"คณะราษฎรรณรงค์ยกเลิก112" นัดชุมนุมวันที่ 31 ต.ค. นี้ แยกราชประสงค์ พร้อมตั้งโต๊ะล่ารายชื่อยกเลิก112 ด้านรุ้งกล่าวนี่คือภารกิจที่ต้องทำร่วมกัน ขณะที่สมยศลั่นเตรียมพบบิ๊กเซอร์ไพรส์
วันนี้ (24 ต.ค. 64) เวลา 16.30 น. ที่ลานอากง หน้าศาลฎีกา กลุ่มราษฎร นำโดย นายสมยศ พฤกษาเกษมสุข, น.ส.ภัสราวลี ธนกิจวิบูลย์ผล, น.ส. ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล, นายธนัตถ์ ธนากิจอำนวย, น.ส.สุพิชฌาย์ ชัยลอม หรือเมนู, น.ส.ธนพร วิจันทร์ หรือไหม แกนนำเครือข่ายแรงงานเพื่อสิทธิประชาชน และตัวแทนหลากหลายกลุ่ม รวมตัวกันในนาม"คณะราษฎรณรงค์ยกเลิก 112" หรือ ครย. ร่วมกันแถลงข่าวแนวทางการเคลื่อนไหวเรียกร้องให้ยกเลิกประมวลกฎหมายอาญามาตรา112 พร้อมแจ้งรายละเอียดการชุมนุมในวันที่ 31 ตุลาคมนี้ ที่แยกราชประสงค์
โดยเนื้อหาในแถลงการณ์ระบุว่า นับตั้งแต่วันที่ 19 พ.ย. 63 ที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีได้ประกาศต่อสาธารณะว่า จะมีการบังคับใช้ “กฎหมายทุกฉบับ-ทุกมาตรา” กับประชาชนที่มาชุมนุ่มหรือแสดงออกทางการเมือง ทำให้ประมวลกฎหม่ายอาญามาตรา 112 ถูกนำมาใช้อย่างกว้างขวางอีกครั้ง แม้กฎหมายดังกล่ววจะไม่มีการบังคับใช้มาตั้งแต่ ปี 2561 การนำประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 กลับมาใช้อีกครั้ง จึงสะท้อนถึงความไม่แยแสของรัฐ ต่อหลักสิทธิมนุษยชน ต่อหลักประชาธิปไตย และต่อประชาคมโลก ที่ต่างวิพากษ์วิจารณ์ว่า กฎหมายมาตรานี้เป็นกฎหมายที่คลุมเครือ และรุนแรงเกินสัดส่วนต่อการใช้เสรีภาพในการแสดงออก และขัดกับกติกาสากลระหว่างประเทศ อีกทั้ง มันยังสะท้อนว่า ‘มาตรา 112’ คือ เครื่องมือในการจัดการกับประชาชนที่เห็นต่างจากผู้มีอำนาจรัฐ
ทั้งนี้ในแถลงการณ์ถึงปัญหาของกฎหมายอาญามาตรา 112 โดยสามารถสรุปได้อย่างน้อย 10 ข้อ ดังนี้
1. มาตรา 112 ใครแจ้งความก็ได้ เนื่องจาก มาตรา 1 12 อยู่ในหมวดความนั่นคงแห่งรัฐ ทำให้บุคคลทั่วไปสามารถเป็นผู้กล่าวโทษในคดีได้ และนำไปสู่การฟ้องกลั่นแกล้งกัน
2. มาตรา 112 มีอัตราโทษสูง เนื่องจาก มาตรา 112 กำหนดอัตราโทษจำคุกไว้ที่ 3 ถึง 15 ปี ซึ่งเป็นอัตราโทษเดียวกับความผิดฐานฆ่าคนตายโดยไม่เจตนา และมีโทษสูงสุดสูงกว่าความผิดฐานหมิ่นประมาทบุคคลธรรมดาหลายเท่า
3. มาตรา 112 ไม่มีชอบเขตชัดเจน เนื่องจาก มาตรา 112 ได้รวมทั้งการ "หมิ่นประมาท ดูหมิ่นหรือแสดงความอาฆาตมาดร้าย" เข้ามาเป็นความผิดในมาตราเดียวกัน ทำให้ยากต่อการตีความขอบเขต
4. มาตรา 112 ไม่คุ้มครองการติชมโดยสุจริต เนื่องจาก มาตรา 112 ไม่มีการคุ้มครองการแสดงความคิดเห็นที่เป็นการติซมสุจริต หรือ เพื่อประโยชน์สาธารณะ ซึ่งโดยหลักแล้วต้องได้รับการคุ้มครอง
5. มาตรา 112 มีการบังคับใช้อย่างความกว้างขวาง เนื่องจาก มาตรา 112 มีบทบัญญัติที่ไม่ได้ให้ขอบเขตที่ชัดเจน ทำให้เกิดการตีความบังคับใช้อย่างกว้างขวาง
6. มาตรา 112 ทำให้เจ้าหน้าที่เลือกปฏิบัติ เนื่องจาก มาตรา 12 อยู่ในหมวดความมั่นคงแห่งรัฐ ทำให้กระบนการยุติธรรมไม่กล้าปกป้องสิทธิผู้ต้องหา เช่น การให้สิทธิ์ในการประกันตัว
