วันศุกร์ที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2567

"อานนท์" เขียนถึงลูก เล่าการเดินทางจากเรือนจำฯกรุงเทพฯ - เชียงใหม่, เรือนจำเชียงใหม่ - กรุงเทพฯ เผย การเดินทางไกลเพื่อต่อสู้ยืนยันความจริงของพ่อดำเนินไปอย่างช้า ๆ การขึ้นศาลสำหรับพ่อเป็นส่วนหนึ่งของการต่อสู้อย่างภาคภูมิ

 


"อานนท์" เขียนถึงลูก เล่าการเดินทางจากเรือนจำฯกรุงเทพฯ - เชียงใหม่, เรือนจำเชียงใหม่ - กรุงเทพฯ เผย การเดินทางไกลเพื่อต่อสู้ยืนยันความจริงของพ่อดำเนินไปอย่างช้า ๆ การขึ้นศาลสำหรับพ่อเป็นส่วนหนึ่งของการต่อสู้อย่างภาคภูมิ


วันที่ 25 เมษายน 2567 เพจเฟสบุ๊ค"อานนท์ นำภา" โพสรูปจดหมายจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ พร้อมข้อความระบุว่า


9 ชั่วโมงบนรถตู้เรือนจำพิเศษกรุงเทพ 15 ชั่วโมงบนรถหกล้อเรือนจำเชียงใหม่ และ 15 วันเต็มที่โดนกักตัว เย็นวานนี้พ่อจึงได้ย้ายกลับมาแดน 4 เช้านี้นั่งจิบกาแฟ เขียนจดหมายถึงลูกทั้งสอง หายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้ง


25 เม.ย. 2567 ถึงปราณและขาล ลูกรักทั้งสอง


การเดินทางไกลเพื่อต่อสู้ยืนยันความจริงของพ่อดำเนินไปอย่างช้า ๆ การขึ้นศาลสำหรับพ่อเป็นส่วนหนึ่งของการต่อสู้อย่างภาคภูมิ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการได้ถามความเพื่อชี้แจงแสดงเหตุผลของพวกเรากลุ่มราษฎรต่อช้อเสนอเมื่อปี 2563 ในชั้นศาล ต่อหน้าผู้พิพากษาและผู้เข้าร่วมรับชมการพิจารณา ยิ่งตอกย้ำความจริงในสิ่งที่พ่อปราศรัย และแสดงให้เห็นถึงความจริงใจต่อประเทศชาติ ความเหน็ดเหนื่อยจึงเป็นเรื่องขี้หมามาก ๆ สำหรับพ่อ ในทางตรงข้ามมันยิ่งเติมเชื้อไฟในการต่อสู้ เป็นเหมือนลมใต้ปีกและเป็นสิ่งย้ำเตือนว่าเรากำลังต่อสู้เพื่อเปลี่ยนแปลงสังคมอย่างแท้จริง


การได้เดินทางไปขึ้นศาลที่เชียงใหม่ครั้งนี้ มีเพื่อนมิตรที่รักมาต้อนรับและมาให้กำลังใจ มิตรภาพนี้คือสิ่งที่เป็นพลังให้พ่อต่อสู้เสมอมา รวมถึงมิตรภาพของเรือนจำเชียงใหม่ ทั้งผู้คุมและเพื่อนผู้ต้องขัง ขอได้รับคำขอบคุณและฝากลูกทั้งสองขอบคุณบรรดาลุงป้าน้าอาเหล่านั้นแทนพ่อด้วย


ขากลับ รถเรือนจำเชียงใหม่มีเพื่อนผู้ต้องขังติดรถมาด้วย 9 คน เป็นนักโทษประหารที่ติดรถมาลงเรือนจำบางขวาง 6 คน อีก 3 คนทยอยลงตามลำพูนและเรือนจำลำปาง ฝากให้กำลังใจเพื่อน ๆ ผู้ต้องขังเหล่านั้นให้ต่อสู้คดีด้วย


