ศาลยกฟ้อง
“ณัชพล-ชัยพัทธ์” 2 ผู้ชุมนุม #ม็อบ17ตุลา63 คดีฝ่าฝืนพ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ
ร้ายแรง ชี้! เป็นการชุมนุมโดยสงบ ไม่มีอาวุธ
ใช้สิทธิเสรีภาพตามรธน.
วันนี้
(12 ก.ย. 2563) ที่ศาลแขวงธนบุรี ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ได้รายงานกรณีศาลนัดอ่านคำพิพากษาคดีฝ่าฝืน
พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ร้ายแรง ของ 2 ผู้ชุมนุม ได้แก่ ณัชพล ไพรลิน และ ชัยพัทธ์
ศักดิ์ศรีเจริญยิ่ง จากการชุมนุมเมื่อ 17 ตุลาคม 2563 โดยศูนย์ทนายฯ
ได้โพสต์ผ่านทวิตเตอร์ ความว่า
“ศาลแขวงธนบุรี
#ยกฟ้อง ณัชพล-ชัยพัทธ์ คดีฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ร้ายแรง เหตุชุมนุม #ม็อบ17ตุลา63 ที่วงเวียนใหญ่”
“ศาลชี้เป็นการชุมนุมโดยสงบ
ไม่มีอาวุธ เป็นการใช้สิทธิเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญ ไม่กระทบความมั่นคงรัฐ หรือความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน”
สำหรับคดีดังกล่าว
พนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีศาลแขวง 7 ได้ยื่นฟ้องทั้ง 2 คนเมื่อ 8 เม.ย. 2564
ที่ศาลแขวงธนบุรี เป็นคดีหมายเลขดำที่ 738/2564 ด้วยข้อหา ฝ่าฝืนประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรง ตาม
พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ จากกรณีชุมนุมเมื่อ 17 ตุลาคม 2563 บริเวณรถไฟฟ้าบีทีเอสวงเวียนใหญ่
หลังศาลรับฟ้อง ทนายจำเลยได้ยื่นประกัน ศาลให้ประกันโดยไม่ต้องวางหลักประกัน
เหตุของคดีนี้สืบเนื่องจากเหตุสลายการชุมนุม
ช่วงเช้ามืดในวันที่ 15
ต.ค. 2563 บริเวณพื้นที่รอบทำเนียบรัฐบาล
และช่วงเย็นของวันที่ 16 ต.ค. 2563 บริเวณใต้สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสสยามถึงบริเวณทางแยกปทุมวัน
เหตุการณ์ดังกล่าวมีแกนนำและผู้ชุมนุมหลายรายถูกจับกุม
นำมาสู่การจัดแฟลชม็อบไร้แกนนำกระจายในหลายจุดทั่ว กทม. และต่างจังหวัด ในวันที่ 17
ต.ค. 63 เพื่อแสดงความไม่พอใจเหตุการณ์สลายการชุมนุม
และแสดงพลังขับไล่ พล.อ.ประยุทธ์
สำหรับคำฟ้องในคดีนี้พนักงานอัยการกล่าวหาว่า
เมื่อวันที่ 17
ต.ค. 63 เวลากลางวันและกลางคืนต่อเนื่องกัน
จำเลยทั้งสองกับพวกของจำเลยรวมหลายคน ได้ร่วมกันชุมนุมหรือมั่วสุมกันตั้งแต่ 5
คนขึ้นไป ในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร
ที่มีการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรง บนถนนสมเด็จพระเจ้าตากสิน
ระหว่างแยกตากสินถึงบริเวณวงเวียนใหญ่ อันเป็นถนนสาธารณะที่ใช้เป็นทางสัญจร
โดยกีดขวางการจราจรจนไม่อาจใช้สัญจรได้ตามปกติ อันเป็นการฝ่าฝืนกฎหมาย
ในชั้นสอบสวนจำเลยทั้งสองให้การปฏิเสธ
พนักงานอัยการระบุว่า
การกระทำของณัชพลและชัยพัทธ์เป็นความผิดฐาน ชุมนุม หรือมั่วสุมตั้งแต่ 5 คนขึ้นไปในเขตพื้นที่ที่มีการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรง
โดยกีดขวางการจราจรจนไม่อาจใช้สัญจรได้ตามปกติ
อันเป็นการฝ่าฝืนประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรง
และข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 ประกอบมาตรา 11 ของ พ.ร.ก. ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 รวมทั้งประกาศหัวหน้าผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรง
ฉบับที่ 4 เรื่องห้ามมิให้มีการชุมนุมหรือมั่วสุมข้อ 1
(1) และข้อ 3 ทั้งนี้
ข้อหาดังกล่าวมีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000
บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
และในที่สุด
วันนี้ศาลได้ยกฟ้องจำเลยทั้ง 2 คน โดยศาลชี้เป็นการชุมนุมโดยสงบ ไม่มีอาวุธ
เป็นการใช้สิทธิเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญ ไม่กระทบความมั่นคงรัฐ หรือความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน
#UDDnews #ยูดีดีนิวส์ #TLHR #ม็อบ17ตุลา63