7. มาตรา 112 ทำให้จำเลยเสียเปรียบในการต่อสู้ เนื่องจาก จำเลยคดีมาตรา 112 จำบวนมากจะไม่ได้ประกันตัวในระหว่างการพิจารณาแล้ว การแสวงหาพยานหลักฐานฝ่ายจำเลยมักเป็นไปได้ยาก และนำไปสู่ภาวะจำยอมรับสารภาพ
8. มาตรา 112 มีโทษหนักเบาตามสถานการณ์การเมือง เนื่องจาก มาตรา 112 เป็น 'คดีนโยบาย'ที่แปรผันตามผู้มีอำนาจรัฐ ซึ่งชัดต่อหลักการปกครองด้วยกฎหมาย หรือหลักนิติธรรม
9. มาตรา 112 สร้างผลกระทบต่อสังคม เนื่องจาก ปัญหาของตัวบทและการบังคับใช้มาตรา 112ได้นำไปสู่บรรยากาศการแห่งความกลัวในการใช้เสริภาพในการแสดงออก
10. มาตรา 112 สร้างผลกระทบต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ เนื่องจาก ปัญหาของตัวบทและการ บังคับใช้ มาตรา 112 จึงส่งผลให้การวิพากษ์วิจารณ์หรือการติชมโดยสุจวิตต่อสถาบันกษัตริย์ทำ ไม่ได้ หรือตรวจสอบไม่ได้
ในแถลงการณ์ยังระบุว่า ปัจจุบัน"ผู้ต้องขัง" ในคดี 112 ที่ไม่ได้รับสิทธิในการประกันตัว อย่างน้อย 5 คน คือ อานนท์ นำภา, พริษฐ์ ชิวารักษ์, ไผ่-จตุภัทร์ บุญภัทรรักษา, ไมค์-ภาพงศ์ จาดนอก และ เบนจา อะปัญ แม้บุคคลดังกล่าวจะไม่มีพฤติการณ์ที่จะหลบหนีก็ตาม รวมถึงยังมีผู้ต้องขังในคดี 112 ที่ศาลมีคำพิพากษาแล้ว อย่างคน คือ ‘อัญชัน’ และ ‘บุรินทร์’
อีกทั้ง ในรอบทศวรรษที่ผ่านมา มาตรา 112 ทำให้มีนักโทษคดีการเมืองมากมาย และทำให้มีผู้ที่ต้องลี้ภัยทางการเมือง ทั้งที่ยังมีชีวิตอยู่ ทั้งที่สูญหาย และทั้งที่เสียชีวิตอย่างปริศนา
ในการนี้ ภาคประชาชนในนามกลุ่ม “ราษฎร” จึงมีความประสงคในการเชิญชวนประชาชนให้มาร่วมกันเป็นส่วนหนึ่งในการรณรงค์และขับเคลื่อนให้มีการ “ยกเลิกมาตรา 112” เพื่อสร้างบรรทัดฐานสิทธิเสรีภาพตามหลักประชาธิปไตยสากล
โดยทางกลุ่มราษฎรจะใช้สิทธิตามรัฐรรมนูญ ทำกิจกรรมเข้าชื่อเสนอกฎหมาย หรือ การลงลายมือชื่อของสิทธิเลือกตั้งไม่น้อยกว่า 10,000 รายชื่อ เพื่อเสนอร่างกฎหมายยกเลิกประมาลกฎหมายอาญา มาตรา 112 สภา โดยในวันที่ 31 ต.ค. 64 จะเป็นวันเริ่มต้นก้าวแรกของการรณรงค์เพื่อยกเลิก 112
ด้าน ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล หรือ รุ้ง ในฐานะตัวแทนจากกลุ่มคณะราษฎรยกเลิก 112 ได้กล่าวถึงสาระสำคัญของร่างยกเลิกมาตรา 112 ดังนี้
1. ยกเลิกประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112
2. แก้ไขกฎหมายเกี่ยวกับความผิดฐานดูหมิ่น-หมิ่นประมาท ทั้งระบบ
3. ยกเลิกโทษจำคุกในความผิดฐานดูหมิ่น-หมิ่นประมาท
โดยในวันอาทิตย์ที่ 31 ตุลาคม 2564 ขอให้ทุกคนมารวมตัวกันที่แยกราชประสงค์ โดยกิจกรรมจะเริ่มตั้งแต่ 16.00 - 21.00 น. ถ้าเราสามารถทำให้การเข้าชื่อครั้งนี้สำเร็จได้ สิ่งที่จะเกิดขึ้นคือมาตรา 112 จะถูกยกเลิก กฎหมายหมิ่นทั้งระบบจะถูกปรับ จากโทษจำคุกเหลือเพียงแค่โทษปรับเพียงอย่างเดียว นี่คือภารกิจที่ประชาชนคนไทยทุกคนจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องทำร่วมกัน รุ้งกล่าว
ขณะที่นายสมยศ กล่าวว่า ขอให้มวลชนเตรียมบัตรประชาชนมาร่วมลงชื่อ และจะมีบิ๊กเซอร์ไพรส์ในการชุมนุมครั้งนี้ด้วย และทางกลุ่มจะมีการเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่องต่อไปในอนาคต
#ครย #ราษฎรประสงค์ยกเลิก112 #UDDnews #ยูดีดีนิวส์