แหวน-ณัฏฐธิดา
ร้อง กมธ. ถูกคุมขังยุคคสช. คดี 112 ติดคุกฟรี 3 ปี 6
เดือน ศาลยกฟ้อง ไร้ความผิด และไร้การเยียวยาใด ๆ ทั้งสิ้น “ณัฐชา”
แจ้ง นำเรื่องเข้าที่ประชุมวันนี้เลย
วันนี้
(7 ก.ย. 2565) เวลา 13.00 น. ณ
จุดรับยื่นหนังสือ ชั้น 1 (โซนกลาง) อาคารรัฐสภา นายณัฐชา
บุญไชยอินสวัสดิ์ ส.ส.กทม. พรรคก้าวไกล ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.)
พัฒนาการเมือง การสื่อสารมวลชน และการมีส่วนร่วมของประชาชน สภาผู้แทนราษฎร รับมอบหนังสือเรื่องการขอให้มีหนังสือแจ้งไปยังผู้บัญชาการตำรวจนครบาลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
(ยกฟ้อง ยื่นเยียวยา ม.112) จาก แหวน-ณัฏฐธิดา มีวังปลา
จำเลยในมาตรา 112 ซึ่งต่อมาศาลยกฟ้อง โดยมี พิธา
ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล มาร่วมรับฟังและพูดคุยกับแหวน-ณัฏฐธิดา ด้วย
ด้านนายณัฐชา
บุญไชยอินสวัสดิ์ ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการการพัฒนาการเมืองฯ กล่าวว่า
ได้รับเรื่องในกลุ่มผู้เสียหายที่ถูกฝากขังในคดีอาญามาตรา 112 ซึ่งตอนนี้ศาลมีคำวิจิจฉัยแล้วว่า
"ยกฟ้อง" แต่ว่าเกิดความเสียหายเกิดขึ้นแล้ว
เพราะว่าระหว่างที่ไปฝากขังก็ทำให้สูญเสียอิสรภาพ
ซึ่งจะต้องนำเรื่องเข้าสู่ที่ประชุมคณะกรรมาธิการต่อไป
โดยกรณีนี้จะเป็นกรณีตัวอย่าง ของอีกหลาย ๆ คดี
ที่กำลังถูกจับกุมคุมขังอยู่ในขปัจจุบันนี้
และยังไม่มีการตัดสินถึงที่สุดว่ากระทำผิดหรือไม่ แต่ก็ถูกคุมขังแล้ว
อย่างกรณีคุณแหวนก็ 3 ปี 6 เดือน
ซึ่งในที่สุดศาลยกฟ้อง
สิ่งที่เกิดขึ้นจึงเป็นกรณีตัวอย่างต่อน้อง
ๆ ที่กำลังถูกจับกุมคงขังอยู่ในขณะนี้
โดยทางกรรมาธิการจะรับหนังสือเรื่องนี้ไปพิจารณา และจะเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
โดยเฉพาะอย่างยิ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมนายสมศักดิ์ เทพสุทิน
และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด พูดคุยถึงแนวทางออกในเรื่องนี้
รวมถึงเจ้าหน้าที่ต่าง ๆ ที่ผู้ร้อง(คุณแกวน)
ได้กล่าวถึงว่าถูกกระทำทั้งในเรือนจำในค่ายทหาร
โดยเรื่องนี้จะถูกบรรจุเข้าระเบียบวาระการประชุมของกรรมาธิการในวันนี้ช่วง 13.30 น.
นายณัฐชา กล่าว
ขณะที่
แหวน-ณัฏฐธิดา กล่าวว่า ตนในฐานะจำเลยมาตรา 112 ถูกจับกุมในสมัยการยึดอำนาจโดยคณะรักษาความสงบแห่งชาติ
(คสช.) ซึ่งเป็นการไปอุ้มตนยังบ้านพัก โดยถูกฝากขังในเรือนจำ 3 ปี 6 เดือน ไม่ได้รับสิทธิประกันตัว
ทำให้ตนเสียสิทธิในการออกมาต่อสู้คดี
ไม่มีโอกาสในการออกมาหาพยานและหลักฐานในการต่อสู้คดี
ภายหลังจากได้รับการประกันตัวเมื่อวันที่
4 กันยายน 2562 ซึ่งถูกฝากขังตั้งแต่ 14 มีนาคม 2558 ถูกอุ้มโดยทหาร จับโดยทหาร
ไต่สวนโดยตำรวจ ยกฟ้องโดยศาลพลเรือน
สิ่งที่สูญเสียไปก็คือทุกสิ่งทุกอย่างที่เรามีชื่อเสียง อาชีพการงาน
เราสู้คดีจนชนะคดีแล้ว ศาลยกฟ้อง แต่ภาครัฐไม่เคยที่จะเยียวยา
ศาลให้เหตุผลว่า
ยกผลประโยชน์แห่งความสงสัยให้จำเลย ซึ่งเราพยายามยื่นเยียวยามาตลอด
และพยายามอธิบายกับศาลมาโดยตลอดว่าการจับกุมเป็นเพียงแค่กระดาษใบเดียวที่มีความไม่ชอบธรรม
เป็นการสร้างหลักฐานเท็จโดยทหาร
และมีข้อแลกเปลี่ยนให้ตนยอมรับเงื่อนไขของทหารโดยการให้เราถอนตัวจากการเป็นพยาน 6 ศพวัดปทุมฯ
โดยแลกกับเงิน 12 ล้าน
สิ่งนี้เมื่อทหารได้จับเราเข้าไปในค่ายทหาร
รีดเค้นและสอบสวน สิ่งนี้สังคมไม่เคยได้รับรู้
เราไม่เคยได้รับสิทธิในการร้องขอผู้ไว้ใจ ไม่เคยได้รับสิทธิในการร้องขอทนาย
ไม่เคยได้รับสิทธิร้องขอความเป็นธรรมในการประกันตัวเพื่อที่จะออกมาชี้แจงให้สังคมได้รู้ว่า
เราไม่ผิด เราต่อสู้คดีมา 8
ปี เกือบ 9 ปีเราชนะคดี
สังคมยังไม่เคยให้โอกาสเรา ทหารและตำรวจที่จับไปก็ไม่เคยมาเยียวยาเรา
ในสิ่งนี้สังคมประนามเราแล้วว่าเราเป็นคนขี้คุก ซึ่งเราไม่ได้มีความผิดอะไรเลย
เรายืนหยัดแล้วต่อสู้มาตลอดเวลาที่เราถูกจับและดำเนินคดี
จากนี้ก็อยากจะฝากเรื่องถึงผู้ที่เกี่ยวข้อง
เป็นผู้ดำเนินการและประสานงานต่อ และจะมาเรื่อย ๆ เพื่อติดตามผล
จนกว่าเรื่องจะถึงที่สุด แหวน-ณัฏฐธิดากล่าวทิ้งท้าย
#UDDnews
#ยูดีดีนิวส์