รักและคิดถึงลูกทั้งสองคน

อานนท์ นำภา แดน 4


สำหรับ อานนท์ นำภา ทนายความจากศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน นั้น ขณะนี้ถูกคุมขังอยู่ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพ ภายหลังศาลอาญาพิพากษาจำคุก 4 ปี ปรับเป็นเงิน 20,000 บาท โดยไม่รอลงอาญา ในคดี #มาตรา112 เมื่อวันที่ 26 กันยายน 2566 เหตุจากการขึ้นปราศรัยใน #ม็อบ14ตุลา63


ต่อมา 17 ม.ค. 67 ศาลอาญาสั่งจำคุก "อานนท์ นำภา" เพิ่มอีก 4 ปี จากคดีมาตรา 112 กรณีโพสต์เฟซบุ๊กปี 2564 โดยให้บวกโทษเก่าอีก 4 ทำให้อานนท์มีโทษจำคุกรวมแล้ว 8 ปี


โดยเมื่อ วันที่ 9-11 เม.ย. 2567 ที่ผ่านมา ศาลจังหวัดเชียงใหม่นัดสืบพยานคดีมาตรา 112 ของอานนท์ นำภา กรณีปราศรัยที่ลานหอศิลป์ มช. เมื่อวันที่ 23 พ.ย. 63


โดยศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนรายงานว่าอานนท์ถูกนำตัวจากกรุงเทพฯ ไปคุมขังที่เรือนจำกลางเชียงใหม่ในช่วงก่อนวันขึ้นศาล


ทั้งนี้เมื่อวันที่ 9 เมษายน ศาลจังหวัดเชียงใหม่ได้เลื่อนสืบพยานคดี #ม112 ของอานนท์ นำภา กรณีปราศรัยที่หอศิลป์ มช. ไปเป็นวันที่ 10 เมษายน 2567


เนื่องจาก จนท.ราชทัณฑ์ เพิ่งนำตัวอานนท์เดินทางจากกรุงเทพฯ ในช่วงเช้าวันที่ 9 เมษายน และได้นำตัวไปถึงเรือนจำกลางเชียงใหม่ช่วงเย็น


ต่อมา วันที่ 10 เมษายน ศาลจังหวัดเชียงใหม่สืบพยานคดีมาตรา 112 ของอานนท์ นำภา กรณีปราศรัยที่หอศิลป์ มช. เมื่อวันที่ 23 พ.ย. 63 โดยสืบพยานโจทก์ได้ 2 ปาก และให้เลื่อนไปสืบพยานต่อในวันที่ 11 เมษายน 


สำหรับบรรยากาศ ศูนย์ทนายฯรายงานว่า เจ้าหน้าที่ศาลอนุญาตให้มีผู้เข้าฟังในห้องได้ 5 คน โดยมีการตั้งแผงเหล็กกันทางเข้าไปห้องพิจารณา แต่ได้จัดห้องถ่ายทอดสดการพิจารณาให้ผู้เข้าฟังคนอื่น ๆ ได้ติดตามการสืบพยาน


โดยมีตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบจำนวนกว่า 30 นาย จัดกำลังอยู่บริเวณศาล


จากนั้น 11 เมษายน 2567 ศาลจังหวัดเชียงใหม่สืบพยานคดีมาตรา 112 ของอานนท์ นำภา กรณีปราศรัยหอศิลป์ มช. เป็นวันที่ 2 โดยสืบพยานโจทก์ได้อีก 1 ปาก เป็นนักวิชาการภาษาไทย จาก ม.แม่โจ้


ฝ่ายโจทก์ยังเหลือพยานอีก 3 ปาก ขณะฝ่ายจำเลยแถลงขอสืบพยาน 4 ปาก ศาลกำหนดวันนัดสืบพยานเพิ่มวันที่ 24 - 25 ธ.ค. 2567


อานนท์ถูกนำตัวกลับไปคุมขังที่เรือนจำกลางเชียงใหม่ และถูกส่งตัวกลับเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ในช่วงวันหยุดสงกรานต์ เนื่องจากมีนัดสืบพยานคดี #คนอยากเลือกตั้ง UN62 ที่ศาลอาญา วันที่ 18-19 เม.ย. 2567


#UDDnews #ยูดีดีนิวส์ #อานนท์นำภา #นิรโทษกรรมประชาชน