'หมอเหวง' ร้อง ‘เศรษฐา’
ตั้งคกก.เร่งรัดตามคดีคนเสื้อแดง 62 ศพ
จี้แก้กม.เจ้าหน้าที่รัฐ - นักการเมือง ทำความผิดกับประชาชน
ต้องขึ้นศาลพลเรือนเท่านั้น
วันนี้ (4 เมษายน
2567) ที่รัฐสภา นพ.เหวง โตจิราการ
อดีตแกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.)
นำคณะประชาชนทวนความยุติธรรม 2553 (คปช.53) ยื่นหนังสือถึงนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง ผ่านนายสมคิด
เชื้อคง สส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง เพื่อตั้งคณะกรรมการเร่งรัดในการชันสูตรพลิกศพการเสียชีวิตของ
62 ศพ วีรชนประชาธิปไตย 2553 ตั้งแต่เดือน
เม.ย.- พ.ค. 2553 และพิจารณาประกาศรับรองเขตอำนาจศาลอาญาระหว่างประเทศเฉพาะกรณี
เม.ย.- พ.ค.ปี 2553
นพ.เหวง
กล่าวว่า จากกฎหมายประมวลกฎหมายวิอาญามาตรา 150 ระบุว่าการตายผิดปกติที่เกิดขึ้นจากเจ้าหน้าที่ของรัฐจะต้องชันสูตรพลิกศพโดยคณะกรรมการ
4 ฝ่าย ประกอบด้วย ตำรวจ อัยการ นิติเวช และฝ่ายปกครอง
จึงเรียนถึงนายเศรษฐา เพื่อตั้งคณะทำงานเร่งรัดในการชันสูตรพลิกศพ 62 ศพ วีรชนประชาธิปไตย 2553 ที่ยังเหลืออยู่
ซึ่งกฎหมายดังกล่าวอนุญาตให้เวลา 30 วันและขยายได้อีก 2
ครั้ง ซึ่งในยุคที่น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี
ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ได้ดำเนินเรื่องไปจนส่งเรื่องให้ศาลมีคำสั่งการตายได้ 20
ศพ แต่พอหลังจากการยึดอำนาจรัฐประหารเมื่อปี 2557 เรื่องกลับเงียบลงไป จึงขอประณามการรัฐประหารของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ
(คสช.) เพราะคุณไม่ได้ปฏิบัติตามกฎหมายประมวลกฎหมายอาญามาตรา 150
"คนตายจากการทำงานของเจ้าหน้าที่บ้านเมือง คุณละเลยกฎหมาย เหยียบย้ำกฎหมาย
ดังนั้นเมื่อรัฐบาลเศรษฐา ได้เป็นหัวหน้ารัฐบาลจากการเลือกตั้งแล้ว
หวังเป็นอย่างยิ่งว่านายกรัฐมนตรีจะปฏิบัติตามกฎหมายตั้งคณะกรรมการชุดหนึ่งเพื่อเร่งรัดในการชันสูตรพลิกศพ
62 ศพที่ยังไม่ได้มีการชันสูตร
โดยเรื่องดังกล่าวเงียบหายไปเลย อีกทั้งมีบางศพโดนกระสุนที่มาจากฝั่งทางทหาร"
นพ.เหวง
กล่าวว่า ถ้ารัฐบาลทำเรื่องนี้สำเร็จ จนศาลมีคำสั่งเกี่ยวกับการตายสำเร็จ
จะเป็นคุณูปการอย่างมหาศาลของรัฐบาลเศรษฐา
ที่จะสร้างประวัติศาสตร์ให้กับประเทศไทยไม่ว่าการที่ทหารใช้ปืนสงครามกับประชาชนสองมือเปล่า
จะไม่ได้เป็นเรื่องลอยนวลอีกต่อไปแล้ว หรือทำตามอำเภอใจอีกต่อไป
ซึ่งอาจเป็นเหตุหนึ่งในการยึดอำนาจของ คสช. และที่จะทำการตัดตอนวีรชน 2553 กว่า
100 ศพ จึงกราบเรียนรัฐบาลว่าทำเถอะครับ
หลังจากนั้นพอเรื่องชัดเจนแล้วก็จะเห็นทิศทางว่าเราจะดำเนินคดีกับผู้ที่ฆ่าประชาชนสองมือเปล่าอย่างไร
จึงอยากให้นายกรัฐมนตรีเป็นผู้ถือธงนำในการแก้กฎหมายยคือถ้าทหารที่ทำผิดกฎหมายอาญาต่อพลเรือน
ต้องขึ้นศาลพลเรือน เช่นเดียวกับนักการเมืองที่ทำความผิดอาญาต่อพลเรือนก็ต้องขึ้นศาลพลเรือนเช่นกัน
ไม่ใช่ไปขึ้นศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง
หลังจากนั้นพอเรื่องชัดเจนแล้ว
จะเห็นทิศทางว่าเราจะดำเนินคดีกับผู้ที่ฆ่าประชาชนสองมือเปล่าอย่างไร
จึงอยากให้นายกฯ เป็นผู้ถือธงนำแก้กฎหมาย คือ ถ้าทหารที่ทำผิดกฎหมายอาญาต่อพลเรือน
ต้องขึ้นศาลพลเรือน เช่นเดียวกับนักการเมืองที่ทำความผิดอาญาต่อพลเรือน ก็ต้องขึ้นศาลพลเรือนเช่นกัน
ไม่ใช่ไปขึ้นศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง
ด้านนายสมคิด
กล่าวว่า เรื่องที่เสนอ จะดำเนินการอย่างไรอยู่ที่อำนาจของนายกรัฐมนตรี
ขอยืนยันว่ากรณีที่จะแก้กฎหมายต่าว ๆ
ทางรัฐบาลกำลังดำเนินการแก้กฎหมายอยู่ผ่านการขับเคลื่อนในชั้นกรรมาธิการ
พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ซึ่งตอนนี้อยู่ในกระบวนการศึกษาอยู่ และจะอยู่ในขั้นตอนของการออกกฎหมายต่อไป
ย้ำว่าเรื่องทุกเรื่องที่ส่งมาถึงมือนายกฯแน่นอน
ทั้งนี้นพ.เหวง
โตจิราการ ได้ยื่นหนังสืออีก 1 ฉบับ ผ่านนายสมคิด เชื้อคง
รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ถึงนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี
ในฐานะผู้นำรัฐบาลและพรรคเพื่อไทย เชิญร่วมงานรำลึกและสดุดีวีรชน วันที่ 10
เมษายน 2567 ณ อนุสรณ์สถาน 14 ตุลา และร่วมเสนอปฏิบัติการของพรรคการเมืองและรัฐบาล
เพื่อคืนความยุติธรรมให้แก่ผู้ถูกปราบปรามในห้วงเวลา เมษา-พฤษภา 2553 และการสร้างการเมืองในระบอบประชาธิปไตยที่อำนาจเป็นของประชาชนจริง