สภ.เมืองนนทบุรี จัดใหญ่รับประชาชนที่ถูกออกหมายเรียกมารายงานตัว
กรณีการชุมนุมต้อนรับนายกฯ และคณะ ตรวจสถานการณ์น้ำ จ.นนทบุรี เมื่อ 30 ก.ย.
ที่ผ่านมา
วันนี้ (8 ต.ค. 64) เมื่อเวลา 10.00 น.ผู้สื่อข่าวรายงานว่า
จากเหตุการณ์วันที่ 30 ก.ย.ที่ผ่านมา นายกฯ และคณะ ล่องเรือเพื่อตรวจสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ของจังหวัดนนทบุรี
โดยกำหนดขึ้นเรือจากท่าน้ำปากเกร็ด ล่องเรือมาขึ้นที่ท่าน้ำนนท์
ในช่วงบ่ายแต่เนื่องจากมีมวลชนผู้รักประชาธิปไตยที่เห็นต่างมาคอยต้อนรับเป็นจำนวนมาก
เจ้าหน้าที่ตำรวจและทีมรักษาความปลอดภัยเกรงจะเกิดความวุ่นวายขึ้น จึงเปลี่ยนแผนการขึ้นฝั่งทำภารกิจตรวจสถานการณ์น้ำท่วมของนายกฯและคณะ
โดยให้เปลี่ยนจุดหมายไปขึ้นที่ท่าน้ำเกียกกายแทน
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ออกหมายเรียกกลุ่มมวลชนที่มารวมตัวรอรับนายกฯและคณะ
ที่ฝ่าฝืน พ.ร.ก.การชุมนุม จำนวน 17 คน ให้มารายงานตัวรับทราบข้อกล่าวหา
ล่าสุดวันนี้
(8 ต.ค.) ประชาชนที่ถูกออกหมายเรียกได้เดินทางมารายงานตัว
จำนวน
10 คน ประกอบด้วย
1) นายเจษฎา ศรีปลั่ง เครือข่ายคนรุ่นใหม่นนทบุรี
2) น.ส.กนกพร วิทยเวชอมรชัย เครือข่ายคนรุ่นใหม่นนทบุรี
3) นายเจษฎาภรณ์ โพธิ์เพชร (บอมเบย์) กลุ่มราษฎรเอ้ย
4)
นางเปมิกา มีผล
5)
น.ส.บังอร แซ่เหลียง
6)
นายมินทิรา บูรพาชัชวาล
7)
นางวรวรรณ แซ่อั้ง (ป้าเป้า)
8)
น.ส.สุพัตรา นามธงชัย
9)
นายชัชชัย เบียดกลาง กลุ่มเครือข่ายคนรุ่นใหม่นนทบุรี
10)
น.ส.ณัฐวรรณ สุขสมนิล
ทั้งหมดพร้อม
นายคุณากรหรือไวท์ มั่นนทีรัย ทนายสิทธิมนุษยชนและทีมงานทนายความอีกรวม 6 คน
โดยมีเจ้าหน้าที่จากสำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ เข้าร่วมสังเกตุการณ์ในครั้งนี้ด้วย
2 คน
นายเจษฎา
ศรีปลั่ง หรือเจมส์ เครือข่ายคนรุ่นใหม่นนทบุรี กล่าวว่า
วันนี้ถือว่าเป็นการรายงานตัวอีกครั้ง สำหรับผมเองเป็นหมายที่ 4 หลังจากห่างหายไปนานกับหมาย
ก็ถือว่าเป็นหมายประวัติศาสตร์ครับ ว่าในการที่นายกรัฐมนตรีลงพื้นที่
ไม่เคยมีรัฐบาลชุดไหนที่ ที่มาใช้กำลังด้วยการใช้หมายจับ ไม่ว่ายิ่งลักษณ์ ชินวัตร
เคยมีคนไปเป่านกหวีดข้างๆ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตรไม่เคยออกหมายจับ
หรือแม้กระทั่งอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ลงพื้นที่ สมัคร สุนทรเวช ลงพื้นที่โดนคนโห่
คนไล่ ก็ไม่เคยออกหมาย แต่ประยุทธ์ จันทร์โอชา ไม่สามารถลงท่าได้ ก็เลยเอามาดำเนินคดี
ซึ่งผมคาดว่าคนที่จะสั่งมาก็รู้แล้วล่ะครับว่าใคร ก็ไล่เรียงลงมาเลยตั้งแต่นายกรัฐมนตรี
มาถึงผู้ว่าฯ ลงมาถึงผู้การของนนทบุรี ที่แปลกใจคือคนนนทบุรีโดน นายกฯ ไม่ใช่คนนนท์
ตำรวจไม่ใช่คนนนท์ ผู้ใหญ่ไม่ใช่คนนนท์ แต่ออกหมายจับคนนนท์ มันน่าแปลกใจไหม
มาลงพื้นที่อย่างนี้อย่ามาลงดีกว่า ถ้ามาลงพื้นที่แล้วมาสร้างความเดือดร้อน
ดำเนินคดีประชาชนขนาดนี้ก็อย่ามา เพราะฉะนั้นผมเลยเรียกหมายนี้ว่าหมาย “ไม่เข้าท่า"
หมายถึงประยุทธ์ จันทร์โอชา ไม่เข้าท่า(เรือ) ก็เลยเรียกว่าหมายไม่เข้า "ท่า"
โดยขณะนี้ทราบว่าประมาณ 18 คน ที่จะโดนรายงานตัว
และบางส่วนก็อาจจะต้องเลื่อนอีกครั้งหนึ่งเนื่องจากคดีการไล่ประยุทธ์ จันทร์โอชา
ออกคดีมากมายขณะนี้มีคดีอยู่ที่ศาลประมาณ 600 กว่าคน
ที่โดนคดีการขับไล่ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรีคนแรกหรือเปล่า
ที่มีการออกหมายมากที่สุด และก็ดำเนินคดีคนมากที่สุด เพราะฉะนั้นก็ขอฝากไว้
อันนี้ก็เป็นอีกคดีหนึ่งในวันนี้ก็ได้ข่าวว่ากลัวคนที่จะมาให้กำลังใจ
จะมาเยอะมากก็เลยใช้คฝ. รถจีโน่ อะไรก็ว่ากันไป
โดยการเตรียมการของเจ้าหน้าที่
มีการบล็อคถนนทางเข้าสถานีตำรวจภูธรเมืองนนทบุรี ด้วยแบริเออร์ และขึงลวดหนามหีบเพลงทั้งสองด้านของถนน
ทั้งฝั่งหน้าเรือนจำและฝั่งท่าน้ำหอนาฬิกาท่าน้ำนนท์ นอกจากนี้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมฝูงชนหรือคฝ.
พร้อมโล่ ปืนยิงกระสุนยาง อาวุธครบมือ ตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบ
รถฉีดน้ำแรงดันสูงหรือ “จีโน่” และรถเครื่องขยายเสียงประกาศทางการชุมนุม โดยใช้กำลังเจ้าหน้าที่ทั้งหมด
4 กองร้อย หรือ 600 คน
โดยมีการแจ้งข้อกล่าวหากับประชาชนที่มารายงานตัวตามหมายเรียก
ในข้อกล่าวหา ฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ การกระทำของผู้ต้องหาเป็นความผิดฐาน "ร่วมกันมั่วสุมกันตั้งแต่สิบคนขึ้นไป,
ใช้กำลังประทุษร้าย หรือก่อให้เกิดความวุ่นวายขึ้นในบ้านเมือง
ไม่ยอมเลิกการมั่วสุมเมื่อเจ้าพนักงานสั่งให้เลิกและฝ่าฝืนคำสั่งจังหวัดนนทบุรี
ที่ 2415/2564
เรื่อง สั่งปิดสถานที่เป็นการชั่วคราว (ฉบับที่ 62) ลงวันที่ 31 สิงหาคม 2564 ข้อ 4 การจัดกิจกรรมที่มีความเสี่ยงต่อการแพรโรค ออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 อันเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา215, 216, 83
ฝ่าฝืนพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 คำสั่งจังหวัดนนทบุรี ที่ 2415/2564 เรื่อง
ปิดสถานที่เป็นการชั่วคราว (ฉบับที่ 62) ข้อ 4 การจัดกิจกรรมที่มีความเสี่ยงต่อการแพรโรค
จึงได้แจ้งข้อกล่าวหาให้ผู้มารายตัวรับทราบตามฐานความผิดดังกล่าว
ขณะที่
นายเจษฎา ศรีปลั่ง กลุ่มเครือข่ายคนรุ่นใหม่นนทบุรี
หนึ่งในผู้ถูกออกหมายเรียกดังกล่าว หลังเดินทางมารับทราบข้อกล่าวหาที่
สถานีตำรวจภูธรเมืองนนทบุรี เสร็จสิ้นลงแล้ว ได้เดินทางต่อไปที่
สถานีตำรวจภูธรเมืองปากเกร็ด เพื่อเข้าแจ้งความ ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดี
ออกหมายเรียกกับกลุ่มมวลชน ฐานผิดฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ
เหมือนกลุ่มพวกตนด้วยเหมือนกัน ที่เดินทางมายืนถือป้ายต้อนรับ นายกฯและคณะ ด้วยที่บริเวณท่าน้ำปากเกร็ด
เมื่อวันที่ 30
ก.ย.ที่ผ่านมานี้ด้วยตามมาตรฐานเดียวกัน
โดยประชาชนที่มารายงานตัวทั้ง
10 คนในวันนี้ ได้พิมพ์ลายนิ้วมือเพื่อทำประวัติ พร้อมสอบปากคำเพิ่มเติม
ซึ่งใช้เวลาทั้งหมด 2 ชม. ทั้งหมดให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา
ก่อนจะเดินทางกลับออกไป
และพนักงานสอบสวนได้นัดหมายผู้รับทราบข้อกล่าวหาทั้งหมดให้มารายงานตัวกันอีกครั้งในวันที่
1 พ.ย. 64 เวลา 09.00 น.ที่สถานีตำรวจภูธรเมืองนนทบุรี
ก่อนจะนำส่งตัวไปที่ศาลจังหวัดนนทบุรีต่อไป
ทั้งนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมฝูงชนได้มีการควบคุมตัวผู้มาสังเกตุการณ์
เป็นชาย 1
คน หญิง 1 คน
เป็นผู้ไลฟ์สดทางด้านหน้านอกแนวกั้นลวดหนามฝั่งท่าน้ำหอนาฬิกานนท์
เป็นเพจส่วนตัวชื่อจินนี่ และเพจขุนแผน ได้ถูกควบคุมตัวขึ้นรถควบคุมผู้ต้องหาออกไปจากพื้นที่
โดยทั้งสองได้กล่าวกับเจ้าหน้าที่ว่า "ผิดอะไร ไลฟ์สดผิดตรงไหน"
#นนทบุรี #ม็อบ30กันยายน
#UDDnews
#ยูดีดีนิวส์
ประมวลภาพ