน
เรื่องนี้น่าจะเป็นอุทาหรณ์ให้กับสายด่าของพรรคเพื่อไทยนะ
มีอีกเรื่องหนึ่งที่ดิฉันเห็นคน
Voice TV ออกมาปกป้องตัวเองว่า เป็นแดงมาก่อน ปัจจุบันก็เป็นแดง
แต่คนที่เคยเป็นแดงเปลี่ยนเป็นส้ม เป็นพวกกลับกลอก ปลิ้นปล้อน
เป็นพวกที่แปรเปลี่ยนทางการเมือง ไม่ใช่แดงเหมือนเดิม
ดิฉันอยากทำความเข้าใจซ้ำแล้วซ้ำอีกว่า
สีแดงและคนเสื้อแดง ไม่ใช่เป็นของพรรคเพื่อไทย พรรคไทยรักไทย หรือพรรคพลังประชาชน
สีแดงถูกใช้เป็นสีสัญลักษณ์ของนักต่อสู้ฝ่ายประชาธิปไตย ไม่เอารัฐประหาร
ไม่เอาผลพวงของการรัฐประหาร ในเวลานั้นคือรัฐธรรมนูญฉบับปี 2550
พรรคไทยรักไทย
พรรคพลังประชน จนถึงพรรคเพื่อไทย แต่ไหนแต่ไรไม่เคยใช้สีแดงเป็นสัญลักษณ์พรรค
แต่ถือเป็นแนวร่วมทางรัฐสภาของคนเสื้อแดง เพิ่งจะมามีแคมเปญ “ครอบครัวเพื่อไทย” และการรณรงค์หาเสียงการเลือกตั้งปี
2566 นี่แหละที่มาใช้สีแดงเป็นสีของพรรค
ดังนั้น
เลิกพูดว่าคนเสื้อแดงคือ FC พรรคเพื่อไทยอย่างเดียว นี่คือการด้อยค่าคนเสื้อแดงให้กลายเป็นเพียงกองเชียร์พรรคเพื่อไทยอย่างเซื่อง
ๆ ไม่มีเกียรติยศชื่อเสียงของนักต่อสู้เสียเลย คนเสื้อแดงที่เน้นอุดมการณ์
ต่อต้านเผด็จการรัฐประหารและทวงคืนอำนาจประชาชนเป็นหลัก เขาจึงมีสิทธิ์ที่จะเป็น Voter ของพรรคฝ่ายประชาธิปไตยใดก็ได้ที่มีแนวทางอุดมการณ์ใกล้เคียงมากที่สุด
และมีสิทธิ์ที่จะกล่าวโทษการข้ามขั้วทางการเมือง ซึ่งแกนนำพรรคเพื่อไทยก็ย่อมรู้ดีว่า
การตัดสินใจเช่นนี้จะเกิดผลสะเทือนต่อประชาชนที่เคยกอดคอร่วมต่อสู้กันมา
พวกเขาต้องพยายามแก้ปัญหา ไม่ใช่สร้างปัญหาเพิ่ม
โดยสนับสนุนให้บริวารเที่ยวด่าทอผู้อื่น
#UDDnews #ยูดีดีนิวส์ #voicetv